" สามหลังของ Alonso สู่แผนใหม่ที่รีลมาดริด "
.
ผ่านพ้นจนถึงวันนี้ประเด็นร้อนของแทคติกหลังสามของ Ruben Amorim นายใหญ่คนใหม่ของพลพรรคผีแดงแมนยู ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เมื่อแผนการเล่นและปรัชญาที่เขาเชื่อมัน กลับสวนทางกับผลงานของทีม จนทำให้แมนยูเริ่มต้นซีซั่นใหม่แบบขี้เหร่ที่สุดอันดับต้นๆ ในประวัติศาสตร์สโมสร ทั้งแฟนบอล, อดีตนักเตะ และกูรูต่างสับเละกับแทคติดนี้ และเรียกร้องให้เขานำระบบหลังสี่ กลับมาใช้กับแมนยูอีกครั้ง แต่เหมือนจะมีแค่ Amorim ที่ไม่ได้ยินเสียงเหล่านี้และยังคงกอดแน่นกับแทคติกของเขา
ด้วยเหตุนี้กับแผนการเล่น แทคติก และปรัชญาการทำทีม เราจึงอยากนำเสนอเคสที่อาจจะคล้ายกันบ้าง กับผู้จัดการทีมที่เคยใช้ระบบหลังสามกับอดีตทีมของเขา และพอย้ายมาทีมใหม่ก็พยายามใช้สูตรที่เหมาะสมที่สุดกับปรัชญาของสโมสร ซึ่งเขาคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน "Xabi Alonso" ที่ประสบความสำเร็จกับห้างขายยา Leverkusen และย้านกลับมาคุมอดีตทีมของเขา ราชันย์ชุดขาว Real Madrid
เราจะมาวิเคราะห์เจาะดูกันว่า Alonso เขาปรับเปลี่ยนแผนที่เขาเคยใช้กับอีมทีม ให้ยืดหยุ่นเข้าระบบของอีกทีมได้อย่างไร ตามมารับชมกันได้เลย
---------
"Xabi Alonso" ที่พา Bayer Leverkusen ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในบุนเดสลีกา โดยสร้างประวัติศาสตร์พาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาแบบไร้พ่ายในฤดูกาล 2023-2024 และคว้าแชมป์บอลถ้วย DFB Pokal และ DFL-Supercup เขาได้ใช้แทคติกที่ชัดเจนและปรับเปลี่ยนตามคู่แข่ง แต่มีคีย์หลัก ๆ ดังนี้
ระบบการเล่นหลัก
✦ 3-4-2-1 / 3-4-3 → เป็นแผนที่ Alonso ใช้บ่อยที่สุด
✦ มีการยืดหยุ่นเป็น 3-2-4-1 เวลาครองบอล เพื่อสร้างความได้เปรียบในแดนกลาง
⚽
จุดเด่นเชิงแทคติก
1. การขึ้นเกมจากหลัง (Build-up)
✦ ใช้กองหลัง 3 คน (Tah, Tapsoba, Hincapié) ที่เล่นบอลกับเท้าได้ดี
✦ คู่วิงแบ็ก (เช่น Frimpong, Grimaldo) ดันสูงเพื่อสร้างความกว้าง
✦ มิดฟิลด์คู่กลาง (Xhaka + Palacios) คอยเชื่อมเกมและคุมจังหวะ
2. เกมรุกที่หลากหลาย
✦ เน้น ครองบอลและการต่อบอลสั้น คล้ายกับสไตล์สเปน/Guardiola
✦ แต่ก็มีการเล่น โต้กลับเร็ว ใช้ความเร็วของ Frimpong, Hofmann หรือ Boniface
✦ ตัวรุกสองคนหลังหน้าเป้า (เช่น Wirtz, Hofmann) มีอิสระสูงในการหาพื้นที่และสร้างสรรค์
3. การโอเวอร์โหลดแดนกลาง
✦ Alonso มักใช้ 4 คนในกลางสนาม (เมื่อดันวิงแบ็กเข้ามาเล่นด้านใน) เพื่อครองพื้นที่ ทำให้ Leverkusen มักคุมบอลได้มากและบีบให้คู่แข่งเล่นยาก
4. เกมรับ
✦ ใช้การเพรสซิ่งเป็นโซน (zonal pressing) มากกว่าตามตัว
✦ เมื่อเสียบอล จะมีการ “counter-press” เพื่อแย่งคืนเร็ว
✦ กองหลัง 3 คน ช่วยให้ทีมมีความนิ่งเวลาโดนโต้กลับ
5. ลูกตั้งเตะ
