รูเบน อโมริม กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยที่มาของการใช้ระบบ 3-4-3 ว่ามาจากการเรียนรู้ลีกอิตาลี และวิดีโอของ โยฮัน ครัฟฟ์

อโมริม โดนวิจารณ์อย่างหนักจากแผนการเล่น และฟอร์มที่ไม่กระเตื้องขึ้นเลยจากฤดูกาลก่อน ซึ่งล่าสุดพวกเขาบุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด 3-1 ทำให้อันดับร่วงลงสู่ที่ 14

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงที่มาของแผน 3-4-3 ที่เขาใช้อยู่ในปัจจุบัน อโมริม เปิดเผยว่า "ตอนเริ่มต้นผมใช้ 4-4-2 แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปรับเปลี่ยน เพราะเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จากทีมอื่น ๆ ที่ทำให้ผมได้ไอเดียใหม่ ๆ"

"ผมโตมากับการดูฟุตบอลอิตาลี แล้วก็ชอบเปิดวิดีโอเก่า ๆ ของโยฮัน ครัฟฟ์ โดยเฉพาะการขึ้นเกมที่ใช้กองหลังสามคน ซึ่งภาพนั้นมันติดอยู่ในหัวผมเสมอ"

เขาย้อนเล่าว่า การปรับมาใช้หลังสามจริง ๆ เริ่มต้นขึ้นเมื่อทีมของเขาต้องเจอคู่แข่งที่เน้นการบุกด้วยการดันฟูลแบ็คสูง

"ปกติทีมต่าง ๆ จะขึ้นบอลโดยใช้สามคน และดันฟูลแบ็คขึ้นสูง เวลาเราใช้แบ็คโฟร์ก็จะเจอปัญหาว่าปิดพื้นที่ไม่ทัน นั่นแหละคือช่วงที่ผมเริ่มคิดว่าควรทำยังไงต่อไป"

"สำหรับผม ความสนุกของการทำทีมคือการได้ปรับมุมมองฟุตบอลของตัวเองให้เข้ากับระบบที่คู่แข่งใช้"

ถึงอย่างนั้น อโมริม ก็ย้ำว่าแม้ 3-4-3 จะเป็นแท็กติกหลักของเขา แต่ก็พร้อมที่จะยืดหยุ่นเสมอ

"ฟุตบอลมันพัฒนาไปเรื่อย ๆ ระบบการเล่นก็เปลี่ยนไปตามเวลา บางครั้งอาจต้องใช้เวลาหน่อยกว่าจะปรับจากระบบหนึ่งไปสู่อีกระบบ แต่ผมก็พยายามโค้ชทีมตามสิ่งที่ผมเห็นว่าเหมาะกับฟุตบอลในแบบของผม"

บางทีก็รู้สึกสงสาร โตมากับบอลอิตาลี ชอบวิถีโยฮัน ครัฟฟ์

แต่พี่ก็เคยใช้ 4-4-2 นิ แสดงว่า ใช้แผนอื่นได้ แต่พี่ไม่ทำไง
ทู่ซี้ใช้มันอยู่นั่น 3-4-3

แล้วไหนที่บอกว่ายืดหยุ่น ปรับหมากยังไงก็ยังเล่นหลัง 3 เหมือนเดิมทั้งที่ทีมต้องการประตูตีไข่แตก, ตีเสมอ

มองจากดาวอังคาร ก็ยังไม่เห็นยืดหยุ่นที่ตัวเองบอกว่ามีเลยสักนิดเดียว

แล้วมึงมาคุมทีมอังกฤษทำไม

vdo เถื่อนปะที่พี่ดู

คุมทีมถ้าแผนมันไม่เวิร์ค พี่ก็ต้องปรับตามสภาพทีม ตามความเหมาะสมตอนนั้นๆ แต่พี่เล่นไม่เปลี่ยน เปลี่ยนตัวก็ตามตำแหน่ง แถวบ้านผมเรียกว่า กาก

ปัญหาคือริมไม่รู้จักเอาปรับใช้และไม่รู้จักเอามาพัฒนาให้เข้ากันสถานการณ์แบบโค้ชคนอืนๆ

โถ่พรี่ีีริมเอ้ยยยย

พี่กะไม่อัพ Patch เลยหรอ

ยุคโยฮัน ครัฟ ผมไม่ทันนะ แต่ถามจริงเถอะ ยุคนี้ยังมีคนเล่น Total football แบบOriginal หรอ

ขนาดอันเช คุมแรกๆยึดติดระบบ ซาคี่ 4-4-2 ทำให้ช่วงคุมทีมแรกๆ กับยูเว่ ดันไปขายซีดาน เพราะว่านักเตะมันเล่นแผนนี้ไม่ได้ แล้วทีมก็เป๋ไป จนได้บทเรียนว่า บางทีแผนเดิมๆมันก็ไม่เวิร์ค แล้วควรดูทีมก่อนว่าเหมาะกับแผนแบบไหน

