turbo เปลืองกว่าครับ เห็นครอบครัวขยาย city 1000turbo ไปซื้อ hev กันเต็มเลย

จากประสบการณ์ที่ใช้ทั้ง2แบบ

hEV ประหยัดกว่าเยอะครับ

อย่าลืม Turbo คือลดขนาดพ่วงเทอร์โบ ที่ตามมาคือฉีดน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้เพิ่ม ---> กินน้ำมันครับ

ถ้าวิ่งทางไกล ผมถือว่าไม่ต่างกันนะ

แต่รถไฮบริดจะมาได้เปรียบในเมือง

เพราะคลานๆหยุดๆ ถ้าเป็นน้ำมันล้วน เครื่องจะออกแรงเยอะมาก

แต่ถ้ามีไฟฟ้าช่วย มันก็เซฟไปได้เยอะเลย

เพราะเครื่องออกแรงน้อย

บางรุ่นก็ไม่ออกแรงเลยด้วย

เอาง่ายๆเลย
ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ประสิทธิภาพต่อพลังงาน ดีกว่าน้ำมัน
ดังนั้นรถแบบไหนที่ใช้ไฟฟ้าเข้ามาขับเคลื่อนมากเท่าไหร่
และยิ่งลดการใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนลงมากเท่าไหร่
จะยิ่งประหยัดน้ำมันมากขึ้น

สรุป เครื่องเทอโบ เพียวๆ ไม่มีมอเตอร์มาขับเคลื่อน กินน้ำมันมากกว่า

มันก็ต้อง HEV อยู่แล้วดิ แล้วต่างชัดเจนด้วย

HEV ทำมาเพื่ออุดช่องว่างตรงย่านความเร็วที่รถน้ำมันเปลือง
ทำให้ประหยัดทุกย่านความเร็ว

ส่วนเทอร์โบทำมาเพื่อให้รถแรงขึ้นเท่ากับรถที่กระบอกใหญ่
ไม่ได้ทำให้ประหยัดอะไรเลย เผลอๆตอนช่วงความเร็วคงที่ ตัดเทอร์โบออกอาจจะประหยัดกว่าด้วย

ไฮบริดประหยัดกว่าคนละเรื่องเลย

โบมันแค่ทำให้แรงขึ้นไม่ได้ประหยัดอะไร
บางรุ่นติดบูสไวมากๆรอบต่ำจัดๆ ก็กินไม่ต่างกับเครื่องใหญ่ๆ

ส่วนการดูแลก็ไม่มีไรมากทั้งคู่
แต่ถ้าซ่อมโบมีแค่อย่างเดียว
แต่ระบบไฟฟ้าไปถึงแบต มันมีอุปกรณ์เยอะกว่า

ส่วนถ้าดีเซลโบก็อีกเรื่อง อันนั้นประหยัดจริง
แต่ต้องดูเป็นรุ่นๆ เจาะลึกลงไปอีกที

นอกเรื่องนิด ในตลาดตอนนี้ที่จะกลายเป็น ev หรือ ไฮบริดหมดแล้ว อยากจะเก็๋บรถน้ำมันล้วนมือหนึ่งสักคัน อย่างพวกซีวิคเทอร์โบ หรือโคโรล่า ครอสตัวน้ำมันล้วน พวกนี้ไว้เล่นยาวๆ แต่ดันไม่มีตัง

HEV ประหยัดกว่าเยอะ
ยกเว้น D-tb ใรรถเก๋งเล็กแบบ m2

mazda 2 diesel (มี turbo) กับ city ehev

กินน้ำมันพอกันอยู่ที่ชอบเลย

ถ้าวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิด 90 มี 27+ ให้เห็นแน่ๆ ทั้งคู่