สายเทคอยากแนะนำน้อง ๆ ที่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ยังไง เรียนเขียนโปรแกรมไปเลย หรือเอาฟิสิกส์เป็นหลักเหมือน 2 คนนี้



อ่านต่อได้ที่นี่

สุดท้ายถ้าไม่รู้เรื่องโปรแกรมแล้วจะชัวร์ได้ยังไงว่าที่ AI เขียนมามันถูก

ต้องเป็นคนเก่งจริงๆ
ถึงจะต่อยอดจากฟิสิกส์และเลข
ขึ้นมาเป็นโปรแกรมเมอร์เขียนโค้ด

ถ้าเป็นคนธรรมดามีความฝันทั่วๆไปชอบเทคโนโลยี
ผมว่าเรียนโค้ดเขียนโปรแกรม ai ตอบโจทย์กว่าครับ
เพราะกว่าจะเข้าใจและเชี่ยวชาญผมว่าแก่ก่อนและไม่ทันได้ทำงานหาเงิน

เค้าไม่ได้บอกว่าไม่เอา Coding เลยน่ะครับ



อันนี้ถูกต้อง
เพราะ Programming มันคือ Applied Sciences
แล้ว Applied Sciences คือการต่อยอดจาก Pure Sciences 4 สาขาหลัก (Math, Physic, Bio, Chem)

ถ้าแม่นพื้นฐานโดยเฉพาะ Math และได้ Systematic Thinking จาก Physics
ก็จะต่อยอดในการทำงานด้านโปรแกรมมิ่งหรือเอาไปพัฒนา AI ได้สูงมาก

ขยายความอีกนิด
ในยุคนี้ที่ใครๆก็ Dev ได้ เพราะแหล่งความรู้มีเต็มเนทไปหมด Tools ช่วยเหลือในการเขียนโปรแกรมก็มีเยอะ
หลายคนจะเข้าใจผิดว่าเขียนโค้ดได้ = เป็น Dev แล้ว

จากมุมมองผมที่เคยเป็นโปรแกรมเมอร์แก่ๆคนนึง และเรียนแบบดั้งเดิม (Com-Sci 4 ปี)
มองว่า Dev รุ่นใหม่โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้เรียนแบบเต็มๆมา หลายคนขาดพื้นฐานแนวคิดการออกแบบ logic หรือการคิดแบบเป็นระบบนอกเหนือจากการเขียนโค้ดน่ะ
คือมองเฉพาะ module ที่เขาทำ มันก็ทำงานได้แหละ แต่พอเอาไป plug เข้ากับส่วนอื่นๆ มักจะมีข้อจำกัดเยอะ หรือเอาไปพัฒนาต่อยากเพราะไม่ได้วางโครงไว้ให้ดี

สิ่งเหล่านี้มันได้จากการเรียนวิชาหมูเห็ดเป็ดไก่ตลอด 4 ปี ทั้ง Computer Architecture, Data Structure, Object Oriented, Algorithm, etc. ซึ่งคนที่ไม่ได้เรียนเต็มๆมามักจะไม่ได้ศึกษาเรื่องพวกนี้ลึกมาก

ผมว่า 2 วิชานี้มันเล่นกับตรรกะพื้นฐานแบบถ้าเข้าใจจริงๆ มันจะต่อยอดง่ายกว่า
ส่วนถ้าแค่เรียนและจำและสอบผ่าน สุดท้ายออกมาพื้นฐานไม่แน่น ไม่เข้าใจที่มาที่ไปก็จะเป็นพวกที่แค่เขียนโค้ดได้แต่ประสิทธิภาพการทำงานหรือการเสกลอั้ปไม่ได้

ผมจบ วิศวะคอมนะ ก็ถูกครับ เพราะทั้ง 2 อย่างเป็นพื้นฐานที่เอาไปต่อยอดได้

เอาจริงๆการเขียนโปรแกรม มีพื้นฐานมาจาก เลขแทบจะ 80%-90% เลย
ส่วน ฟิสิก ก็เป็นพื้นฐานไปต่อยอดเรื่อง hardware อีก

แต่ เลข เป็นพื้นฐานของทุกอย่าง แน่ๆ ไม่ใช่แค่คอม

น่าจะเป็นความเป็นตรรกะ ความเป็นเหตุเป็นผล สมการทาง แคลคูลัส และกลศาสตร์ต่างๆทางฟิสิกส์ ไหนจะ นิวมอริคัลเมดตอด มันจะสร้างโลกได้เมื่อเอามาใช้เขียนโปรแกรม แหละเพราะถ้าเขียนโค๊ดเป็นอย่างเดียวมันสร้างหุ่นยนต์ไม่ได้ มันต้องดีไลฟ์สูตรที่มาของสูตรได้ เดานะ ไม่รู้ว่าพวกแกต้องการสื่ออะไร แต่มันจำเป็นในการทำหุ่นยนต์อัตโนมัติมากเลย เพราะครั้งนึงเคยเรียน dynamic ตอนแรกคิดว่าก็คงพวก static solid อะไรเทือกนั้น แต่ดันไปเจออาจารย์ที่เป็นที่ปรึกษาทีมโรบอททีมชาติยุคนึง แกสอน ดีไลฟ์สูตร อย่างเดียวเลย ลูกตั้มแกว่งได้สมการอะรไแบบไหน เข็นกล่องบนพื้นเอียงได้สมการแบบไหน แค่ลูกตุ้มแกว่ง สมการ 2-3 หน้า 5555 มันจัด แล้วเมื่อเราเข้าใจความเป็นเหตุเป็นผลจะ ทำให้เข้าใจ if else ง่ายขึ้จะเข้าใจการเขียนโค๊ดเช่น ภาษาC ได้ง่าย หรือ apply ได้ง่ายขึ้น แล้วนำไปประยุกต์กันไปต่อได้ มันไม่ใช่แค่การทำโรบอท การทำคำสั่งอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม ในโปรแกรมสำเร็จพวก DCS ก็ยังใช้ พวก if else ต่างๆ เขียนฟังก์ชั้นอัตโนมัติในแพลนท์ได้อย่างละเอียดเลย

ให้ผมไปเรียน pure physics,pure math นอกจากเป็นอาจารย์ แล้วผมจะทำมาหาแด๊กอะไรล่ะครับ...

