พังทั้งทีม!!!

"เชลซี เซ็นสัญญานักเตะไปแล้ว 51 คนใน 4 ฤดูกาล และมันแสดงให้เห็นจากผลงานของพวกเขา ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเซ็นสัญญาไม่ถึง 20 คนด้วยซ้ำ"

"แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงพึ่งพา แม็กไกวร์ ,บรูโน่ ,ดาโลต์ และ ชอว์ ผมไม่ได้จะดูหมิ่นนะ แต่คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้ ในขณะที่ยังคงทำอะไรแบบเดิมๆ"

"ครั้งนึงผมเคยเจอ โจเอล เกลเซอร์ แค่ครั้งเดียวในการประชุมบอร์ดเมื่อเดือนมกราคม ผมบอกเขาว่าเราต้องสร้างทีมใหม่ทั้งหมด เราต้องปล่อยนักเตะทุกคนออกสู่ตลาด แต่เขาหัวเราะ และคิดว่าผมล้อเล่น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย"

"ก่อนผมย้าย ผมบอกสโมสรว่าต้องผ่าตัดหัวใจครั้งใหญ่ พวกเขาจบอันดับที่ 15 และก็ยังทำผิดซ้ำซาก การเซ็นสัญญากับนักเตะ 10 คน คนละ 20 ล้านปอนด์ ดีกว่าเซ็นสัญญาแพงๆแค่ 4 คน"

"ใน 10 คนที่ราคาถูกจะสร้างอิมแพ็คได้มากกว่าการเซ็นแพงๆ 4 คน"

— ราล์ฟ รังนิค

**ถ้าตาม รังนิค ว่ามาคือต้องไปทั้งทีมครับ แต่มันต้องใช้เวลาเยอะจริง อาจจะ 2-3 ตลาดเลย

#UnitedBlood #ManUtd #Mufc #GGMU #ข่าวแมนยู

ปล จริงใช่ไหมที่แกพูดแบบนี้

ก็อปจากเพจ unitedblood นะครับ

ไม่อ่ะทำแบบนั้นแล้วจะมีโค๊ชไว้เพื่ออะไร

ไม่เห็นด้วยครับ เพราะทีมนี้มันเคย Top4 ได้ทุกครั้งที่เปลี่ยนกุนซือ และ เข้าชิงแชมป์ ลุ้นถ้วยเล็กอยู่เรื่อยๆ แสดงว่านักเตะเองพอมีศักยภาพอยู่ แต่ปัญหาอาจจะขาดตรงความสม่ำเสมอ และไม่ได้เหมาะกับทุกแผนเฉยๆ

รวมถึงแผนทำทีมแกนกลางก็ไม่มี ย้อนหลังจริงๆผีก็ซื้อตัวบ่อยแต่ก็โละตัวบ่อยเช่นกัน แถมเป็นการโละตัวที่เพิ่งซื้อมาอีก

ยังไงผมก็ยังมองว่าแค่เอากุนซือที่เหมาะกับแผนมาแล้วปรับทีม 2-3 ตัว ก็พอลุ้น Top4 + ถ้วยที่ไม่ใช่ลีคได้แล้ว ยังไงทีมไม่ได้แย่ขนาดครึ่งตารางล่างแน่ๆ

squad member ยุครังนิก 30++ คน เหลือเป็นชุดหลักตอนนี้ตามที่แกบอก คือ แม็กไกวร์ ,บรูโน่ ,ดาโลต์ และ ชอว์

(ไม่นับแกงค์ไวรัสที่ถูกตัดออกจากทีมรอจำหน่าย และดาวรุ่งยุครังนิคที่ตอนนี้ขึ้นชุดใหญ่อย่าง อาหมัด และ กานาโชที่เพิ่งย้าย)

"ก่อนผมย้าย ผมบอกสโมสรว่าต้องผ่าตัดหัวใจครั้งใหญ่"..ก็ไอ้จำนวน 30 กว่าคนสมัยแก ตอนนี้เหลืออยู่แค่ 4-5 คนละ

มันก็เรียกผ่าตัดใหญ่แล้วแหละ แค่ค่อยๆผ่าไม่ใช่ถ่ายทิ้งทีเดียวหมด แต่ผลงานวันนี้ก็ไม่ได้เห็นจะต่างจากวันที่แกเป็น interim เท่าไหร่

จะบอกว่าพอไม่ได้ขายทิ้งทั้งก้อน ไอ้ที่เหลือเลยค่อยๆแพร่เชื้อใส่คนที่ทยอยเข้ามา ก็ไม่น่าจะขนาดนั้นนะ ผมไม่ซื้อไอเดียของแกอ่ะ

"การเซ็นสัญญากับนักเตะ 10 คน คนละ 20 ล้านปอนด์ ดีกว่าเซ็นสัญญาแพงๆแค่ 4 คน" จริงหรอ??

