โยนาส อิริคสัน อดีตผู้ตัดสินได้ออกมาแฉถึงประสบการณ์อัน “ย่ำยี” จากการถูกเปลื้องผ้าแทบเปลือยระหว่างการถูกตรวจร่างกายโดย ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า และผู้ประเมินสมรรถภาพทางกายคนอื่นๆ

อดีตผู้ตัดสินรายนี้ได้กล่าวถึงการทดสอบเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้ตัดสินของ ยูฟ่า นำมาใช้ในปี 2010 ว่าเป็น “เรื่องน่าอับอาย” อย่างมาก

อิริคสัน เคยเป็นผู้ตัดสิน FIFA ระหว่างปี 2002-2018 ได้เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับกฎข้อบังคับอันเคร่งครัดเกี่ยวกับการโภชนาการและการดูแลรูปร่างในหนังสือเล่มใหม่ของเขา

คอลลิน่า ขึ้นชื่อในเรื่องของความเข้มงวดและความเป็นมืออาชีพ เป็นผู้นำการวิเคราะห์ร่างกายของผู้ตัดสินด้วยตัวเอง โดยบังคับมีการให้ทดสอบสายตา ทดสอบไขมันในร่างกายต่อหน้าบรรดาผู้ตัดสินด้วยกัน และสั่งห้ามอาหาร เช่น พาสต้าคาร์โบนารา หอยนางรม และเค้ก

ข้อปฏิบัติทั้งหลายทำให้เกิดความกลัวในบรรดาผู้ตัดสินฝีมือดีระดับโลกหลายๆ คน โดย อิริคสัน ได้เขียนไว้ในหนังสือ House of Cards

“อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงเรื่องของการทดสอบน้ำหนักและเปอร์เซ็นต์ไขมัน ผมละกลับรู้สึกขยะแขยง โมโห และอับอายซะมากกว่า”

“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การทดสอบ แต่อยู่ที่วิธีการดำเนินการต่างหาก” เขาเผยในบทความที่ถูกนำมาตีพิมพ์โดย The Guardian

“พวกเราค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออก [ในการทดสอบปี 2010]” เขากล่าวต่อ “พวกเรายืนเรียงแถวกันยาวเหยียด สวมเพียงกางเกงใน พวกเราคือกรรมการที่ดีที่สุดของยุโรป ผู้ตัดสินชั้นนำ บุคคลต้นแบบ ผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง บุคคลที่มีบุคลิกแข็งแกร่งและมีคุณธรรมสูง... แต่ไม่มีใครออกมาพูดอะไรเลย พวกเราแทบไม่มองหน้ากัน สายตาของเราพร่ามัวไปชั่วขณะด้วยความประหม่าขณะที่พวกเราถูกเรียกตัวไปทดสอบทีละคน”

“คอลลิน่า มองพวกเราตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเย็นชา เงียบและสังเกตการณ์ พวกเราก้าวขึ้นไปบนตาชั่งทีละคน ผมสูดหายใจเข้า ยืดหลังตรง และกลั้นหายใจราวกับว่ามันจะช่วยสร้างความแตกต่างได้”

“ผมก้าวลงจากตาชั่งและรู้สึกเหมือนยืนอยู่ในหมอก คนทดสอบคนเดิมเดินเข้ามาพร้อมคีมชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นอุปกรณ์คล้ายเครื่องจับเท็จ ซึ่งเขาเริ่มใช้คีมหนีบผมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย คาลิปเปอร์ เป็นชื่อที่เครื่องมือนี้ใช้เรียก เหล็กมันเย็นเจี๊ยบ และผมสะดุ้งเล็กน้อยทุกครั้งที่มันสัมผัสตัว”

“คนทดสอดบีบ ดึง กด วัด วัดซ้ำ พึมพำอะไรบางอย่างที่ฟังไม่ค่อยออก กดมันอีกครั้ง และบีบไปตามผิวหนังและไขมันในร่างกายของผม หลังจากวัดแต่ละจุด เขาจะตะโกนสุดลำคอบอกจำนวนมิลลิเมตรที่เขาวัดได้”

เขาเสริมว่า “ผมละสงสัยว่าทำไมผมหรือคนอื่นๆ ถึงไม่พูดอะไรเลย ทำไมเราไม่ลุกขึ้นมาพูดในสิ่งที่ทุกคนคิด ว่ามันเป็นการทำให้เสียชื่อเสียง หากผมออกมาเรียกร้องในตอนนั้น ชีวิตผมคงจบไปพร้อมกับอาชีพของผม ถ้าผมตั้งคำถามหรือท้าทายวิธีการที่ คอลลิน่า แนะนำ ผมคงไม่ได้ลงทำหน้าที่ในสนามอีก ผมมั่นใจได้เลย”

