เรเน่ มิวเลนสตีน อดีตผู้ช่วยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกมาอธิบายถึงความผิดพลาดของ รูเบน อโมริม ตอนที่เขาเข้ามาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใหม่ ๆ ถึงการยืนหยัดใช้แผนการเล่นเดียว

ยูไนเต็ด ผลงานไม่ได้ดีจากเดิมเลยนับตั้งแต่ อโมริม เข้ามารับตำแหน่งต่อจาก เอริค เทน ฮาก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 แต่ก็ยังได้รับการหนุนหลังจาก เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์

หนึ่งในสิ่งที่แฟนบอลไม่พอใจคือความดื้อของ อโมริม ที่ยึดมั่นใช้ระบบ 3-4-2-1 ซึ่งเป็นแผนที่ไม่คุ้นตากับ "ปีศาจแดง" และดูเหมือนจะยังไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีนัก

หลายเสียงวิจารณ์ว่าผู้เล่นของ ยูไนเต็ด ไม่เข้ากับระบบนี้ โดยเฉพาะกรณีของ ค็อบบี้ เมนู ที่ต้องหลุดจากตัวจริง เพราะ บรูโน่ แฟร์นานเดส ถูกถอยลงมาเล่นต่ำในแดนกลาง ทั้งที่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของเขา

มิวเลนสตีน แสดงความเห็นกับ สกาย สปอร์ตส์ ว่า "จริง ๆ แล้ว ระบบไหนก็ไม่ผิดหรอก มันอยู่ที่ว่านักเตะสามารถเล่นตามระบบนั้นได้หรือเปล่า ถ้าเล่นไม่ได้ คุณก็ต้องปรับระบบให้เข้ากับทีม ไม่อย่างนั้นคุณก็จะทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ แล้วก็ไม่ได้อะไรดีขึ้น"

"ฟุตบอลยุคนี้ ทีมอาจเริ่มด้วย 4-3-3 แล้วเปลี่ยนเป็น 3-4-3 ได้อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างมันไหลไปตามเกม ตามแท็กติกของคู่แข่ง หรือแม้แต่จังหวะในสนาม เพราะระบบมันไม่ตายตัวหรอกครับ มันต้องปรับไปตามสถานการณ์"

อดีตมือขวาของเฟอร์กี้ยังมองว่า สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ของอโมริมยิ่งยาก คือการที่เจ้าตัวประกาศชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าจะไม่เปลี่ยนแนวทางการเล่นของตัวเอง

"ผมพูดตั้งแต่แรกเลยว่า ไม่คิดว่าเป็นเรื่องฉลาดที่เขาจะพูดว่า 'ผมจะเล่น 3-4-3 เท่านั้น และจะไม่เปลี่ยน' ถ้าเขาพูดว่า 'ผมชอบระบบ 3-4-3 นะ เคยประสบความสำเร็จกับมันมาแล้ว และหวังว่าจะใช้ได้ผลที่ยูไนเต็ด แต่ก่อนอื่นผมต้องดูก่อนว่านักเตะที่มีเหมาะกับระบบแค่ไหน ต้องดูด้วยว่าพรีเมียร์ลีกต่างจากโปรตุเกสมากแค่ไหน ถ้าไม่เวิร์ก ผมก็จะต้องปรับให้เข้ากับทีมบ้าง' แบบนี้จะดีกว่ามาก"

"เพราะถ้าเขาพูดแบบนั้น เขาจะมีอิสระในการปรับตัวมากกว่านี้ แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นเหมือนกับว่าทุกคนจับจ้องอยู่ที่เรื่องเดียว — 'ระบบ ระบบ ระบบ' — ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลย เพราะทุกครั้งที่ทีมทำผลงานไม่ได้ คนก็จะกลับมาถามคำถามเดิม ๆ ซ้ำอีก"

ยึดระบบมันก็ดีตรงที่ผู้เล่นแมนยูจะเล่นระบบนี้ไปจนจบเกมส์ แต่มันก็ดีกับขู่แข่งด้วยเพราะแมนยูก็จะไม่เปลี่ยน format ไปจนจบเกมส์เช่นเดียวกัน

ตามนั้นครับ

เป็บยังใช้ดอน แก้ปัญหาเรื่องโกล แม้จะใช้เท้าไม่ดี
ฮาลันก็ยังยิงเป็นว่าเล่น ไม่เห็นต้องบิ้วอัพจากโกลแบบเดิม

