นักเตะอบจ.
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4646
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 08, 2025 01:22
ริโอ x สตีเว่น เจอร์ราร์ด Part I
ขอเน้นไปที่เรื่องทีมชาติอังกฤษก่อนเลยครับในพาร์ทแรกนี้
โดยเริ่มจากทักทายกันแล้ว ทั้งคู่ก็พูดถึงเทปก่อนโน้นที่เอา ไมเคิ่ล โอเว่น มาสัมภาษณ์ ซึ่ง โอเว่น กับ เจอร์ราร์ด โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
เจอร์ราร์ด : "ฉันโตมากับเขาตั้งแต่แรกเลยในเรื่องของฟุตบอล ฉันเลยได้เจอกับ ไมเคิ่ล มาตั้งแต่ 8 ขวบ ฉันเลยรู้จัก mentality ของเขา ฉันรู้ระดับของเขา ฉันคิดว่าบทสัมภาษณ์นั้นตรงไปตรงมาดีนะ แต่ฉันก็คิดว่ามันเป็นการที่ ไมเคิ่ล กำลังบอกทุกคนว่า 'อย่าลืมกรูเสียล่ะ' เพราะบางคน ในความเห็นฉันนะ ได้รับเครดิตเกินกว่าที่มี แต่ในเคสของ ไมเคิ่ล เขาไม่ได้รับเครดิตมากพอ ฉันคิดว่าตอนที่อายุ 17-23 ก่อนเขาจะเจ็บแฮมสตริงครั้งใหญ่ เขาไม่เป็นรองใครในตำแหน่งกองหน้า และบางทีผู้คนอาจไม่รู้จัก ไมเคิ่ล พวกเขาเห็นแค่ กองหน้าตัวเล็กที่แบบว่า หน้าตาเกลี้ยงเกลา, แฟมิลี่แมน บลาๆๆ แต่เขาเป็นตัวเถื่อนเลย เขาโคตรแสบเลยบอกให้ เป็นตัวแสบของจริงเลย"
ริโอ : "ฉันจำได้ว่าพวกผู้จัดการทีม แม้แต่ตอนที่เรายังเด็กๆ ต้องเปลี่ยนตัวเขาออก หรือไม่ก็บอกให้เขาใจเย็นๆ เพราะเขาอยากเข้าไปซัดคนอื่น"
เจอร์ราร์ด : "ใช่ คือ เราเหมือนคู่หูกันอะ ฉันคงโยนให้ ไมเคิ่ล รับไปคนเดียวไม่ได้ คือ ฉันตามเขาบ่อย เขาก็ตามฉันบ่อย เราเป็นเหมือนคู่หูเด็กเปรตในสนามอะ แบบ เขาจะเข้าก่อนเลย แล้วฉันก็จะตามไปติดๆ แต่เราสองคนเป็นเหมือนเด็กตัวเล็กสองคนที่กัดไม่ปล่อย เติบโตขึ้นมาด้วยกัน เพราะ(ตอนนั้น)เราตัวเล็กทั้งคู่ แต่เรามี mentality ที่ว่าเราไม่ชอบถูกเอาชนะ นั่นคือส่วนที่ทำให้ไมเคิ่ล เป็นอย่างที่เห็น ในความเห็นฉันนะ ไม่ใช่แค่การยิงประตูหรือความเร็ว แต่เป็นความกระหาย และ ความเป็นเด็กเปรตในตัวเขา เป็นความแสบในมุมของฟุตบอล ต้องพูดให้ชัดเลยว่า มีช่วง 3-4 ปีที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุด"
ผมไม่รู้ว่า ควรลงจนครบที่เขาแปลไหม แต่เขาแปลทาง
.......................
เห็นเลยว่าทำไมช่วงนั้นนักเตะอังกฤษเต็มทีมแต่ทำไมเล่นไม่ได้เรื่อง ความเป็นอริของช่วงนั้นนี่ชัดเจนจริงๆ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