วันที่ 11 – 12 ก.ย. 68
⏰ เวลา 24.00 – 05.00 น. (2 วันเท่านั้น!)
คืนวันพุธที่ 10 เข้าวันพฤหัสบดีที่ 11 และ คืนวันพฤหัสบดีที่ 11 เข้าวันศุกร์ที่ 12
(นับตามเวลาสากล)

ลดบุฟเฟต์ จำนวน 88 สาขา ทั่วประเทศ
ไม่ร่วมค่าเครื่องดื่มรีฟิลและภาษีมูลค่าเพิ่ม

⚠️ ไม่รวมค่าเครื่องดื่มรีฟิล และภาษีมูลค่าเพิ่ม

ราคาบุฟเฟต์ 109 บาท + เครื่องดื่มรีฟิล 39 บาท + Vat 7%
ราคารวม 159 บาท Net

ส่วนตัวผมว่าเริ่มแปลกขึ้นทุกทีๆ ธุรกิจที่ต้องออกโปร dump ราคา เอาจุดเด่นคู่แข่งมาแซะ ส่วนตัวผมว่าเป็นธุรกิจที่ผมไม่ชอบเลยสักนิด ยกเว้น tech startup นะที่ผลาญ cash เพื่อเติบโต แต่ธุรกิจิอาหารนี่มัน…..

แปลกยังไง เที่ยงคืนถึงตีห้า ปล่อยของใกล้ expire ช่วงคนน้อยเคลียสต๊อคอะดิ เหมือนป้ายเหลืองเซเว่น เหมือนข้าวแกงตี๋น้อยตรงเลียบด่วนอะ

“คุ้มกว่าเอาไปทิ้ง” แค่นั้นแหละ

ยิ่งแย่เลยครับถ้าแบบนั้น มันบ่งบ่องถึงการบริหาร supply ที่ผิดพลาดเลยนะ แถมแบบนี้มันจะฝังความคิดในหัวผู้บริโภคว่า อย่าพึ่งไปแดก เดี๋ยวมันก็ลดแลกเพราะของจะ expire แย่ต่อธุรกิจที่่พึ่งกระแสแบบนี้สุดไผมว่า

เคยกินครั้งเดียว นึกถึงใจคนไปกินหลังเที่ยงคืน คือเค้านอนตอนไหน

อย่างตึง

การทำแบบนี้คือการไม่ปล่อยให้โต๊ะและพื้นที่เช่าสูญเสียประโยชน์ครับ ค่าเช่าที่มันเหมาวันไม่ได้คิดรายชั่วโมงการทำให้รายได้เกิดทุกนาทีคือสุดตีนแล้วครับ อีกอย่างการเปิดโปรแบบนี้คือการบริหารวัตถุดิบที่มีในมือด้วย คนกินมากขึ้น>รายได้มากขึ้น>ต้นทุนวัตถุดิบถูกลงเพราะซื้อเยอะขึ้น>วัตถุดิบหมุนเวียนของใหม่ทุกวันลูกค้าชอบ>แต่ค่าเช่าเท่าเดิม

ผมว่าเป็นการเพิ่มยอดมากกว่า ไม่ได้ถือว่าตั้งใจลดสู้คู่แข่งหรอกครับ เพราะ ช่วง หลังเที่ยงคืน ปกติ คนน้อยอยู่แล้ว

อย่างนี้ น่าจะมีคนนัดกันไปกินเยอะขึ้น และ กลุ่มเที่ยวกลางคืนก็อาจไปกินต่อเลยก็ได้

ไม่แปลกนะครับ บุฟเฟ่ต้องมีของเหลือเยอะกว่าปกติอยู่แล้ว แล้วมันไม่ได้เป็นแนวเดี๋ยวก็ลดสิครับ คนปกติที่ไหนกิน เที่ยงคืน-ตี5 ให้ไปกินฟรี ผมยังไม่ไปเลย

อาตี๋น้อยอย่าเริ่มทำสงครามราคา เพราะถ้าทุกเจ้าแข่งกันลด ตลาดมันจะพัง

จริงครับ ของเหลือจะทึ้งหรือจะขาย ครึ่งราคาก็ต้องขายดีกว่ารายได้=0

สำหรับคนไม่เคยไป
ขอบอกว่าหลังเที่ยงคืนถ้ามีโปรนี้
คนเต็มทุกโต๊ะครับ

จากที่บางสาขาถ้าหลังเที่ยงคืนคือไม่ค่อยมีคนแล้ว

พอมีโปรนี้บางคนรอ 2 ชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมงครึ่งเขาก็ยอม

ไปถึงเที่ยงคืนได้กินตี 2 ครึ่งก็มี


ผมมองเคสนี้ว่าประสบความสำเร็จ

1 ได้คนเพิ่ม

2 ได้ปล่อยสต๊อกของ

3 สามารถเพิ่มของสดใหม่ได้ทุกวัน แทนที่จะเอาสต๊อกเก่ามาเสิร์ฟให้ลูกค้าใหม่

4 ค่าที่ค่าไฟค่าแอร์ยังไงก็ต้องจ่าย ถ้าไม่มีลูกค้าก็คือจ่ายฟรี

เหมือนที่คุณตันบอกนั่นแหละ คือพี่แกเล่นขายทั้งวันทั้งคืนอ่ะ คนอื่นจ่ายค่าที่วันนึงขายได้ราวๆ12ชั่วโมง ส่วนตี๋น้อยขายได้ยันตี5

อย่างธุรกิจผมอันนึง วันไหนที่เรามีข้อมูลแล้วว่า ลูกค้าน้อย ผมก็จะจัดโปรเฉพาะวันนั้น

การจัดโปรอะไรนี้ มันทำให้ลูกค้าจำเราได้เรื่อยๆ เหมือนเป็นส่วนนึงในชีวิต

ทำธุรกิจอะไรก็ตาม พอลุกค้านึกถึงสิ่งนั้นให้นึกถึงเรา พอเค้าคิดไม่ออกเค้าก็จะมาหาร้านเรา เพราะจำได้

บางคนข้อมูลเยอะแยะแต่ไม่เคยเจออะไรจริงๆก็จะคิดว่า เห้ยแบบนี้แย่นะ อะไรนะ

คิดกับลงมือทำบางอย่างคนละเรื่องกันเลย

อาจจะไปรับข้อมูลมาว่า แบบร้านโดนัท ฟาสฟูด ยอมทิ้งของ ดีกว่าเอาไปแจก เพราะเอาไปแจกจะมีแต่คนมารอ

ซึ่งมันคนละเรื่องกัน

บางอย่างลองทำได้ ลองก่อนได้ ทำเลย ดีกว่า คิดคิดคิด แล้วไม่ทำอะไรสักอย่าง สุดท้ายมันก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จเพราะเอาแต่คิด เอาแต่คิดว่า ทำครั้งแรกต้องสำเร็จเลย

ข้อเสียมันก็มี แต่ข้อดีเยอะกว่าไง อย่างน้อยมันก็ทำให้เกิดการแชร์ออกไป ซึ่งสำคัญมากในสมัยนี้

ร้านมันจะเทพแค่ไหน ถ้าไม่มีคนพูดถึงมันอยู่ยากอะ