สล๊อตปีนี้จะเล่น 4-2-3-1 พอไม่เวิร์คก็ปรับกลับมาเป็น 4-3-3
ถึงผลการแข่งขันล่าสุดจะไม่เวิร์ค แต่ก็ไม่เห็นมีอีโก้

มาเรสก้า ชอบเล่น Invert ชอบให้เจมส์เล่น Invert
นัดล่าสุดยังเปลี่ยนให้กุสโต้เล่น Invert แทนเจมส์
แล้วให้ เจมส์เล่นแบ็คขวา ปิดบังโมแทน
จนบังโมทำไรไม่ได้ และชนะหงส์นัดล่าสุด

อาเตเต้นี่ชัดเลย ปีก่อนตัวสำรองน้อย
ปีนี้ตัวสำรองแน่นทุกตำแหน่ง
เผลอ ๆ ปีนี้ได้แชมป์ได้เลย

ผจก. แต่ละคนก็ยืดหยุ่นกันทั้งนั้น

ฟุตบอลมันเป็นกีฬาลูกกลมๆที่ไม่มีสูตรชนะตายตัวหรอกนะ ขนาดเป๊บยังมีช่วงขาลง เพราะงั้นคุณจะเอาอะไรมามั่นใจในระบบที่ยึดมั่นว่ามันจะใช้ได้ผลกับคู่แข่งทุกทีม ถ้าไม่ปรับตัวให้ยืดหยุ่นไปตามสภาพแวดล้อมและคู่แข่งที่ต้องเจอ คุณก็จะไม่รอดซะเอง

ยังออกมาบอกอยุ่เลยว่าไม่เกี่ยวกับระบบ

ในเมื่อไม่รู้ถึงปัญหา แล้วจะแก้ปัญหาได้ยังไง

แต่ผลงานแทบจะกากสุดใน ปวส

ก็ทนกันต่อไป

ปล่อยเค้าไปเถอะทีมของเค้า ใครพูดอะไรก็ไม่จำเป็นตัองฟัง เพราะจิมหนุนหลัง

ไม่งั้นเราคงไม่มีโอกาสได้เห็นเมาท์เล่นวิงแบ็คซ้ายอีกแล้วในชีวิตนี้

ยึดปรัชญาจนเละแบบฟาลกัล ตอนคุมแมนยูไง ตัวอย่างมีให้่เห็นมาแล้ว

พยายามเอาตัวเองออกมาอยู่ข้าง ๆ แล้วนะ ตามสบายเลย ถ้าไม่ปรับตัวเองให้ยืดหยุ่น ปรับความคิดให้เข้ากับนักเตะที่มี คิดแต่จะปลูกฝังระบบไปก่อน จนกว่าจะได้นักเตะที่ต้องการครบ กลัวจะหลุดวงโคจรไปซะก่อน


สู้ๆ นะ ยังไงเราก็ได้เป็นแค่คนเชียร์

หลังชุดนี้ กับตัวรับ ดูยังไงก็ไม่เหมาะกับยืนหลัง 3 คน

จริงครับ ทรัพยากรในมือมันไม่เหมาะก็ยังจะดันทุรัง

รู้ทั้งโลกยกเว้นริม

ดอร์กูซื้อมาได้ไง ดาโล่พอใจได้ไง แผนที่คีย์อยู่ที่วิงแบ็คแต่อ่อนขนาดนี้

คหสต. ผมว่าริมอาจจะเข้าใจคำว่ายืดหยุ่น ไม่ถูกต้องซะทีเดียวนะครับ

ส่วนตัวผมมองว่า พี่จะเล่น 3-4-2-1 ก็แล้วแต่ แต่คำว่ายืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องปรับ Formation จาก 3-4-2-1 แต่แค่ปรับการยืนตำแหน่ง การเติมเกม การลำเลียงบอล ตามสถานการณ์

ถ้าคู่เเข่งเพรซ ก็วางบอลในแนวลึกบ้าง ถ้าคู่เเข่งรับลึก ก็ค่อยๆเคาะบอลสั้น ตามช่อง

เอาตรงๆ ผมเห็นแมนยูก็เล่นเหมือนเดิม ไม่ว่าคู่แข่งจะมายังไง ผมงง

พี่เจ๊งต้องไปอบรมเรื่องระบบกับอันเช่ที่บราซิลนะ 4-3-1-2, 4-3-2-1, 4-2-3-1, 4-3-3, 4-4-2 ส่งเซ็นเตอร์แบ็กสี่คน มิดฟิลด์ตัวรับอีกสามคน เฮียแกก็เคยทำมาแล้ว