คนจะเขียนโปรแกรมได้มันต้องเรียน math,Physics เบื้องต้นอยู่ละ

เพราะ math มันคือพื้นฐานก็ของการเขียนโปรแกรม และเป็นพื้นฐานฟิสิกส์

สุดท้ายคือถ้าคุณเป็น Programmer สาย AI คุณจะรวยสุดครับ...

มันได้แค่ logic ครับ

โปรแกรมเมอร์เขียนโค๊ด มีวิชาขั้นสูงเพื่อพิสูจน์ว่าโค๊ดนั้นจะกลายเป็นโค๊ดที่ไม่สามารถใช้จริงได้ในอนาคตเช่นพวก NP complete อันนี้ก็ต้องใช้การวิเคราะห์ + คณิตศาสตร์ครับ.

AI ก็ยังไปไม่ถึงเหมือนกันครับ.

แต่ถ้าจะรู้จักฟิสสิกขั้นต่อไป ต้องไปดูพวกที่ไม่ได้แทนจำนวนครับ.
ไม่รู้เรียกอะไรเหมือนกัน ประมานว่า จริงๆแล้ว 1+1 แทบไม่เคยได้ 2 ในโลกความเป็นจริง.
ก็เลยมีวิชามึนๆมาศึกษาเรื่องพวกนี้ให้มันตรงกับความเป็นจริงขึ้นครับ.
เคยอ่านผ่านๆน่าสนใจดีครับ มันจะมีประโยชน์น้อยกับเรื่องง่ายๆ แต่มันจะแม่นยำกว่าในเรื่องสเกลใหญ่ๆอย่างพวกอวกาศครับ.

ฟิสิก และ คณิตศาสตร์ มันก็คือ เรื่องพื้นฐานของโปรแกรมเมอร์

ประเด็นนี้ จากประสบการณ์ ผมจะเลือกสาย Math มากกว่า Coding

ในโปรแกรมระดับสูงมันคือ คณิตศาสตร์และ ฟิสิกส์ล้วนๆ

คนที่ฟังก์ชั่น ใน Core Model มันคือหลักการคณิตศาสตร์ล้วนๆๆ

Code พอเข้าใจหลักการใช้เวลา เดือนสองเดือน ในการเรียนรู้ภาษา

แต่คณิตศาสตร์ในการ คิดหลัก ฟังก์ชั่น หรือการสร้าง Process Loop แม่งเป็นอะไรที่ยากและซับซ้อนชิบ

คนที่บอกว่าไม่เรียนเขียนโปรแกรมจะรู้ได้ไงว่าถูกแปลว่าไม่ได้เรียนทั้ง 2 อันจริงจัง
ทุกวันนี้เขียนโปรแกรมเป็นเพราะ 2 วิชานี่แหละ
ทุกวันนี้เขียน C++ เป็น เพราะวิชา computational physics เลย

ผมจบ Com-Sci ที่เรียนวิชาเกี่ยวกับคณิตศาสตร์หลายตัว พวก Discrete Math, Linear Algebra ฯลฯ ผมก็ยังมองว่าคณิตศาสตร์สำคัญกับการเป็น programmer อยู่ดีนะ dev เก่งๆที่ผมรู้จักและทำงานด้วย มี background ด้านคณิตศาสตร์กันหมดเลย แม้หลายๆคนจะไม่ได้จบ Com-Sci โดยตรง แต่ก็เก่งคณิตศาสตร์มาจากสาขาที่ตัวเองเรียน

เคยมีเพื่อนคนนึงทำงานด้านการศึกษามาปรึกษาว่าถ้าอยากให้เด็กไทยเก่ง coding ควรเน้นยังไงดี ผมก็ตอบว่ายังไงก็เน้นคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ (และภาษาอังกฤษ) ไว้ก่อน ต่อให้เด็กโตไปไม่อยากเป็น programmer แต่ก็มีพื้นฐานความคิดที่เป็นระบบจะไปเรียนอะไรก็เข้าใจได้ง่าย

math มันคือ การแสดงวิธีทำ และหาที่มาของสูตร นั่นแหละครับ

ซึ่งมันคล้ายๆกับ Coding อยู่ละ พื้นฐานพวกนี้มันสำคัญสุดๆ

4 ปีคล้ายๆกันเลยครับ
วิชา programming เรียกได้ว่าแวะเรียนตัวละเทอมขำๆ
math นึหนักๆเลย
ปี 3-4 นี่ของผมเลือกสายไปเฉพาะทางละ

ไม่แม่น math ก็เจอเด็กสมัยนี้ที่เขียนได้นะ แต่ถามว่าทำไมทำแบบนี้ ตอบไม่ค่อยได้ เหมือนระบบวิธีคิดไม่ได้เป็นแบบแผน รู้แค่จะทำอะไรให้ได้ผลลัพธ์ยังไง

โปรเจคเล็กๆก็พอทำได้ แต่ performance ไม่ดีอีก ถ้าต้องไปต่อ แตกยับๆ