BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 3751
ที่อยู่: โอกิยูกะและลูกพี่คือทุกสิ่ง
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2025 23:50
กระแสน้ำแอตแลนติกอาจหายไปใน ‘ช่วงชีวิตของเรา’


- หัวหน้าฝ่ายสภาพอากาศของคณะกรรมาธิการยุโรปเตือน หลังนักวิทยาศาสตร์ชาวดัตช์ระบุว่ากระแสน้ำแห่งนี้กำลังอ่อนลงเร็วกว่าที่คิด”

ระบบไหลเวียนกระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกเมอริเดียน หรือ AMOC (The Atlantic Meridional Overturning Circulation) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระแสน้ำกัลฟ์สตรีม ที่ไหลเวียนไปทั่วโลกช่วยกระจายสารอาหาร แร่ธาตุ และที่สำคัญที่สุดคืออุณหภูมิซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อสภาพอากาศบนแผ่นดิน อาจเริ่ม ‘ล่มสลาย’ หรือหยุดนิ่งในช่วงทศวรรษ 2060 ที่จะถึงนี้

หาก AMOC หยุดไหลเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ กระแสน้ำกัลฟ์สตรีมก็มีแนวโน้มที่จะหยุดไหลด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นอาจทำให้ภูมิอากาศของทวีปยุโรปหนาวเย็นยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา นักวิทยาศาสตร์เรียกร้องให้ลดการปล่อยก๊าซเชื้อเพลิงฟอสซิลลงอย่างรวดเร็วเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

“(กระแสน้ำกัลฟ์สตรีม) พัดพาน้ำอุ่นจากเขตร้อนขึ้นเหนือ ทำให้ฤดูหนาวของยุโรปตอนเหนืออบอุ่นกว่าภูมิภาคในละติจูดเดียวกันเช่น แคนาดา มาก” วอปเคอ โฮคสตรา (Wopke Hoekstra) กรรมาธิการด้านสภาพภูมิอากาศของยุโรป กล่าว “การศึกษาใหม่นี้ระบุว่ากระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมอาจล่มสลายในช่วงชีวิตของเรา”

- เครื่องปรับอากาศของซีกโลกเหนือ

AMOC เป็นกระแสน้ำมหึมาของโลกที่ได้ฉายาว่าสายพานลำเลียงความร้อน โดยมันจะพาน้ำอุ่นจากเขตร้อนเช่น แคริเบียนและอเมริกาใต้ไหลขึ้นไปทางเหนือ น้ำเหล่านี้จะปล่อยความร้อนสู่อากาศเมื่อมันเดินทางมาถึงยุโรปตะวันตกและแถบมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ

สิ่งนี้ทำให้ทำให้ยุโรปตอนเหนืออบอุ่นกว่าอเมริกาตอนเหนือที่อยู่ในละติจูดเดียวกัน พร้อมกันนั้นน้ำที่เย็นลงแล้วจะจมลงใต้ทะเลลึกและพาคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดูดซับจากบรรยากาศลงไปด้วย ซึ่งช่วยบรรเทาวิกฤตก๊าซเรือนกระจก

ไม่เพียงเท่านั้นการไหลเวียนเหล่านี้ยังนำแร่ธาตุสารอาหารจากใต้ทะเลลึกขึ้นสู่ผิวน้ำ ช่วยให้ระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตดำเนินต่อไปได้ นอกจากนี้ AMOC ยังทำงานร่วมกับกระแสน้ำใหญ่ ๆ ในมหาสมุทรบริเวณอื่นของโลก ช่วยให้เกิดรูปแบบสภาพอากาศที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

“การไหลเวียนของ AMOC ได้รับการระบุว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งของระบบภูมิอากาศ มันขนส่งความร้อนและเกลือผ่านมหาสมุทรทั่วโลก และลดผลกระทบความรุนแรงต่อสภาพอากาศในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก” ทีมวิจัยเขียนผ่านรายงานที่เผยแพร่บนวารสาร Journal of Geophysical Research: Oceans

พร้อมเสริมว่า “เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบระดับโลกที่อาจรุนแรงเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ AMOC ในปัจจุบันได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดร่วมกับอาร์เรย์การสังเกตการณ์หลายชุดในมหาสมุทรแอตแลนติก”

