อย่ามั่วไทม์ไลน์กันสิ จุดเริ่มต้นคือ อ ระแวงว่า พ อาจจะกำลังทำ rad ใหม่อีกรอบ rad เคยทำมาก่อน แต่หยุดส่งงบการเงินไป แต่ยังมีสินค้าอยู่

อ เลยไปซื้อหุ้น4% มาไว้ก่อน วางแผนไว้เสร็จสับ ( เอาจริงๆ คหสต. คิดว่าคนรอบตัว อ. เหลี่ยมกว่า น่าจะวางแผนให้ด้วยซ้ำ )

ไอ้พวกเรื่องต่างๆทั้งเรื่องไฟล์หาย ปลดกรรมการ บลาๆ มันเกิดหลังจากนั้น1-2 เดือนนะ

เรื่องสัญญาใจตอนก่อตั้ง บ. คือ ออมจะไม่เป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์อื่นๆ แต่ไม่เซ็นเป็นลายลักษณ์อักษร
ส่วน พ. ก็ตกลงกับ อ. ว่าสามารถไปทำธุรกิจอื่นได้ ความเข้าใจของ อ. คือ สินค้าตัวอื่นหรือธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่การค้าแข่ง
สัญญาใจพวกนี้คือปากเปล่า

ตอบข้อ 1 พ จะถือ 51% แต่คนรอบข้าง อ ไม่ยอมครับ เลยต้องมีคนกลางอย่าง ศ มาถือไว้เป็นไม้กันหมา ซึ่งคนนี้ควรจะถือหุ้นไว้เก็บตัวให้ดีที่สุด เพราะถือเป็นหุ้นสำคัญมากๆ แต่ไม่รู้ว่าความโลภบังตาหรือโดนกล่อมให้ขาย

ส่วน พ คิดว่าประมาทเกินไป ไม่คิดว่า อ จะคิดอะไรแบบนี้ ซึ่งเอาจริงๆผมว่าคนคิดวิธีซื้อหุ้น4% คือคนรอบข้างตัว อ มากกว่า

แอมไม่ได้พลาด และออมเค้าไม่ได้จะแก้แค้นเอาสะใจนะคับ
ที่ออมทำคือการปกป้องข้อมูลและผลประโยชน์ของบริษัทฟรีนครับ เพื่อป้องกันการไหลของข้อมูลบริษัทฟรีนไปสู่บริษัท rad ครับ เพราะคนทำทั้ง 2 บริษัทคือพริม ซึ่งการทำแบบนี้ถูกต้องแล้วครับ และ 4% ที่ซื้อมาก็ถือว่าราคายุติธรรมแล้วครับ จากที่ดู ลง 100,000 +ให้ 250% ถ้าเป็นหุ้นก็เด้งแรงสุดๆอ่ะครับ

เพราะถ้าปล่อยให้พริมทำ มีรึพริมจะไม่เอาข้อมูลและผลประโยชน์ไปลงบริษัทของตัวเองก่อน แล้วค่อยลงให้บริษัทฟรีนทีหลัง เพราะ rad ตัวเองกำไร 100% แต่ฟรีน ตัวเองกำไรแค่ 48%

มันไม่ต้องตกลงกันใหม่ครับ เห็นเค้าว่ากรรมการไม่มีสิทธิ์ไปตั้งธุรกิจที่คล้ายกันมาแข่งอยู่แล้วครีบ มันผิดกฏหมาย

อ่าวสรุปไม่ได้ขายละหรอ ทำไมบางข่าวลงว่าขาย แถมพ.โฟนอินเข้ามาว่าขายหุ้นไปแล้ว
แต่ขายให้พี่สาวหรือป่าว แสดงว่าธุรกิจน่าจะยังดำเนินการอยู่หรือป่าว

หุ้น rad เค้าขายไปแล้วครับ แต่ทามไลน์การขายผมไม่ชัวร์ว่าช่วงไหน แต่เรื่องความระแวงของ อ. มันเกิดจากการที่มีไฟล์ผลิตภัณฑ์ rad โผมาใน google drive แล้วทางฝั่ง อ เค้าเข้าไปเห็นเพราะ เป็น drive คนอื่นสามารถเปิดเข้าไปดูได้