✦ Alonso ให้ความสำคัญกับลูกฟรีคิก/เตะมุม โดยใช้การเข้าทำแบบหลากหลาย (ทั้งสั้นและโยนยาว)
✦ กองหลังตัวใหญ่ เช่น Tah, Tapsoba มักถูกใช้เป็นอาวุธ
สรุปสไตล์ Xabi Alonso
✦ เป็นฟุตบอลที่ผสมระหว่าง positional play แบบสเปน + transition football แบบเยอรมัน
✦ จุดแข็งคือ ความยืดหยุ่น → ปรับจากครองบอลใส่คู่แข่งเล็ก, ไปจนถึงตั้งรับแล้วสวนกลับใส่ทีมใหญ่ได้
✦ ใช้ผู้เล่นที่เหมาะกับระบบ: วิงแบ็กเร็ว, กองกลางคุมจังหวะ, ตัวรุกอิสระ และกองหลังที่เชื่อมบอลดี
---------
จนมาถึงวันที่ Alonso ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025 โดยเซ็นสัญญาถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2028
เขาได้วางระบบทีมที่มีจุดที่คล้ายกันกับที่ Leverkusen อยู่เยอะ แต่กับ Real Madrid ก็มีการปรับตัวหลายส่วนให้เหมาะกับนักเตะ, ความคาดหวัง, และศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้น นี่คือการวิเคราะห์โดยสังเขป:
แนวทาง / ระบบการเล่นของ Alonso ที่ Real Madrid
1. Formation / ระบบพื้นฐาน
✦ ใช้ 3-5-2 หรือ 3-5-2 / 3-4-3 บ้างในบางเกม เช่นในเกมกับ RB Salzburg ใช้ 3-5-2 เพื่อความสมดุลทั้งรุกและรับ
✦ จนเริ่มมีการทดลองใช้ 4-3-3 บ้าง โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ หลังเข้ามารับงาน เพื่อดูว่าเหมาะกับนักเตะขณะนั้นหรือไม่ และจึงใช้แผน 4-3-3 นี้เป็นแผนหลักจนถึงปัจุบัน
2. การปรับจากช่วง Leverkusen → Madrid
✦ ที่ Leverkusen ระบบ 3-4-2-1 / 3-5-2 / 3-4-3 เป็นหลัก
✦ ที่ Madrid ต้องมีการดูแลเรื่องฟูลแบ็ก / วิงแบ็กเพราะมีผู้เล่นที่เข้ากับระบบแปลก ๆ บ้าง เช่น Alexander-Arnold ทางขวา และกรณีฟูลแบ็กซ้าย/วิงแบ็กซ้ายต้องปรับตัวให้เข้ากับแทคติกของ Alonso
3. การครองบอล / ขึ้นเกม (Build-up)
✦ เน้น การครองบอล, เล่นบอลจากหลัง**, ใช้ตัวรับสองตัวในแดนกลาง (Double pivot) เพื่อควบคุมกลางสนาม
✦ Wing-backs / วิงแบ็ก / ฟูลแบ็กที่สูง และสร้างความกว้างให้กับเกมรุกและช่วย build-up จากด้านข้าง
4. ระบบการตั้งรับ / เพรสซิ่ง
✦ ใช้การเพรสซิ่งสูง (high press) เพื่อแย่งบอลกลับเร็วเมื่อเสียบอล
✦ ปรับไลน์หลังให้สูงขึ้นกว่าฤดูกาลก่อน ๆ เพื่อกดดันคู่แข่ง ไม่ปล่อยให้คู่แข่งมีเวลามากในแดนกลาง
✦ มีการใช้โครงสร้างที่ยืดหยุ่น ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นแบ็คโฟร์ (4-3-3) ก็ทำได้ เพื่อรับมือสถานการณ์หรือเพื่อใช้ผู้เล่นที่มีตอนนั้นมากกว่า
5. การใช้นักเตะ
✦ Alonso โอเคกับ rotation / สลับตัว เพื่อรักษาความสดของทีมและจัดการกับโปรแกรมการแข่งขันที่แน่น
✦ มีการใช้นักเตะหน้าใหม่ / ดาวรุ่งเช่น Arda Güler, Franco Mastantuono ให้โอกาสเล่นเพื่อเตรียมทีมในอนาคต
---------
นี้คือสูตรลับที่ Alonso ใช้ปรับจากปรัชญาเดิมของตนให้เข้ากัลขุมกำลังรวมทั้งที่สำคัญคือ "ปรัชญาของรีลมาดริด" ซึ่งจากการวิเคราะห์มันดูเวิร์คและกำลังไปได้สวย
