เป็นผมจะคุยกับครูให้รู้เรื่องนะ

ผมว่าลองไปคุยกับผู้ปกครองคนอื่นๆได้ไหมครับ ว่ามีลูกใครโดนคนนี้แกล้งบ้าง
ถ้าผู้ปกครองรวมตัวกันได้หลายคน ผมว่ามันจะมีมูลมากขึ้น ที่จะทำให้แอคชั่นถัดๆไปง่ายขึ้น
อย่างเช่นมีการเรียกตัวผู้ปกครองเด็กคนนั้นเข้ามาเพื่อรับทราบปัญหา และหาทางแก้ไขต่อไป

แต่ก่อนอื่น อาจจะต้องแก้ไขที่ลูกก่อนด้วย แฟนบอกไม่ให้แกล้งกลับก็เป็นทางที่ดี
แต่ต้องสอนกระบวนการป้องกันอื่นแทนครับ เช่นตะโกนว่า อย่า! หยุด! อย่าทำแบบนี้! เป็นต้น

ถัดมากระบวนการรายการครูหรือการฟ้องครู มันต้องทำให้เป็นเรื่องธรรมชาติที่ทำได้
แบบนี้ต้องพาเด็กไปจูนกับครูให้ได้ ให้เด็ก ครู ผู้ปกครองทุกคนมารวมกัน แล้วแจ้งให้เด็กทราบเลย
ว่าหากมีเรื่องอะไรให้แจ้งกับครูได้เลย ต้องพยายามหาเซฟโซนสำหรับเด็กให้ได้
ว่าถ้าโดนแกล้งให้ฟ้องครู บอกผู้ปกครอง เมื่อทำแบบนี้ทั้งครูและผู้ปกครองจะช่วยเหลือได้

ถัดมา "ไม่ใช่แกล้งค่ะ แต่เขาเล่นไม่เป็น" ตรงนี้เป็นอีกอันที่ครูต้องชี้แจง โอเคแหละเข้าใจได้ทำไมครูพูดแบบนั้น
แต่การแก้ไขจะทำยังไงมากกว่าที่เป็นประเด็น ซึ่งคือครูต้องบอกได้ว่า เมื่อเด็กคนนี้เล่นผิด จะเกิดอะไรขึ้น
คุณครูจะทำยังไง มีบทลงโทษยังไง มีวิธีแก้ไขยังไง ถ้าเด็กไม่มาบอกละ คุณครูจะรู้ได้ไง
แบบนี้ครูควรจะสร้าง Process อะไรบางอย่างเพื่อแก้ไข เช่นหาคำถามที่สร้างสรรค์เช็คเด็กอยู่เรื่อยๆ
เช่น เป็นไงบ้าง เล่นกับเพื่อนสนุกไหม มีปัญหาอะไรกับใคร ทะเลาะกับใครรึเปล่า ไรงี้ไม่รู้ เลือกคำดีดีเอาเอง

ไม่รู้สิ ผมว่าเริ่มต้นมันก็ต้องประมาณนี้มั้ง ถ้าให้ดีก็รวมผู้ปกครองเยอะๆและเข้าไปคุยกะครู
น่าจะกดดันให้ครูหาทางแก้ไขให้มันดีดีได้มากขึ้น ไปพร้อมกับข้อเสนอดีดี คิดไปหลายๆทาง

สอนให้สวนครับ ถ้าไม่สวนผมซ้ำครับ...

ผมเคย
1 ให้ครูช่วยดูแบบจริงจัง เน้นไปที่เรื่องความต่างเพศ
2 แจ้งใน line กลุ่มผู้ปกครอง ผู้ปกครองบางคนไม่รู้ว่าลูกตัวเองนิสัยไม่ดีเวลาอยู่ รร
3 บอกครูถ้ายังเกิดเรื่องอีก จะเข้าไปที่ รร เอง
4 ถ้ายังไม่หยุด จะไปพบ ผอ เอง
แล้วผมก็บอกให้ลูกผมป้องกันตัวด้วยการต่อยมันด้วย เดี๋ยวพ่อเคลียร์เอง