ก็ไม่เห็นอันเช่ จะเล่น 4-4-2 คาเตนันโช่ ไปตลอดเลย ก็มีปรับตามความสามารถของทีมเช่น Playermaker เราเทพใช่ไหม แล้วสามารถเป็น Freeroam ได้ แล้วกลางก็จ่ายบอลดีๆ ก็จัดไปดิ 4-3-2-1

พอยุคที่ Playermaker โดนจับทางและ คุมเชลซี ก็ใช้ 4-3-3 เพราะเห็นว่า หน้ากึ่งปีกยิงประตูได้เยอะ

กองหน้าเจ็บใช่ไหม แต่หน้ากึ่งปีกเก่ง และกลางอย่างจู๊ดก็สอดขึ้นมาได้ ก็ปรับเป็น 4-3-1-2

หรืออย่างคอนเต้ที่คนเข้าใจว่ายึดติดหลัง 3 แล้วดูแผนนาโปลีตอนนี้ซิ ใช้ 4-3-3 / 4-2-3-1 นะ

"ความสนุกของการทำทีมคือการได้ปรับมุมมองฟุตบอลของตัวเองให้เข้ากับระบบที่คู่แข่งใช้"

ตั้งแค่คุมผีมาพี่ยังไม่เคยปรับวิธีเล่นเลย นอกจากเปลี่ยนผู้เล่นลงไปเล่นคำแหน่งเดิมๆที่วางไว้

ระบบเดิม วิธีการเล่นเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนคนเล่น แต่บ่อยครั้งที่พี่เอาเค้าไปวางผิดที่ผิดทาง

เมาท์เล่นวิงซ้าย เอ็ม อาหมัด เล่นวิงขวา โน่เล่นกลางคุมเกม ดาโล่เซนเตอร์

ถ้าแบบนี้เรียกว่าปรับ ผมเชื่อพี่ก็ได้ ว่าวันหนึ่งนักเตะเหล่านี้จะเก่งกว่าเดิม เมื่อเล่นตำแหน่งใหม่ๆ

ปัญหาคือคุณติดแปรงสีฟันอันเก่าเกินไป แถมยังฟังแต่เพลงพี่ติ็ก ชีโร่ อาฮ่าๆ

Formation ไหน ไม่ติดเลย
มันติดตรง ผลลัพธ์ไม่ได้ตามเป้า แค่นั้นเอง

เป็นทีมใหญ่ทีมอื่นๆ ยังไงก็ต้องโดน
นี่ถือว่าได้โอกาสมากๆแล้ว อยู่ที่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นแหละ

ที่ต้องคิดคือ คนต่อไป จะเอาใคร
ทำการบ้านเยอะๆก็ดี

กุท้อ

เป็นตัวละครในอนิเมะใกล้ตายเหรอ

แบบท่าที่ตัวเองใช้มาตลอดไม่ได้ผล ตอนนี้เลย flashback ระลึกความหลังสมัยเรียนท่านี้ ก่อนระเบิดพลังเทพ

ในลองนัดหน้าโชว์ดิ้ บังไคหลัง3

พี่เจ๊งสัมภาษณ์เปิดทางเพื่อเล่นระบบ 4-3-3 ตามที่บอร์ดบริหารบีบมาแน่นอน จัดทีมรอเลย พี่เจ๊งในระบบ 4-3-3 พร้อมกลับไปเล่น 3-4-2-1 หรือ 3-4-3 แบบไม่ต้องเปลี่ยนตัว

คุนญ่า - เชสโก้ - เอ็มเบอโม่

เมาท์ - อูการ์เต้ - คาเซมิโร่

ลิซานโดร - เดอ ลิกต์ - โยโร่ - ดาโลต์

ลัมเม่นส์

เพียงแค่ดัน ดาโลต์ ขึ้นสูงขนาบแดงกลาง ก็กลายเป็น 3-4-3 ละอะ เมาท์ เล่นวิงแบ็กซ้าย พี่เจ๊ง มองการณ์ไกลมาแล้ว ที่ลองใช้งาน เมาท์ ในบาทบาทวิงแบ็กซ้าย ถึงเวลาโดนบอร์ดบริหารบีบให้ใช้แผน 4-3-3 ก็พร้อมเปลี่ยนระบบระหว่างเล่นอยู่ในสนามเป็น 3-4-3 ได้ทันที

คำพูดมากมาย ความหมายอีโก้

สุดท้ายก็เลือกที่จะทำตามในรูปแบบตัวเอง จริงๆมันไม่ได้ผิดนะถ้าผลงานมันดี แต่นี่ก็สภาพเดิมมาตลอด ถ้ารู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่เวิร์คยอมปรับเปลี่ยนบ้างจะไม่บ่นเลย ทีมไม่พัฒนา ยังพาถอยหลังอีก

เค้าพิสูจน์มาแล้วกับ 2 ทีมที่เค้าคุมก่อนหน้าไงว่าแผนมันเล่นได้ ไม่ได้มโนเองว่ามันจะเล่นได้
แต่มาที่นี่มันเล่นไม่ได้ และเค้าไม่เปลี่ยนก็แค่นั้น