เกรด 20 ล้านตอนนี้ก็จะได้ตัวแบบที่ซันเดอร์แลนด์ ซื้อเข้ามาตลาดนี้ (บางตัวราคาเกินด้วย) หรือแบบ เบน โด๊ค ที่ไม่เคยเป็นตัวจริง

เอาพวกนี้มารวมกันเล่น แล้วคาดหวังผลงานระดับไหน? ตั้งเป้าเหมือนซันเดอร์แลนด์(ซื้อยกทีมเหมือนกัน)ที่รอดตกชั้นพอ ได้มั๊ย?

เชลซีที่บอกซื้อไป 51 คน แต่เกรดนักเตะที่ทำให้ผลงานขึ้นระดับสูงคือเกรดราคาแบบ เอนโซ่ ไคเซโด้ คูคู พาร์เมอร์ เนโต้ ฯลฯ

ตามความเห็นผม คำตอบไม่ใช่แค่เรื่องจำนวน (หว่านมั่วก็เจ๊งอยู่ดี) แต่ต้องเป็นการซื้อที่ถูกต้อง ถ้าแผลมันเยอะและมีหลายจุด

ก็เลือกปิดแผลจุดสำคัญจุดใหญ่ก่อน แล้วไล่ไปจุดเล็กลงเรื่อยๆ จนปิดครบ..ไม่ใช่ล่อแต่ของถูกมาแปะทั้งตัว แผลมันก็ไม่หายซักจุด

คำว่าล้างทั้งทีม อย่างอูกาเต้เพิ่งมาปีก่อน อยู่ในข่ายต้องล้างทิ้งด้วยมั๊ย ถ้าไม่เริ่มจากการซื้อที่ถูกต้องก่อน มันก็ล้างไม่มีวันจบหรอก

4 คนในราคาแพงมันมาพร้อมกับความกดดัน ความคาดหวังและอีโก้
ในขณะที่นักเตะราคาถูกมันจะมาพร้อมกับความกระหายและความต้องการพิสูจน์ตัวเอง

ใน 10 คนที่ราคาถูกจะสร้างอิมแพ็คได้มากกว่าการเซ็นแพงๆ 4 คน = อาจจะถูกในบางสถานการณ์แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

เห็นด้วยในมุมคนวางโครงสร้างเพราะรังนิคพูดในมุมนั้นไม่ใช่แค่มุมโค้ช ซึ่งการวางโครงสร้างเพื่อจัดการใหม่ทั้งหมดสิ่งที่รังนิคเห็นและสัมผัสด้วยตัวเองได้ส่วนนึงคือวัฒนธรรมองค์กรและมันก็มีผลจากผู้เล่นในทีมที่มีอยู่ ณ เวลานั้น

แต่ในมุมเจ้าของทีม MUFC ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ความคาดหวังจากแฟนบอล + สปอนเซอร์ที่ส่งผลต่อรายได้ของทีม นักเตะบางคนอาจจะอยู่ในสัญญาระหว่างสโมสร + สปอนเซอร์ เราจะเห็นได้จากข้อมูลเรื่องส่วนแบ่งค่าภาพลักษณ์ระหว่างนักเตะกับสโมสร ทีมที่มีแบรนด์ดิ้งอย่าง MUFC ตัดเรื่องการเทขายนักเตะออกไปได้เลย ถ้าไม่เสริมเข้ามาก่อนในทางธุรกิจมีปัญหาแน่

เอาโค้ชที่มันดีๆเข้ามาก่อน

ผมเห็นด้วย
ทั้งมูทั้งเทนฮากสำหรับผมในสนามไม่ได้แย่เลย แต่ต่อยอดไม่ได้เพราะเรื่องผู้เล่น
อย่างมูพอมีตัวที่เริ่มไม่โอเคมีไวรัส ทีมก็ไม่ซัพพอร์ต พวกนั้นก็ยังอยู่ต่อ อย่างหลังซื้อไบญี่ ลินเดอเลิฟ มาไม่เวิรคเจ็บบ่อยฟอร์มห่วยก็ต้องทนใช้ไป จะซื้อแต่ละตัวขายแต่ละตัวช่างยากเย็น

เทนฮากปีแรกดีเลย ปีสองต่อยอดไม่ได้ จุดที่เห็นชัดๆสำกรับผมคือตัวคุมเกมตำแหน่งอีริคเซ่น คู่กลางคาเซอีริคเซ่น โคตรดีเลยแต่แก่มากจะไปสู้ใครได้ระยะยาว ดูมาดริดคาเซแก่ก็มีตัวตำแหน่งเดียวกันมาแสตนบายสองตัวถ้ามาดริดเก็บคาเซไว้คาเซก็จะไม่ช้ำโชว์ฟอร์มระดับโลกได้อีกยาว หรือถ้าขายก็ได้เงินทีมไม่กระทบเพราะมีตัวใหม่สองสามตัวทดเเทนแล้ว แล้วดูแมนยูคาเซแม่งต้องลงทุกนัดตะบี้ตะบันใช้ เพิ่งมีอูกาเต้มาช่วยปีที่แล้วแต่ก็เห็นอยู่ว่ายังไม่พอ ดูลิพูลปีก่อนโน้นตลาดเดียวซื้อกลางมาทีสามตัวแก้ปัญหาในตลาดเดียว ปีนี้จบปัญหาแบ็คซ้ายขวา ส่วนแมนยูใช้ดาโลต์กี่ปีแล้ว