มีแค่สองทาง
1. ปกป้องลูก
2. สอนให่ลูกปกป้องตัวเอง

ไม่ใช่รอดูไปก่อน ต้องบอกให้เขาขอความช่วยเหลือทันที ถ้าไม่อยากสวนเอง
ก็ต้องไปบอกครู เป็นอย่างน้อย ถ้าบอก แล้วครูไม่ทำอะไร อันนี้ผู้ปกครองต้องปกป้องลูก
ขอย้ายห้องก็ได้ คุยกับผู้ปกครองเด็กคนนั้นก็ได้ แต่รอดูเฉยๆไม่ใช่ทางออกแน่ๆ

อยู่ รร คือหน้าที่ครูต้องดูแลบุตรหลานของท่านทุกคน ถ้าปล่อยให้เกิดเรื่องก็ต้องฟัดกับครูประจำชั้น>ครูใหญ่

ขั้นตอนต่อไปถ้ายังไม่ได้เรื่องก็รอเจอผู้ปกครองเด็กคนที่แกล้งแล้วคุยตรงๆ ถ้าคุยดีแล้วท่าทางฝั่งนั้นไม่ได้อีกพ่อแม่เด็กนั่นเดี๋ยวเจอกัน

ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน เป็นเด็กเล็กคนเป็นพ่อแม่ยิ่งต้องสั่งสอนดีๆสถาบันครอบครัวคือด่านแรกที่ปลูกฝังเด็ก

แนะนำให้ไปคุยกับครูใหญ่ครับ ไปเข้าหาโดยตรง บอกแกไปว่าได้เคยแจ้งครูประจำชั้นไปแล้ว แต่ก็ไม่ดีขึ้น ยังมีการแกล้งกันเหมือนเดิม ผมยังไม่แนะนำให้ท่านไปทำอะไรกับเด็กคนนั้นหรือท่านไปเจอผู้ปกครองของเด็กคนนั้นโดยตรง มันอาจจะก่อให้เกิดปัญหาบานปลาย แจ้งครูใหญ่หรือผู้อำนวยการดีสุด แล้วควรจะรีบทำด้วยนะครับ เพราะถ้าปล่อยผ่านแบบที่ภรรยาท่านบอก ลูกท่านอาจจะมองเห็นว่าพ่อแม่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้เค้า คราวหน้าเค้าอาจจะไม่อยากจะบอกอะไรท่านเพราะเห็นว่าบอกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ แล้วที่แนะนำไม่ให้ท่านไปเจอเด็กหรือผู้ปกครองฝ่ายนั้น เพราะอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ลูกท่านอาจจะมองว่าสุดท้ายผู้ใหญ่ก็ใช้กำลังในการแก้ปัญหา มันจะกลายเป็นภาพจำให้ลูกของท่าน

ปัญหาที่ครูเลยครับ การแกล้งกันมีทุก รร. อยู่ที่การจัดการของครู

ซึ่งปกติเด็กกลัวครูอยู่แล้ว ถ้าครูไม่จัดการ ก็ต้องแจ้งผู้บริหาร

เด็กๆ ต้องรู้จักการอยู่ร่วมกัน ภายใต้การดูแลสั่งสอนของครู ถ้าครูไม่ใส่ใจ จัดการไม่ได้เป็นเรื่องอันตราย และอาจเลยเถิดได้

ลองพูดคุยกับคุณครูด้วยเหตุผลอีกสักครั้งครับ ถ้ายังเหมือนเดิม ก็เก็บหลักฐานไปแจ้งผู้บริหารต่อไป

เด็กมักมีแนวโน้มจะแกล้งคนที่เมื่อถูกแกล้งแล้วแสดงอาการออกมา เพราะทำให้ผู้แกล้งรู้สึกสนุกและได้ควบคุมความรู้สึกของอีกฝ่าย ยิ่งถ้าเหยื่อร้องไห้หรือมีปฏิกิริยาชัดเจน ผู้แกล้งก็จะยิ่งรู้สึกสะใจและสนุกมากขึ้น