ทั้งหมดทั้งมวล ผมว่าจบที่ชั้นไกล่เกลี่ยนี่แหละ เพราะเอา บ. กลางมาประเมินแล้ว พ. ขายหุ้นให้ อ. ก็จบละ ส่วนราคาหุ้นน่าจะกดต่ำลงได้อีก ถ้าไฟล์ที่หายเป็นฝีมือจากฝั่ง พ. ตรงนี้ถ้าฟ้องอาญา น่าจะหนักอยู่ แบบที่ แฟนของ อ พูดในคลิปว่า 10ล้าน ราคาก็น่าจะราวๆนั้น ไม่ไปถึง 30ล้านหรอก


ส่วน 4% 2ล้าน5 อันนั้นผมมองว่าไม่แพงไป เพราะเป็นหุ้นสำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร แต่จะเอามาเทียบบัญญัติไตรยาง ตีเป็นมูลค่าต่อหุ้นทั้งหมดไม่ได้

ก็รู้ แต่ถ้าไม่มีใครไปฟ้อง มันก็ไม่ผิดไงครับ
จกขท. ตั้งกระทู้ในลักษณะต้องการจบสวยกว่านี้ ประนีประนอม ละก็เรื่องศีลธรรมแบบ 100% ไง
เพราะถ้าจะอ้างศีลธรรมขั้นสูงสุด การไปซื้อหุ้นลับหลังแบบนี้ มันก็ไม่ใสสะอาด100% ถ้าจะว่าไป

การแก้ไขที่ดีที่สุด จึงเป็นการคุยกันไง ถ้าโจทย์คือต้องจับมือกันไปต่อ มันก็ต้องทำสัญญากันไงครับ
เพราะอะไร เพราะกฎหมายนี้ช่องโหว่มันเยอะเกินไป มันต้องมีสัญญาที่ระบุเฉพาะเลย
ว่าฟลีนจะทำอะไรบ้าง รวมถึงในอนาคตด้วย พริมห้ามทำอะไรบ้าง
สัญญาพวกนี้ทนายสายนี้เค้ารู้ว่าต้องทำยังไงจะกันได้หมด ไม่งั้นถ้าพริมมีทนายเก่งๆ มันก็เลี่ยงได้หมดอะ
และนั่นคือการหาทางลงสวยๆตามใจ จขกท.ครับ และนั่น = ตกลงกันใหม่

เพราะถ้าจบแบบนี้ มันก็จะมีคนมองว่า ไอ่ซื้อ4% นั่นมันไม่สง่างาม เป็นการจงใจฮุบบริษัท ก็เท่านั้นแหละครับ

แล้วที่เขาไปเจอไฟล์โลโก้ RAD อันใหม่ แล้วสืบเจอว่าแฟนเป็นกรรมการ RAD ที่เปิดใหม่ละครับ? อันนั้นมันต้นเรื่องที่เจอเขาเลยต้องหาทางเอาหุ้นใหญ่มาไม่ใช่เหรอ? ทำไมตัดตรงนี้ไปละครับ หรือว่ามันเกิดหลังซื้อ 4% ไปแล้วเหรอครับ

ถ้าเอาตามไทม์ไลน์ เรื่องโลโก้คือเกิดตอน มค ก่อนซื้อหุ้น 4%

เรื่องนี้พี่หนุ่มเค้าย้ำถามไปแล้วในรายการว่าทำไมไม่คุยกันก่อน ฝ่าย พ พยายามติดต่อไปชี้แจ้ง ฝ่าย อ ไม่ยอมคุยเพราะอ้างว่าไม่ไว้ใจ
ถ้าคุยกันดีๆมันก็จบไปแล้ว ยังไม่ต้องลากไปถึงเรื่องซื้อหุ้นเลย ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยกับพี่หนุ่มที่แกบอกว่าควรจะคุยกันตั้งแค่ตอนนั้น เว้นเสียแต่ว่าเจตนามันไม่ใช่

พ ถ้าทำธุรกิจค้าแข่ง ว่าไปตามกระบวนการศาลเลย ผิดว่าไปตามผิด ทั้งค้าแข่งกับทำลายเอกสารหากพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง แต่ถ้าจะต้องมาเทคไซด์ว่าคือต้นเหตุให้ ฝั่ง อ. ต้องไปซื้อหุ้นอีก 4% มา อันนี้ผมก็ไม่ซื้อแนวคิดนี้ ทรงนี้ บ. กำลังโต ไม่ช้าก็เร็วยังไง การขาย4% ก็ต้องเกิด ไม่งั้น คงยอมให้ พ. ถือหุ้น 51% ตั้งแต่แรกตอนเริ่มทำธุรกิจด้วยกันแล้ว อย่าลืมนะว่า 4%นี้ ฝั่ง พ หรือ อ ก็ซื้อได้