โดยผลงานตั้งแต่คุมทีมมา มีเพียงเกมเดียวที่ปราชัย และปราชัยต้องแชมพ์ยุโรปล่าสุดอย่าง PSG นั่นก็พอเป็นขออ้างได้ว่าชุดบอลก็เป็นแบบนี้ มีแพ้มีชนะ
⚡
สถิติผลงานโดยรวม (Real Madrid ภายใต้ Alonso)
✦ บอลลีก (LaLiga 25-26) เริ่มต้นฤดูกาลได้ดี — ชนะทั้งหมดใน 3 นัดแรก (3-0 นัดหนึ่ง)
✦ เสียประตูใน 3 นัดลีกแรก 1 ประตูเท่านั้น
✦ จำนวนยิง / จำนวนบอลที่ถูกยิง อนุญาตให้คู่แข่งยิงเพียง 17 ครั้งทั้งหมด ในสามลีกแมตช์แรก — เป็นสถิติที่ “ดีที่สุด” สำหรับ Real Madrid ในการเปิดลีกนับตั้งแต่ปี 2008-09
✦ ผลชนะ/เสมอ/แพ้ใน 6 แมตช์แรกทุกการแข่งขัน 4 ชนะ, 1 เสมอ, 1 แพ้ — ความพ่ายแพ้คือที่ PSG (0-4)
✦ ผลใน 9 นัดแรกอย่างเป็นทางการ ชนะ 7, เสมอ 1, แพ้ 1 — อัตราชนะอยู่ที่ประมาณ 77.78%
⚡
จุดเด่นและสัญญาณเชิงสถิติ
✦ เกมรับแข็งแกร่งมากตั้งแต่เริ่มฤดูกาล — เสียประตูไม่กี่ลูก, คู่แข่งยิงได้น้อยมากใน 3 นัดแรกของลีก
✦ เริ่มต้นในลีกได้อย่างยอดเยี่ยม — ชนะติดต่อกันทั้ง 3 นัดแรกใน LaLiga
✦ ความสมดุลระหว่างเกมรุก & รับ — ถึงแม้จะเน้นตั้งรับและให้ความสำคัญกับการไม่เสียประตู แต่ว่าก็สามารถรักษาผลการแข่งขันที่ดี (ชนะหลายแมตช์) ได้ แม้ในสถานการณ์ยาก เช่นเมื่อเหลือผู้เล่นน้อยกว่าในเกม Champions League vs Marseille
---------
ยกตัวอย่างการปรับแทคติกอย่างยืดหยุ่นของ Alonso ในเกมเมื่อคืนนี้ แทคติกและรูปแบบการเล่นที่ Alonso ใช้ในเกม Real Madrid vs Olympique de Marseille (Champions League)
✦
ภาพรวมสั้น ๆ (ก่อนเกม / เริ่มเกม)
- ระบบเริ่มต้น (ภาพรวม) — รายงานสื่อระบุว่า Alonso เริ่มด้วยแผนการเล่นกึ่งรุกกึ่งรับแบบ 4-3-3 / หรือไลน์การขึ้นเกมจากแบ็คสู่กองหน้า (back-four build-up) เพื่อเน้นการเชื่อมบอลจากหลังและใช้ปีก (Rodrygo/ผู้เล่นทางขวา-ซ้าย) ดึงเกมริมเส้นก่อนทะลุเข้าเขตโทษ
✦
เหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแทคติก
- ต้นเกมมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่น — Trent Alexander-Arnold ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม ทำให้ต้องปรับตำแหน่งแนวรับตั้งแต่ช่วงแรก. ต่อมา Dani Carvajal โดนใบแดง (ถูกไล่ออก) ในช่วงครึ่งหลัง ส่งผลให้ทีมเหลือ 10 คน — เหตุการณ์นี้เป็นตัวกำหนดการเปลี่ยนรูปแบบแทคติกของ Alonso ในเกม
✦
การเปลี่ยนแปลงแทคติกระหว่างเกม (ประเด็นสำคัญ)
1) จาก 4-3-3 → ปรับเป็นโครงสร้างเน้นป้องกันมากขึ้น
- เมื่อเสียคน Alonso ลดความเสี่ยงทางริมเส้นและเน้นความสมดุลด้านหลัง — ให้มิดฟิลด์ถอยต่ำกว่าเดิมเพื่อช่วยปิดช่องว่าง และให้แผงหลังตั้งรับเป็นบล็อกเพื่อป้องกันการโต้กลับของมาร์กเซย
2) ย้ายไปใช้แบ็ค/เซ็นเตอร์ 3 คนในบางเฟส (practical 3-at-the-back / compact back line)