กลับมาเรื่องของลูกคุณ

ตัวลูกคุณเข้าใจว่าประถมต้นเเล้วต้อง
1. ระวังตัวเองก่อนอื่น อย่าไปอยู่ในรัศมี ช่วงเวลา สถานที่ที่เขาแกล้งได้ง่าย เช่นไม่มีผู้ใหญ่

2. ถ้าหาเพื่อนได้อยุ่กับกลุ่มเพื่อนที่ช่วยเป็นพยาน แต่กรณีคู่กรณีเก๋าเกมกว่า จะรู้จังหวะเวลาลงมือได้ และครูก็มักจะพอรู้ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเด็กมึนมาก ค่าก็เเล้ว ตีก็เเล้ว ยังไม่ปรับพฤติกรรม อันนี้ความยาก x2 x3

3. ลูกไม่กล้าฟ้องครู ฟ้องเเล้ว โดนแกล้งเยอะกว่าเก่า ฟ้องเเล้วครูช่วยอะไรไม่ได้ในความคิดเขา แบบนี้ ผแคต้องเดินเกมเอง อย่าปล่อยให้เด็กจัดการเองเพราะลูกคุณไม่สามารถจัดการด้วยตัวเอาเอง

ผปค จัดการยังไง
1. ไลน์ โทรหาครูประจำชั้น แจ้งให้รับทราบ แจ้งไปเรื่อยๆทุกครั้งที่เจอ ลูกต้องให้ความร่วมมือ
2. ลุยเองไปที่ รร เข้าพบฝ่าธุรการขอเจอครูต่อหน้าเลย ถ้านัดได้ขอเจอ หัวหน้าระดับชั้น
3. คุยขอให้ครูจัดการแยกเด็ก ย้ายที่นั่งย้ายห้อง ตักเตือน แจ้ง ผปค คู่กรณี แต่เคยเจอ ผปค ก็เอาลูกไม่อยู่
4. ถ้าครูระดับชั้นจัดการไม่ได้ ลุยต่อไป ผอ
5. ถ้า ผอ จัดการไม่ได้ไป ร้องหน่อยงานต้นสังกัด ว่ามีเหตุการณ์ ทำร้าย บูลลี่ สภาพแวดล้อมไม่พึงประสงค์และ รร เพิกเฉยยังไง

ส่วนใหญ่จบที่ครูประจำระดับชั้น

หมายเหตุ: มีคนแนะนำให้ “เอาคืน” หรือใช้ความรุนแรง ซึ่งจากประสบการณ์บางกรณีอาจได้ผล แต่ไม่ใช่ทุกสถานการณ์ เพราะถ้าเจอกับคนที่มีพฤติกรรมประสาท ผู้แกล้งอาจยิ่งสนุกและเล่นแรงมากขึ้น ถ้าจะเลือกใช้วิธีนี้ ควรสอนลูกให้รับผลลัพธ์ได้ด้วย เพราะจากผู้ที่เคยถูกแกล้ง อาจกลายเป็นคนทำผิด และเสี่ยงติดนิสัยใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา พอโตขึ้นและเจอสถานการณ์รุนแรงขึ้น อาจเสียใจภายหลัง แม้ว่าการใช้กำลังดูเหมือนจบเรื่องทันทีตอนนั้น แต่ในบางรายความรุนแรงก็ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างแท้จริง

ไม่อยากมีเรื่อง = แจ้งครู ผอ

อยากมีเรื่องก็จัดเลย

มันทำเรา เราทำคืน กดสบู่ใส่แก้วแปรงฟัน เทน้ำในแก้วใส่หน้ามัน

เอาน้ำลายป้ายหน้า เราก็บ้วนใส่หน้ามัน ทำมาทำกลับไม่โกง

แต่ต้องทำทันที ไม่งั้นเวลาผ่านไป มันจะไม่ใช่การตอบโต้แบบเร่งด่วน เป็นการรอเอาคืน

สมัยนี้เลี้ยงยากเพราะเน้นอยากคุยกับลูกทุกเรื่อง บางเรื่องอย่างเรื่องนี้ก็ไม่รุทำไงอะปวดหัว กลายเป็นต้องสอนต้องบอกต้องตามเช็ดทุกเรื่อง