AMOC จึงเป็นเหมือน ‘เครื่องปรับอากาศ’ ของซีกโลกเหนือ หากมันอ่อนกำลังลงอย่างมาก ยุโรปอาจเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นขึ้นมาก ขณะที่เขตร้อนจะร้อนมากเกินไป นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า AMOC เป็นหนึ่งใน ‘จุดแตกหัก’ ของสภาพอากาศโลก หากมันล่มสลาย มันก็ไม่มีทางย้อนกลับได้อีกต่อไป

- การวิเคราะห์ใหม่

รายงานใหม่จากมหาวิทยาลัยอูเทรคต์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ทำการวิเคราะห์แบบจำลองสภาพอากาศ 25 แบบที่จำลองโลกในสถาณการณ์แตกต่างกันไปเช่นอุณหภูมิเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต่ำไปถึงสูง ซึ่งพบว่าหากโลกอยู่ภายใต้สถานการณ์การปล่อยมลพิษระดับปานกลาง

หรือก็คืออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 2.7 องศาเซลเซียส (°C) เมื่อเทียบจากยุคก่อนอุตสาหกรรม ภาวะโลกร้อนอาจทำให้ AMOC เริ่มการล่มสลายตั้งแต่ปี 2063 นี้ โดยในปัจจุบันโลกมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1.3°C แล้ว และมีแนวโน้มที่จะเดินทางไปถึง 2.7°C ตามแผนเกี่ยวกับสภาพอากาศของรัฐบาลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ไซเบรน ดรายฟ์ฮูต (Sybren Drijfhout) หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์มหาสมุทรและโลก มหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน และนักวิจัยจากสถาบันอุตุนิยมวิทยาแห่งเนเธอร์แลนด์ ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษานี้ ทว่าได้จัดทำในการศึกษาอีกชิ้นที่เผยแพร่ในเวลาใกล้เคียงกัน ก็ให้ผลไปในทางเดียวกัน

“จากแบบจำลองปัจจุบัน เราสรุปได้ว่าความเสี่ยงที่ AMOC ทางตอนเหนือที่จะปิดตัวลงนั้นสูงกว่าที่เคยคาดการณ์” ดรายฟ์ฮูต บอก เขาได้ข้อสรุปว่ากระแสน้ำแห่งนี้จะปิดตัวลงหลังปี 2100

หากโลกปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงซึ่งเป็นไปได้ยาก แต่หากเกิดขึ้นก็มีโอกาสที่ AMOC จะล่มสลายเกิน 70 เปอร์เซ็น ขณะที่สถานการณ์ระดับปานกลาง (มีความเป็นไปได้มากที่สุด) AMOC ก็มีโอกาสปิดตัวลง 37 เปอร์เซ็น และแม้จะจำกัดภาวะโลกร้อนให้ต่ำกว่า 2°C ก็ยังคงมีโอกาส 25 เปอร์เว็น

นักวิทยาศาสตร์เรียกร้องให้มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกลายเป็นประเด็นสำคัญน้อยลง

“มีความรู้สึกจากภายนอกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศถูกมองข้ามไป เพราะเรามัวแต่ยุ่งกับการจัดการข้อกังวลเร่งด่วนอื่น ๆ” โฮคสตรา กล่าว “ความก้าวหน้าต้องใช้เวลา มันไม่ใช่เส้นตรง แม้จะมีเวลาที่ความสนใจลดน้อยลง”

“ดังนั้นขอขอบคุณนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เป็นอย่างมากที่ทำให้เราตระหนักถึงปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังอีกครั้ง”

