ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: word not enough to talk about football
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Jun 2010
ตอบ: 19142
ที่อยู่: Urban Forest
โพสเมื่อ: Thu Oct 09, 2025 00:56
<MUFC> จิมให้เวลาริม 3 ปี ปลิงก็ไม่ยุ่ง
จากเพจ ดูบอลกับแนท
#BREAKING : Carl Markham ผู้สื่อข่าวจาก Irish Examiner ได้เขียนรายงานโดยอ้างอิงจากพอดแคสต์ The Business ซึ่งจัดโดย The Times และ The Sunday Times โดยเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ยืนยันว่าได้ให้เวลา รูเบน อโมริม เฮดโค้ชชาวโปรตุเกส สามปีในการพิสูจน์ตัวเอง พร้อมย้ำว่าเขาจะไม่บริหารสโมสรด้วยการ “ตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่น”
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าเก้าอี้ของอโมริมเริ่มสั่นคลอน แต่เซอร์ จิมยืนยันว่าโค้ชชาวโปรตุเกสยังได้รับการสนับสนุนเต็มที่
“เขาอาจมีฤดูกาลที่ไม่ดีนัก แต่รูเบนต้องแสดงให้เห็นว่าเขาคือยอดโค้ชภายในสามปี — ผมมองแบบนั้น” เซอร์ จิม กล่าว
“บางครั้งผมไม่เข้าใจสื่อเลย พวกเขาต้องการให้ทุกอย่างสำเร็จชั่วข้ามคืน เหมือนแค่กดสวิตช์แล้วทุกอย่างจะกลายเป็นสีชมพูวันรุ่งขึ้น แต่คุณไม่สามารถบริหารสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยการตัดสินใจที่หุนหัน (knee-jerk reactions) ตามคำพูดของนักข่าวที่เขียนระบายทุกสัปดาห์ได้”
เซอร์ จิมเข้าถือหุ้นไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของยูไนเต็ดผ่านบริษัทเคมีภัณฑ์ของเขาอย่าง INEOS ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024 โดยเข้ามาควบคุมฝ่ายปฏิบัติการด้านฟุตบอลของสโมสร
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวเกลเซอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของหลักของสโมสรและตกเป็นเป้าของการประท้วงจากแฟนบอลมาโดยตลอดนับตั้งแต่เข้ามาบริหารทีมในปี 2005 ยังคงถืออำนาจบริหารโดยรวมอยู่
เมื่อถูกถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากครอบครัวเกลเซอร์บอกให้เขาปลดอโมริม เซอร์จิมตอบว่า
“มันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
บอสใหญ่ของ INEOS กล่าวเพิ่มเติมว่า เกลเซอร์พอใจที่จะปล่อยให้เขาเป็นผู้ดูแลสโมสรโดยตรง พร้อมเสริมว่า “คำตอบนั้นคงชัดเจนแล้ว เราอยู่ในพื้นที่ท้องถิ่น ขณะที่พวกเขาอยู่คนละฟากของมหาสมุทร”
“มันเป็นระยะทางที่ไกลเกินไปสำหรับการบริหารสโมสรฟุตบอลที่ใหญ่และซับซ้อนอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราอยู่ที่นี่ มีเท้าเหยียบพื้นจริง ๆ พวกเขาโดนโจมตีอย่างหนัก…แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นคนที่ดีมาก และมีความหลงใหลในสโมสรอย่างแท้จริง”
เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์เองก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักเช่นกัน หลังการปรับโครงสร้างและการลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ส่งผลให้มีการปลดพนักงานประมาณ 450 ตำแหน่ง และยกเลิกสิทธิพิเศษอย่างอาหารกลางวันที่สโมสรจัดให้ฟรี
“ค่าใช้จ่ายมันสูงเกินไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีคนที่ยอดเยี่ยมมากมาย แต่ก็มีระดับของความเฉื่อยชาอยู่ด้วย และองค์กรก็เริ่มเทอะทะเกินไป ผมโดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องอาหารกลางวันฟรี แต่ไม่มีใครเคยเลี้ยงข้าวผมหรอกนะ” เขากล่าว
“ปัจจัยภายนอกที่มีความสัมพันธ์มากที่สุดกับผลลัพธ์ในสนาม — ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ — คือความสามารถในการทำกำไร ยิ่งคุณมีเงินสดมากเท่าไร คุณก็สามารถสร้างทีมที่ดีขึ้นได้มากเท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่เราทำในปีแรกคือการใช้เวลาอย่างมากเพื่อวางรากฐานให้สโมสรอยู่บนพื้นฐานที่มั่นคงและยั่งยืน ”
“เรายังไม่เห็นประโยชน์ทั้งหมดจากการปรับโครงสร้างในผลประกอบการชุดนี้ (ยูไนเต็ดเพิ่งรายงานรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 666.5 ล้านปอนด์สำหรับฤดูกาลที่แล้ว แต่ขาดทุน 33 ล้านปอนด์ในปีการเงินนั้น) และเราก็ไม่ได้อยู่ในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก”
“ตัวเลขเหล่านั้นจะดีขึ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะกลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลก ตามความเห็นของผม และจากตรงนั้น ผมหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของฟุตบอลระดับสูงที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว "
แก้ไขล่าสุดโดย El Raden เมื่อ Thu Oct 09, 2025 01:02, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