สมัยเราผมก็โดนบ่อย แต่ก็ต้องจัดการปัฐหา จัดการความรู้สึกเอาเอง มันเรียกการเอาตัวรอด ซึ่งมันหลอมคนให้แกร่งอะผมว่า เด็กสมัยนี้พูดกับพ่อแม่ทุกเรื่องได้มันก็ดี แต่บางที่มันก็ต้องใช้ประสบการณ์เองอะ โดนล้อโดนแกล้งไม่จำเป็นว่าจะเป็นปมเสมอไป

ตอนเด็กเคยโดนเพื่อนพ่อมันเป็นตำรวจ ขู่จะเอาพ่อมันมาจับพ่อผม ผมนี่อย่างกลัวมันเลย กลัวไม่ได้ดูไซอิ๋ว ทั้งๆที่ไม่รุว่าจะมาจับพ่อเราทำไม พอโตขึ้นมานี่อย่างฮา แต่ตอนนั้นก็เอาตัวรอดมาได้ไม่ได้ฟ้องด้วย

ผมไม่มีลูกถ้ามีลูกจะสอนมวยไว้ป้องกันตัว เอาประสบการณ์ตรงตอนเด็กเลยสมัยประถามมเล่าให้ฟัง โดนเพื่อนที่เป็นหัวโจกห้องชอบแกล้งวันนึงทนไม่ไหวถึงขั้นชกต่อย หลังจากนั้นมันไม่เคยมาแกล้งอีกเลย เพื่อนที่ต่อยกันทุกวันนี้เป็นเพื่อนกันยังคุยกันอยู่เลย

เรื่องเอาคืน อย่าพึ่งเบียวเยอะครับ จะปลูกฝังใช้อารมแก้ปัญหาป่าวๆ เข้าใจก็ต้องรุ้จักป้องกันตัวเอง แต่่เด็กพึ่งอนุบาลสอง ยังแยกแยะไม่เป็น เดี๋ยวติดนิสัย ผมว่าก็ต้องคุยกันคนที่ใหญ่กว่าครูไปเรื่อยๆนะคับ ถ้าโรงเรียนดี อาจจะขอคุยกับผู้ครองเด็กด้วยก็ได้

ผมสอนลูกตอนเด็กว่าให้ตะโกนดังๆเลยครับ แบบดังที่สุดเท่าที่จะดังได้ อย่างสมมุติ เพื่อนเหยียบเท้า เราตะโกนเลย โอ้ย นายเหยียบเท้าเราทำไม แล้วพอครูมา ค่อยฟ้องครู

แต่ถ้าเขาต่อยเรา เราต้องบอกให้หยุด ถ้ายังทำอีก ให้ชกคืนได้เลย เดียวพ่อกะแม่ ไปเคลียร์กับพ่อแม่มันเอง ถ้ามันมีพ่อแม่โง่ๆ พ่อจะกระทืบหน้าพ่อมันให้


พอโตขึ้นประถม ผมสอนลูกว่าให้รู้จักมนุษย์สัมพันธ์กับคนอื่น อย่าทำตัวเกเร ให้ทำตัวเป็นเซฟโซนให้เพื่อน ถ้าเห็นคนถูกรังแกต้องช่วยเหลือ แล้วเพื่อนเราจะเยอะเอง พอเพื่อนเยอะ พวกบลูลี่ก้อจะไม่กล้าไปเอง ใช้ได้ยันจนมัธยมครับ

ป.ล การแก้ไขบลูลี่ แก้ไขจากลูกเราเองครับ เอาคนอื่นมาแก้ไข มันเป็นการแก้ไขแบบชั่วคราว ถ้าลูกเรามีภูมิคุ้มกันดี ลูกจะรู้จักป้องกันตัวเองครับ สู้ๆนะครับ

กลัวหัวหดเลยครับเคสนี้

ตอน ป.1 ผมเคยจิ๊กการ์ดยูกิเพื่อนแล้วไปแอบหลังป้อม รปภ ช่วงเย็น

พ่อเพื่อนมารับพอดีก็ไปฟ้องพ่อ พ่อเดินมาดุผม ผมกลัวตัวสั่นเลยยังจำขึ้นใจเหตุการณ์นั้น