“แน่นอน ผมเองก็อยากฟิตขึ้น อยากลดน้ำหนัก และไปให้ถึงเป้าหมาย คือการเป็นกรรมการระดับโลก ชัดเจนว่าคุณไม่ควรพุงพลุ้ยน้ำหนักเกิน และชัดเจนว่าคุณควรมีร่างกายที่ฟิตเช่นกัน บางทีหลายๆ องค์กรกรรมการเองก็ต้องการความเป็นมืออาชีพเหล่านี้”

“แต่การพยายามทำเรื่องเหล่านั้นด้วยการมาแก้ผ้าชั่งน้ำหนักกันแบบน่าอายและมีวาระซ่อนเร้นแบบนี้ ทั้งที่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการลดน้ำหนักและลดเปอร์เซ็นต์ไขมันให้เหลือน้อยที่สุดต่างหาก”

แปลกตรงไหน นักมวย ก็แทบจะเปลือยชั่งน้ำหนัก

นักมวยก็แบบนี้หรือเปล่า

อายหรรมน้อย

ก็ กรรมการ มึงต้องทันเกมวิ่งทั่วสนามเอาง่ายๆ วิ่งมากกว่านักเตะซะอีก ยิ่งเกมไหนเดือดๆ ถ้ากรรมการตามเกมไม่ทัน การตัดสินก็ยิ่งผิดพลาด

เพราะฉะนั้น ร่างกายต้องสมบูรณ์ที่สุด ไม่แปลกที่จะโดนตรวจละเอียด

มันแย่ตรงไหนอ่ะ ไม่ได้ให้ถอดแล้วมายืนกลางสนามมีคนดูซะที่ไหน นักมวยเวลาชั่งน้ำหนักก็ทำกันป้ะ อันนี้แสดงว่ามาตรฐานการตรวจร่างกายกรรมการของแกโคตรเป๊ะเลยนะ มันน่ายกย่องมากกว่าจะออกมาแถว่ายังงั้นยังงี้

อันนี้คือคาบ้านโดยแท้จริงเลยนะ

ที่จริงเค้าน่าจะฉุกคิดนะว่า คำตอบมันอาจอยู่ในคำถามโดยสมบูรณ์แบบแล้วก็ได้

การที่คุณตั้งแง่ขึ้นมาว่า ไม่มีใครซักคนคิดจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูด จุดนี้คุณควรเอะใจได้ละนะ ว่าเพราะอะไร เพราะคนอื่นเค้ามองสิ่งนี้เป็นหนึ่งบรรทัดฐานของการเป็นผู้ตัดสินมืออาชีพหรือเปล่า ?

แล้วคนที่เค้าตรวจ เค้าควบคุมคุณ ทำไมจนทุกวันนี้ เค้าถึงยังได้รับการยกย่องเป็น GOAT เชิ้ตดำแห่งวงการฟุตบอล ?

อยากรุ้ว่าวิ่งทั้งเกมไหวมั้ยก็ทดสอบเอาสิ
ทำไมต้องมาแก้ผ้าวะ งง
อย่า nfl เค้าก็มีวัดทดสอบร่างกาย ไม่เห้นต้องมานุ่งเกงในโชวืหุ่นให้อยากดราฟต์
คนดังก้เพี้ยนได้นะ

ถ้าเอาตามตรรกะนี้ พวกอาชีพเน้นสมรรถนะ เช่น ตำรวจ คนงาน นี่ต้องมาแก้ผ้าดูหุ่นให้มดเลยนะ

เค้าเป็นgoatจากผลงานการตัดสิน ไม่ใช่งานบริหาร
คนแรกที่ตั้งแง่ก็จะโดนคำถามแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ทั้งผู้หญิงคนแรก คนดำคนแรก หรืออย่าง jk หลายปีก่อนก็มีน้อยคนที่ยืนข้างเค้า ก็จะถูกสังคมมองว่าไม่เห็นมีใครซักคนยกประเด็นมาพูด เอาใกล้ๆตัวหน่อยก็ไม่ยืนเพลงสรรเสริญในโรงหนัง ก่อนนี้ซักสิบกว่าปีทุกคนยืนหมดเลยนะ คนไม่ยืนคนแรกก็โดนคำถามนี้เหมือนกันมั้ย?

ผมว่าควรมาคิดวิเคราะห์ว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็น/ถูกต้อง/คสรทำมั้ย ไม่ใช่ตัดสินจากgoatเค้าว่ามา คนอื่นไม่เห็นมรปัญหา

กรรมการเมื่อก่อนหุ่นกับความฟิตแย่จริง ไม่เข้มก็ปล่อยตัว วิ่งไม่ทันเกม

จำได้ว่ายุค 90 กะ 2000 กรรมการอังกฤษเป็นอะไรที่ทุเรศสุด ๆ คือมันจะมีแต่ลีกนี้ลีกเดียวเลยนะที่กรรมการพุงพลุ้ย บางคนผอมกะหร่องเหมือนคนแก่ป่วย

กลัวใจเกเร