วัฒนธรรมของแต่ละสโมสรไม่เหมือนกัน ผมว่ายุคนี้มองในมุมธุรกิจดีกว่าครับ
... เลือกใช้วิธีแบบที่คุณบอก มันไม่เหมาะสมกับยุคสมัย และพื้นฐานวัฒนธรรมของสโมสรเท่าไหร่

ผลประโยชน์ของสโมสร คือ สิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้มากกว่า
ตอนนี้มี CB 4 ตัว : Konate สำคัญรองจาก VVD ถ้าเราย้าย Konate ไปเล่น U21 เท่ากับว่า เราลดศักยภาพทีมตัวเองลง (สโมสรเสียผลประโยชน์โดยไม่จำเป็น)

ตัวทีม Dof ของสโมสรเองก็ต้องประเมินด้วยครับ ถ้าจะยื่นสัญญา ค่าเหนื่อยระดับไหนที่เหมาะสม ในมุมมองของโครงสร้างค่าเหนื่อย ของสโมสร เพราะ สัญญของนักเตะอายุ 26-27 ปี ของนักเตะตัวหลัก มักจะเป็นสัญญาที่นักเตะเองก็รู้ว่าเป็นจุดที่ตัวเองจะสามารถเรียกค่าเหนื่อยได้สูงที่สุดในอาชีพแล้ว
**Konate เก่งระดับสูงอยู่ แต่ยังมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายที่ยังไม่ชัวร์กับการเล่นต่อเนื่อง อีกทั้งความนิ่งของฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด ยังไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่

ปัญหาเรื่องสัญญาของ TAA KONATE รวมถึง VVD SALAH ด้วย เกิดจากสูญญากาศ ของ DOF ช่วงเวลานึง
... Edwards และทีมงานทะยอยกันลาออก >> JK ไปให้ ชมัคเค่ มาจัดการซื้อขาย ชั่วคราว ในฤดูกาล ที่เราซื้อแผงกองกลางชุดใหม่ **แต่ไม่ได้มีแผนงานเรื่องการ ต่อสัญญานักเตะกลุ่มนี้ ที่ชัดเจน** พอมาถึงฤดูกาลที่แล้ว ที่ Edwards และทีมงานมาบริหาร บางดีลในการต่อสัญญา ก็อยู่ในห้วงเวลาที่สโมสร ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ได้เปรียบในการต่อรองสัญญา กับ นักเตะ และ Agent แล้ว ... ทำให้รูปแบบการต่อสัญญา หรือ ปล่อยให้หมดสัญญา เป็นแบบที่เราเห็น คือมองในจุดที่สโมสรได้ประโยชน์สูงสุด
ดีพอก็เพิ่มค่าเหนื่อยจนตกลงกันได้ (VVD Salah)
ถ้ายังไม่ดีพอ เพิ่มค่าเหนื่อยให้แต่อยู่ในจุดที่สโมสรประเมินว่าเหมาะสม ถ้าไม่โอเคก็แยกย้าย (ก็แค่นั้นครับ)

>> ผมว่าทีมงาน DOF ของ Liverpool ฉลาดพอที่จะรู้ว่าต้องจัดการยังไง ให้สโมสรได้ผลประโยชน์ในภาพรวมสูงสุด ครับ (จุดแข็งของ Liverpool ในยุคนี้ คือ ทีมงาน DOF ที่จัดการโดย Edwards นี่แหละครับ)