ที่มา https://ngthai.com/environment/79303/gulf-stream-could-collapse-lifetime/?fbclid=IwY2xjawMirR5leHRuA2FlbQIxMABicmlkETFwVVQ2TFF0NXloWEJpMFZvAR5DRQ40RRBuNQkQEZziG_7Fkstl_4VaBQm0YrxPCX7CKxw1IdO4pBvxBEq8Gw_aem_ZpGVqxzfpbiSuVNY_D_D0Q
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Feb 2010
ตอบ: 5322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 02, 2025 00:08
[RE: กระแสน้ำแอตแลนติกอาจหายไปใน ‘ช่วงชีวิตของเรา’]
โลกเลยจุดย้อนกลับไปแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Mar 2007
ตอบ: 1285
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 02, 2025 00:18
[RE: กระแสน้ำแอตแลนติกอาจหายไปใน ‘ช่วงชีวิตของเรา’]
จะช้าจะเร็วยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้น มันเป็นวัฏจักรของโลก แค่มันซวยมาเกิดในยุคนี้ ยุคที่เรายังมีชีวิตอยู่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Oct 2009
ตอบ: 10300
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 02, 2025 00:33
[RE: กระแสน้ำแอตแลนติกอาจหายไปใน ‘ช่วงชีวิตของเรา’]
ในทุกๆ 1000 ปี ก็มีหลายเหตุการณ์
ทุกๆ100ปีก็มีหลายเหตุการณ์
ทุก10ปี ก็มีหลายเหตุการณ์
และทุกๆปีก็มีอีกหลายเหตุการณ์
ยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้น
ทุกอย่างมันคือพลังงาน มันก็วนเวียนอยู่ในโลกเรานี่แหละ จะรีบู๊ท รีเซ็ท มันก็คือพลังงานทั้งหมดในโลกเรา
แค่มันจะเกิดในอายุเรามั้ย
แก้ไขล่าสุดโดย เอซีมิลาน เมื่อ Tue Sep 02, 2025 00:34, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Sep 2007
ตอบ: 12122
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 02, 2025 03:20
[RE: กระแสน้ำแอตแลนติกอาจหายไปใน ‘ช่วงชีวิตของเรา’]
"หรือก็คืออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 2.7 องศาเซลเซียส (°C) เมื่อเทียบจากยุคก่อนอุตสาหกรรม"

ระยะเวลาแค่ 200ปี อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นถึง 2.7องศา

ถ้าย้อนไปยุคก่อนอุตสาหกรรม อุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลงช้ามาก โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับ 0.1–0.2 °C ต่อ 1พันปี

ยุคธรรมชาติ: 0.1–0.2 °C ต่อพันปี

ยุคอุตสาหกรรม: 1–2 °C ต่อร้อยปี

นั่นหมายความว่าการปฏิวัติอุุุตสาหกรรม มันทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นเร็วกว่าการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ หลายสิบเท่า ถึงร้อยเท่า

แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมมันเลวร้ายและไม่เป็นผลดีต่อโลกใบนี้เลยสิน่ะ
การที่บางคนบอกว่าอุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้โลกพัฒนา แต่สำหรับผมกลับมองว่ามันทำให้โลกย่ำแย่ลงมากกว่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 362
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 02, 2025 03:46
[RE: กระแสน้ำแอตแลนติกอาจหายไปใน ‘ช่วงชีวิตของเรา’]
หลายๆครั้งที่นักวิชาการ วิทยาศาสตร์ ออกมาวิเคราะห์ แนะนำเกี่ยวกับพวกโลกร้อน ธรรมชาติเนี่ย หลังๆรู้สึกมันเริ่มไม่ได้ตั้งอยู่ในหลักพื้นฐานธรรมชาติละ

มนุษย์ไม่มีทางที่จะหยุดธรรมชาติ หรือต้องการให้มันคงที่ได้ ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ มันก็จะหาทางเปลี่ยนแปลงปรับสมดุลของมันไปเอง จนถึงจุดๆนึงมันอาจจะคงที่ใหม่ และมันก็อาจจะเปลี่ยนแปลงใหม่อีกรอบ มนุษย์แค่ต้องปรับตัวให้ทันกับมัน ไม่ใช่พยายามหาทางหยุดมันไม่ให้เปลี่ยนแปลง เพราะไม่มีทางทำได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Feb 2010
ตอบ: 7816
ที่อยู่: เชียงใหม่
โพสเมื่อ: Tue Sep 02, 2025 04:23
[RE: กระแสน้ำแอตแลนติกอาจหายไปใน ‘ช่วงชีวิตของเรา’]

ภาพใหญ่มันก็ชี้ไปที่การหาแหล่งพลังงานหลักใหม่ไปเป็นนิวเคลียร์นั่นแหละมั้ง

พลังงานทางเลือกอื่นทำมามันก็ไม่ได้ลดการพึ่งพาจากฟอสซิลเท่าที่ควร
เพราะมันไม่เสถียรนี่แหละ
แล้วน่าจะไม่มีทางจะเสถียรด้วย ยุค AI นี่ยิ่งเข้ามาเร่งการบริโภคพลังงานเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"This is Bussiness"
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel