แป้งในที่นี้หมายถึง แป้งปกติเช่นข้าวขาว, มันฝรั่ง ที่ไม่ใช่ processed food แบบขนมปังที่มีเนยผสมหรือมียีสต์มาช่วยทำให้เกิดปฏิกิริยา

- พอไปอ่าน comment ในเพจหมอหรือ content สุขภาพส่วนใหญ่ กินข้าว กินมันฝรั่ง ดัชนีน้ำตาลพุ่งจนคนเริ่มกลัวการกินแป้ง ซึ่งข้าวขาวตามร้านขายข้าวแกงหรือร้านตามสั่งมีขายทั่วไป หากินง่าย (ถ้าคนเป็นเบาหวานก็ควรกลัว ควรปรึกษาหมออีกที)​

- OK ว่าข้าวกล้องแน่นอนล่ะว่าดีกว่าอยู่แล้ว แต่ไปซื้อกินตามเวลาไปออฟฟิสไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาร้านที่มีข้าวกล้องขาย จนคนเริ่มกลัวการกินแป้งจนกินคาร์บปกติไม่ถึงสัดส่วนต่อวัน




(case จริง สูตร HDL สูง Tri ต่ำ High protein low carb ออกกำลังกาย แต่ LDL สูงกลับเป็นโรคหัวใจ)


- กลับกันพอไปอ่าน content เกี่ยวกับไขมัน กลับพบว่าตอนนี้หลายคนเริ่มไม่เชื่อแล้วว่า LDL สูงมันไม่ดี เป็นแค่การตลาด ตราบใดสัดส่วน HDL สูงไม่ต้องกลัว ทั้งๆที่หลาย case มากที่ สัดส่วน HDL สูง แต่ LDL สูง ก็พบเจอคนป่วยโรคหัวใจ หรือ LDL ต้องไปดูอีกว่า LDL ไม่ดีหรือไม่ดี ซึ่งหมอหัวใจก็ให้ความรู้ว่าต่อให้เป็น LDL ประเภทไม่อันตราย ถ้ามีเยอะๆ ดูดกลับไม่ทันก็อันตรายอยู่ดี




และ อเมริกาก็ยังเอาเรื่อง LDL เป็นเกณฑ์​อยู่ในการรักษาไม่ใช่สูตรสัดส่วน HDL

ถ้าพูดถึง American Heart Association เวลาจัดอันดับไดเอทประมาณ 100 กว่าตัวรายปี อ้างอิงจากวิธีการและงานวิจัยใหม่

พวก High fat กินไขมันเยอะ ก็มักจะอยู่ท้ายๆเสมอนะ

ส่วนอันดับต้นๆจะเป็น whole food เช่น เมดิเตอร์เรเนียนไดเอท กินผักกินหญ้าถั่วเต็มเมล็ด ที่ไม่ผ่านกระบวนการมากนั่นแหละ

จริงๆคนไทยประยุกต์ได้ง่ายมาก ผักเราเต็มตลาด มีทุกหน้า ถูกด้วย ถั่วจะเอาเท่าไร แต่คนรุ่นใหม่ติด ultra processed food ซะแล้วเลยบอกไม่ค่อยมีเวลา วงจรความอิ่มจากการถูกกระตุ้นด้วย addictive factor ตลอดเวลามันก็เพี้ยนไป ตอนนี้คนหนัก 120-130 กิโลใน กทม มีให้เห็นจนไม่รู้สึกผิดปกติละ

ในอเมริกานี่ก็เป็น new healthy standard ด้วยซ้ำแต่ไม่มีคนพูดถึง NCDs ที่จะตามมา

ส่วนอย่างอื่นนี่ผมไม่รู้ low carb ก็ติดประมาณที่ 20 กว่า IF สิบกว่ามั้งถ้าจำไม่ผิด

หรือถ้าคนที่บอกว่ากิน high fat, high carb แล้วดี ก็ต้องดู condition ด้วยว่าเขาอยู่ระดับเดียวกับเราไหม เป็นพนักงานกินเงินเดือนทำงานนั่งโต๊ะ เครียด นอนยาก หรือว่าเป็นนักกีฬาเข้ายิมวันละ 2-3 รอบ

เค้าไม่ได้บอกให้งดกินแป้งนิ

เค้าให้กินน้อยลงไม่ใช่หรอ

คือถ้าคุณออกกำลังกาย คุณกินไปเถอะ

เค้าแค่บอกว่า ถ้ากินเกินไปเนี่ย มันแปรรูปในร่างกายเป็นน้ำตาล => สะสมเป็นไขมันอีก

แล้วพวกเพจส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนับสนุนให้ไปกินพวก ultra processed food นิ

ดูถ้า จขกท อินบังบอยไปเปล่า ตั้งแต่กระทู้ก่อน ๆ หน้าละ

ผมกับ จขกท กำลังปรับการกินกันอยู่ครับ ลองดูอีก 3 เดือนว่า LDL จะลงไหม

ผมว่าดูกลัวอะไรกันเวอร์หมดแล้วอ่ะ มันข้ามขั้นไปแบบ พวกไม่ดูแลไม่สนใจ แล้วก็ไป เป็นพวกสนใจจนหลอน กลัวไปหมด แป้ง โซเดียม ไขมัน น้ำตาล แบบนี้มันพวกโปร พวกเล่นกล้ามโหดๆแล้ว ถ้าพวกคนทั่วไปปกติแค่หันมาสนใจ ดู cal in cal out คุมนิดหน่อย ออกกำลังกาย มันก็พอละ

ส่วนตัวเลขต่างๆมันแย่เพราะเรากินแบบไม่สนใจอะไรมาทั้งชีวิต มันก็ต้องค่อยๆปรับ ค่อยๆเปลี่ยน ใครค่าไหนไม่ดีจากตัวไหนก็ค่อยไปงดเป็นตัวๆตามที่แพทย์แนะนำ จะมาหวังปรับหลังตรวจแล้วตรวจรอบหน้าเลขดีเลยอันนี้ก็เวอร์ไปเหมือนกัน

จากประสบการณ์ที่คุยกับหมอกับนักโภชนาการที่ตรวจสุขภาพผมมา 45 นาทีตอนฟังผล
1.อาหารควรทาน real food(คืออาหารที่เราปรุงได้ในครัวไม่ใช่โรงงาน) และทานให้ครบ 5 หมู่ และควรทานให้ครบ ในมื้อเดียว เน้นคำว่าในมื้อเดียวด้วยนะ
2.ควรทานอาหารหลากหลาย ไม่ควรทานอะไรซ้ำๆไปตลอดแบบผมเมื่อก่อน(ผมทำเพราะมันคำนวนสารอาหารง่าย)
3.track อาหารที่ทานถ้ามีอาหารเสริม และควรระวังเรื่อง overdose วิตามินบางอย่าง(เช่นD ที่มากไปนิ่วถามหา) (สังกะสีที่ผู้ชายแนะนำกันมาก ถ้ามากไปจะขัดขวางการดูดซึมแร่อื่น)

แล้วพวก carnivore diet นี่มันยังไง

กลัวแป้งกลัวผัก แดกแต่เนื้อกับไขมัน

ผอมอะชัว แต่เรื่องอื่นมีบทสรุปยัง

ปริมาณเหมาะสมครับ ไม่ใช่เยอะ พอเห็นคำว่าแป้ง เหมือนทำไมต้องมีปฏิกิริยากับคำว่าแป้งครับ หรือผมเขียนย่อหน้าแรกไม่มากพอ กับ ขยายความเรื่องสัดส่วนไม่มากพอ? แค่เห็นคำว่าแป้งก็รู้สึกโดนเส้นแล้ว?

เค้าโฟกัสไปที่รูปร่างมากกว่าโรคภัยนะผมว่า

ผมไม่ได้มี trick อะไรกับแป้งนะครับ

เพราะผมก็กินแป้งปกติ และออกกำลังกายอยู่แล้ว

แค่จะบอกว่า ถ้าคุณไปยัดแป้งรัวๆ แล้วคุณไม่ออกกำลังกายเลย มันก็ไปกอง พวกเพจหมอหลายๆเพจ หรือเพจรักสุขภาพ ก็เลยบอกให้ลดแป้งนะ ถ้าอยากลดน้ำหนัก ซึ่งมันก็ไม่ผิด

ส่วนความเชื่อใครก็ความเชื่อมันละกันครับ ทุกวันนี้ ตามเพจไหนมักจะมีลูกเพจ เฮโลด้วยเสมอ ไม่เว้นแม้แต่เพจหมอที่แนะนำลดคาร์บ

ปล.ผมเห็นด้วยกับ จขกท นะ ถ้าเอาจากแค่ในที่เอามาโพส ก็คงเป็นผลจากความเชื่อเรื่องลดคาร์บแหละครับ แต่ก็นะ อย่างที่บอกไป ความเชื่อใครความเชื่อมันครับ natural selection เลย

ระดับของ Insulin จริงๆก็ correlated กับการสร้าง LDL รึเปล่าครับ

ดังนั้นถ้าแก้ด้วยการรักษาระดับ Insulin ไม่ให้สูงจนเกินไป
ก็น่าจะเป็นการป้องกันในระดับ Root cause