แล้วถ้าทีมซื้อตัวเจ๋งๆ แม่งคงไม่มีเคสเด็กเก่าโง่ๆห่วยๆแพงเกินราคาอย่างที่เห็น
อย่างมูซื้อเลิฟซื้อไบญี่มาห่วยมั้ง พอจะซื้อกลางเลยต้องไปเอาเด็กเก่าอย่างมาติชเพื่อความชัวร์ เชลซีแม่งได้โอกาสขายของเก่าไปถอยกองเต้เลย

อย่างเทนฮากก็ทั้งโอนาน่า แอนโทนี่ คือถ้าทีมมีสเกาท์มีทีมซื้อขายแข็งๆน่าจะนำเสนอตัวที่ดีกว่าได้ หรือบอกได้เลยว่าแอนโทนี่ราคาไม่เกินเท่าไหร่แล้วมีจุดยืนค้านเทนฮากได้

สำหรับผมเทนฮากเนี่ยตายเพราะซื้อขายเลย เมาท์นี่ก็คงซื้อเพราะไม่รู้จะซื้อใคร เอามาก่อนวะ แล้วปลายตลาดกราฟเด็กเก่าที่ตรงสเป็คจุดคันดันจะถูกขายแต่ซื้อเมาท์ไปแล้ว ถ้าเทนฮากได้กราฟมาผมว่าเทนฮากอาจจะโอเคกว่านี้กลางคงไม่เปื่อยโดนกดกระจุยกระจาย

เฉยๆ ให้เครดิตแกมากไปด้วยซ้ำ พูดเหมือนคนใน ss กันนี่แหละไม่ได้ต่างอะไร พอทำก็ไม่ได้ดีอะไร ผมมองว่าโค๊ชแมนยูโดนแฟนปกป้องมากไปด้วยซ้ำ โทษทุกอย่างยกเว้นโค๊ช

รังนิก กลับมารับตำแหน่งแทนแดน สิ

แม็กไกวร์ ,ดาโลต์ และ ชอว์

ได้ลงเพราะแมนยูเติมของที่ดีกว่า ไม่ทัน

มันมีทีมไหนขายนักเตะให้แมนยู 20 ล้านบ้านนะ
แค่ชื่อทีมลอยมาก็ +ราคา2เท่าละ

แมนยูตอนนี้แพ้ทีมอื่นเรื่องกลยุทธ์วิธีการเล่น ผมว่าเห็นเหมือนกันเกือบทั้งโลก นักเตะตัวเออเร่อร์มีเหลืออยู่ไม่เกิน 4 คน สักหนึ่งตลาดผมว่าพวกนี้ไม่เหลือแล้ว ก็เหลือแต่จะรออโมริมมันเก่งเอง หรือว่าแค่เปลี่ยนโค้ชก็เท่านั้น

คุณไม่สามารถสร้างตึกใหญ่ได้จากเสาไม่ผุๆ ผมเห็นด้วยเรื่องผ่าตัดทีม เห็นด้วยมานานแล้ว

แต่หน้าที่การคัดคนออกก็ให้ผู้จัดการทีมจัดการไป

รังนิคค่อนข้างไม่ชอบนักเตะสตาร์อยู่แล้ว แล้วพูดเชิงว่า ซื้อโนเนมหลายคนเน้นปริมาณเีกว่าบิ๊กเนม เพราะถ้ามาแล้วสร้างความแตกต่างไม่ได้ก็เท่ากับเอาเงินไปจม

ทั้งค่าตัว ค่าเหนื่อย แถมปล่อยยาก ขาดทุน ผลที่ตามมาคือไม่เห็นกำไร

ซึ่งถ้าซื้อตามที่แกว่า ความเสี่ยงน้อยกว่า ในแง่ของธุรกิจ ในเรื่องของฟุตบอล แน่นอนว่าพวกมาใหม่ก็มักจับกลุ่มมาใหม่ด้วยกัน พอตังเก่าๆออกหมดตัวใหม่ๆมันก็จะเล่นได้ง่ายขึ้น บรรยากาศทีมก็จะไม่ต้องเกรงใจอะไรกันอีก

ก็ตั้งแต่ ราล์ฟ รังนิก ออกไป ทีมก็เสริมแทบจะทั้งทีมแล้ว เหลือตัวเก่าแค่ไม่กี่คนเอง ปัญหาของยูไนเต็ดคือ ไปเอาของเหลือจากทีมใหญ่ทีมอื่นมาทำไม และซื้อตัวเกรดบีในราคาเกรด A-S ซะเยอะ เซิร์กเซ่ ฮอยลุนด์