ขายแล้วกลับแอนดรอยเลยฮะ

ส่วนตัวเคยไปจับแอนดรอยยังไงก็ไม่ชินแฮะ ยิ่งปุ่มถอยหลัง 3ปุ่มอะไรนั่นคือไม่ถนัดเลย

เห็นคนเปลี่ยนจากหุ่นเขียวมาผลไม้ หรือเปลี่ยนจากผลไม้ไปเป็นหุ่นเขียว หลายคนต้องปรับตัว แต่คนถือ 2 เครื่องแบบผม ใช้ได้ 2 อันแบบสบายๆเลยฮรี่ๆๆ ไม่มีปัญหาเลย

ปกติไอโฟนถอยกลับหลังยังไงครับ หรือต้องกดปุ่ม backของแอป ในหน้าจอด้านบนอย่างเดียว

ผมใช้ทั้ง 2 เครื่อง(14 promax,One plus8) ยังไงก็มอง Ip เสถียรกว่าเยอะ ในแง่การใช้งาน

ผมไม่เคยใช้แอนดรอยแบบจริงจังเลยไม่เข้าใจว่าจะถอยหลังทำไมหรือใช้ยังไงตอนไหน

ส่วน iphone ไม่มีปุ่มถอยหลัง สมมุติดู youtube อยู่ จะสลับไปเล่น Line ก็แค่เข้าแอปไลน์ ไม่ก็สไลขึ้น 1ทีไปเลือกแอป line มันคงลำบากสำหรับสายแอนดรอยมั้ง แต่ผมชินแบบนี้ใช้มา 10กว่าปีขี้เกียจเปลี่ยนแปลง

มันตั้งค่าให้ปัดหน้าจอเพื่อถอยกลับได้ฮะ สำหรับคนชอบจะมองว่าสะดวก และไม่มี ปุ่มมาเกะกะจอ แต่ส่วนตัวผมเองที่ถือ 2 เครื่อง ผมกลับชอบปุ่ม back ของหุ่นเขียวมากกว่า อันนี้ส่วนตัวนะฮะ เหตุผลผมชุ่ยๆเลยคือด้วยวิธีถือโทรศัพของผม ไอ้ปุ่ม back ของหุ่นเขียวมันอยู่ตรงนิ้วโป้งขวาผมพอดีเวลากดมันเลยง่าย

ProMotion ของ iPhone มันไม่ได้มี setting ที่ทำให้รันที่ 120Hz ตลอดเวลา โทรศัพท์มันปรับให้เอง ซึ่ง Samsung ก็เป็นแม้จะเป็นแอนดรอย ก็ช่วยเรื่องแบตได้ แต่มันก็จะไม่ได้ทำงานที่ 120Hz ตลอด อาจจะไม่ถูกใจสายที่ชอบ 120Hz ตลอดเวลา

อย่างล็อคหน้าจอ ของ Samsung ก็เป็น ถ้า scan หน้าก็ต้อง Swipe up to Open เหมือนกันต่อให้ปลดล็อคด้วยใบหน้าแล้ว แต่ถ้า scan ลายนิ้วมือ จะปลดล็อคและเข้าให้เลย

ดังนั้นถ้าชอบแบบมือถือที่หน้าจอ refresh ที่ 120Hz ก็ต้องไปซื้อรุ่นที่เปิดให้ปรับ refresh rate ได้เอง มือถือหลานก็น่าจะ Oneplus นะ จำได้ว่ามีให้เลือก 60Hz กับ 120Hz โดยไม่ได้บังคับเรื่อง Adaptive มือถือจีนที่ไม่กั๊กแบตให้มาแบบจุกๆ และเลือก refresh rate ได้เองน่าจะตอบโจทย์

และถ้าชอบแบบมี scan ลายนิ้วมือที่จะปลดล็อคและเข้าเครื่องให้เลยทันที ก็ต้องซื้อมือถือที่มี scan ลายนิ้ว ซึ่ง iPhone มันไม่มีมานานล่ะ

รอบหน้าก็เลือกโทรศัพท์ตามที่ตัวเองชอบ ครั้งนี้ก็ถือว่าได้มาทดลอง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าใช้เวลาอีก 3-5 ปีกว่าจะเปลี่ยนอีกเครื่อง มันจะชินมือไปแล้ว

สแกนหน้าไม่ให้ช้ากว่าได้ยังไง ของ apple มันสแกนเป็นสามมิติ สแกนหน้า android โครตกากความปลอดภัยน้อย android เอาความปลอดภัยต้องใช้แสกนนิ้วใต้จออันนั้นปลอดภัยสูสีกับ face id ของ iphone แถมเร็วด้วย

ของ samsung ผมกดปุ่มข้างๆมันสแกนเข้าได้เลยครับไม่ต้อง swipe

"แต่ถ้า scan ลายนิ้วมือ จะปลดล็อคและเข้าให้เลย"

มีแจ้งไว้แล้วนะครับ ดังนั้นก็เลยบอกว่าถ้าอยากให้เข้าได้เลยก็ต้องซื้อเครื่องที่ Scan ลายนิ้วมือได้ ไอ้ปุ่มข้างๆของ Samsung มัน Scan ลายนิ้วมือได้ ซึ่ง iPhone มันไม่มี

จอ iphone มันเป็นadaptive sync ครับ
วิ่ง1hzถึง 120hz
ทำให้ไม่กินไฟตลอด
ส่วนลื่นบางทีติด animation ด้วยแหละมันคลื่นไหวต่างกัน

ปัญหาคลาสสิคของคนย้ายค่ายจาก andriod มาใช้ iphone ไม่มีปุ่ม back 555
ส่วนคนใช้ iphone มานานๆ ก็สงสัยว่าจะมีปุ่ม back ทำไม เหมือนคนใช้ mac แล้วไม่รู้จักปุ่ม start แต่คนใช้ windows ขาดไม่ได้

ถ้าไม่ถนัดจริงๆ ก็ขายย้ายกลับเถอะครับ

ปกติ ส่วนใหญ่จะใช้ Back กับหน้าเว็บ หรือ แอป ที่มีให้กดไปหน้าอื่น แล้วสามารถกด back ได้ครับ

ส่วนถ้าจะสลับคนละแอป ก็จะกดแถบเมนู(ที่มันจะแสดงหลาย ๆ Taskให้เลือก) แล้วเลือกแอป (ไม่ได้กด Back)

ถ้าหน้าเว็บ safari ใช้ swipe back กลับได้ (ปาดจากขอบจอ)

ส่วน app อื่นๆ ต้องดูว่าออกแบบไว้ยังไง บางอันมีปุ่มให้กด back บางอัน swipe back ได้ครับ เช่น Line ก็ swipe back จากหน้า chat ไปหน้าหลักได้ แต่ back ไปหน้าก่อนรัวๆ แบบกดปุ่ม back ใน andriod ไม่ได้ วิธีคิดในการออกแบบการใช้งานต่างกัน