- เพื่อรับมือการเล่นตัวต่อตัวและครอบคลุมพื้นที่ช่วงที่เหลือ 10 คน โค้ชปรับให้กองหลังและมิดฟิลด์จับตำแหน่งแบบแคบขึ้น — เหมือนการเปลี่ยนไปเป็น 3-4-2 / 3-5-1 (หรืออย่างน้อยก็เป็นรูปแบบที่มีสาม CB ในการครอบคลุม) ในช่วงที่ต้องตั้งรับมากขึ้น. รายงานวิเคราะห์หลังเกมชี้ว่าเป็นการสลับรูปแบบที่ช่วยทีมรอดจากสถานการณ์ยาก
3) ยังคงเล่นแบบครองบอลเมื่อมีโอกาส แต่ไม่บุกเสี่ยง
- ถึงแม้เหลือ 10 คน ทีมพยายามรักษาการครองบอลเป็นช่องทางลดความเสี่ยง แต่จะหาจังหวะสวนหรือได้ลูกตั้งเตะ/จุดโทษเพื่อทำประตู (เกมนี้ Mbappé ทำสองจุดโทษสำคัญ)
4) เพรส/คอนเทรส-เพรส (counter-press) แบบเลือกสถานการณ์
- ทีมยังพยายามกดเพื่อแย่งบอลคืนเร็ว (counter-press) ในช่วงที่คู่แข่งเริ่มสร้างเกม แต่จะถอยเป็นบล็อกเมื่อกำลังเสี่ยงต่อการโดนสวนกลับเร็ว ๆ
✦
ประเด็นผู้เล่นที่มีผลต่อแทคติก
- การจัดผู้เล่นแถวหน้า — Alonso เลือกให้ Rodrygo กับ Franco Mastantuono / Mbappé ทำหน้าที่ปีก/หน้า ทำให้ทีมมีความเร็วและความเฉียบคมเวลาทำชิ่ง (แม้ Vinícius ถูกพักเป็นตัวสำรองในเกมนี้)
- ตัวคุมกลาง — Tchouaméni / Camavinga ถูกใช้เป็นแกนคุมกลาง/ถอยต่ำช่วยแนวรับเมื่อต้องเหลือ 10 คนและปิดช่องทางการเจาะของ Marseille
✦
สรุปเชิงแทคติก
- Xabi Alonso เริ่มเกมด้วยโครงสร้างการขึ้นบอลจากแบ็คและการเล่น 4-3-3 ที่เน้นครองบอล แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้า (บาดเจ็บของ Alexander-Arnold และใบแดงของ Carvajal) บังคับให้เขาปรับเป็นโครงสร้างที่เน้นการตั้งรับมากขึ้น — ใช้การทำให้แนวรับแคบลง, ถอยมิดฟิลด์ต่ำ และในบางเฟสทำหน้าที่เหมือน 3 หลัง เพื่อรักษาผลการแข่งขันจนจบเกม (ชนะ 2-1)
---------
ตัวอย่างนี้แสดงให้เราเห็นว่า Alonso ปรับเปลี่ยนแผนและแทคติก พร้อมทั้งนักเตะ ให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างดี ทั้งหากต้องใช้หลังสี่ หรือเปลี่ยนไปใช้หลังสาม
มาถึงตรงนี้แล้ว เราคงพอจะเข้าใจแล้วว่าปรัชญาของผู้จัดการทีมอย่างเดียวไม่อาจจะทำให้ทีมที่เคยแข็งแกร่งของเขา กับมาเป็นอีกทีมใหม่ที่ต้องใช้ปรัชญาเดิมได้ดีเหมือนเดิม หากแต่การปรัชปรัชญาของตนให้เข้ากับปรัชญาของสโมสรใหม่ อาจเป็นสิ่งจำเป็นที่โค้ชรุ่นใหม่อาจจะต้องคำนึงถึง เช่นเดียวกะ Amorim ที่ตอนนี้บอกได้เลยว่าสถานการณ์ของเขาเริ่มนับถอยหลังลงเรื่อยๆ แล้ว หากยังยึดติดกับสิ่งที่ตนเองเชื่อเพียงอย่างเดียว
แฟนๆ ของผีแดงคงต้องทำได้แค่ภาวนาให้ Amorim ใช้แนวทางหรือโมเดลเดียวกันกับ Alonso เพื่อจะทำให้แมนยู กลับมาเป็นทีมที่เล่น Direct ฟุตบอลได้อย่างน่าสนุกตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง
... และได้แต่ภาวนา ...สวัสดี
//- เปิดปุ่มสตั๊ด -//
ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=122099521581022984&set=a.122098286031022984
ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ "เปิดปุ่มสตั๊ด"
https://www.facebook.com/openthestuds