อีกเรื่องนึงคือการอ้างเรื่องปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท ก็ควรให้ พ ชี้แจงในที่ประชุมเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำอะไร ทำไปทำไม ควรจะแหกไปในที่ประชุมเลยตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่ๆเลย

ผมสงสาร อ ดูก็ไม่ได้อยากให้มาจบในทางนี้ แต่ไอ้คนรอบข้าง อ ผมว่าตัววางแผนเลย แล้วทั้งรายการก็มีแต่น้องสาวพูดซะ 90%

คือเรื่องมันอยู่ในศาลแล้ว แล้วก็ไม่มีใครรู้แบรนไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย มาเป็นเรื่องเพราะคู่กรณีเอามาฟ้องโหนกระแสกับฟ้องสื่อเพราะในศาลตัวเองน่าจะแพ้แน่ แล้วไม่กลัวเรื่องผลกระทบด้วยเพราะตัวเองเปิดตัวแบรนใหม่ที่ไปร่วมกับดาราอีกคน คือแพ้ในศาลเลยกะว่าจะใช้กระแสสังคมโจมตีพังแบรนนี้ไปเลยต่างหาก เพราะเรื่องมันจบตั้งแต่ทำผิดกฏหมายแล้วที่เอาผัวตัวเองไปจดบริษัทใหม่ทั้งๆที่เป็นพนักงานอยู่ในบริษัทออม คนที่เสียเหลี่ยมคือพี่หนุ่มต่างหากที่ตกเป็นเครื่องมือให้ฝั่งนี้เอามาโจมตี แล้วยิ่งไปกันใหญ่เพราะอาจารย์ภาษากายที่เอียงมาตั้งแต่บ้าน พร้อมอวดเก่งแบบมีลูกหาบคอยหาบเต็มที่ ออกตัวอย่างแรงสรุปโดนต้มฝั่งนี้บอกข้อมูลไม่หมด สาวกอวยว่าเป็นผู้เชียวชาญสรุปโดนคู่กรณีอ้อมต้มซะเปื่อย เก่งขนาดนี้ดูไม่ออกได้ยังไงว่าฝั่งนี้ผิดทั้งศีลธรรมทั้งกฏหมาย

อ มันไม่ได้ระแวงว่า พ จะไปทำ rad ใหม่ แต่ พ ไปทำแล้ว โดยที่ไม่บอก อ

Rad2 ถูกจดปี 67 ซึ่ง น้อง ของ อ ไปเช็ค หลังจากเจอไฟล์ logo rad ใน google drive ของ บริษัท fleen นั้นจึงเป็นเหตุให้ อ ไปซื้อหุ้น 4% แบบไม่บอกพริม

เมื่อมีการประชุมอีกครั้ง พ ถึงรู้ว่า ส ไม่ได้มีหุ้นแล้ว
และไฟล์งาน 400 กว่าไฟล์ก็หายไปเดือน มีนา
อ จึง ปลด พ ออกจากการเปน กบห

มีกฎหมาย ห้าม คนในกบห มีหุ้นส่วน บริษัทใหม่ ที่เป็นไลน์โปรดัคเดียวกันอยู่ เพราะงั้น อ ถึงฟ้อง พ ในส่วนนี้ด้วย

เจอหนอนแต่บอกให้คุยดีๆก่อนอย่าเพิ่งทำอะไร 5555

คุณคิดว่าถ้าออมไม่ซื้อหุ้น 4% มาก่อน แล้วไปคุยกับอีกฝ่าย อีกฝ่ายจะทำดีด้วยโดยไม่ซื้อ 4% นั่นตัดหน้าออมเหรอ

โลกสวยมั๊งครับ

ในรายการเค้าบอกว่าอีกฝั่งจดตั้งบริษัทใหม่ (บริษัทเดิมไม่ส่งงบการเงินนานจนโดนเพิกถอน) หลังจากมาร่วมทำบริษัทนี้แล้ว ​และจะทำสินค้าแบบเดียวกันขายด้วย ไม่ใช่เหรอครับ แถมที่ทางดารารู้เพราะข้อมูลหลุดมาให้เห็นในไดรฟ์ของบริษัทด้วย จนสงสัยแล้วไปตรวจสอบ