⚽ กฎฟีฟ่าที่ทำให้อีซัคมีอำนาจต่อรองเหนือสโมสรนิวคาสเซิล



คิดยังไงกันบ้างกับอันนี้ จริงแท้แค่ไหน ?


คดีอีซัคกับอนาคตที่ไม่แน่นอน
อเล็กซานเดอร์ อีซัค กดดันนิวคาสเซิล หลังทีมปฏิเสธข้อเสนอ 110 ล้านปอนด์จากลิเวอร์พูล เขาเลือก “ขัดขืน” ไม่กลับมาซ้อมเต็มที่ เพื่อบังคับให้เกิดการย้ายทีม โดยมี กฎฟีฟ่า ข้อ 17 ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของเขา

ข้อ 17 ของฟีฟ่า คืออะไร?
กฎนี้เริ่มใช้เมื่อ 20 ปีก่อน เปิดทางให้นักเตะ บอกเลิกสัญญา ได้เองหลังอยู่ครบตามกำหนด พร้อมจ่ายค่าชดเชย แต่เดิมใช้ยากมาก จนคดี ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ปีที่แล้ว ทำให้ฟีฟ่าต้องแก้กฎให้นักเตะได้สิทธิมากขึ้น

อะไรที่เปลี่ยนไป?
ฟีฟ่าไม่สามารถกักใบโอนย้ายได้
สโมสรใหม่ไม่ต้องพิสูจน์ว่าไม่สมรู้ร่วมคิด
ภาระการพิสูจน์ตกอยู่กับสโมสรเดิม

➡️ อีซัคอาจใช้ข้อ 17 และกลายเป็น ฟรีเอเยนต์ ได้ใน 12 เดือน ค่าชดเชยอาจเหลือไม่ถึงครึ่งของ 110 ล้านปอนด์

เงื่อนไขการใช้ข้อ 17
✅ ใช้สิทธิ์ได้ภายใน 15 วันหลังจบฤดูกาล (มิถุนายน 2026)
✅ ต้องอยู่ครบ 3 ปีเต็มกับสโมสร (อีซัคอายุ 25 ยังไม่เข้าเงื่อนไข 2 ปี)
✅ เมื่อตัดสินใจใช้ ถือว่าละเมิดสัญญาฝ่ายเดียว และสามารถย้ายทีมได้ทันทีเมื่อเปิดตลาด

ค่าชดเชยที่นิวคาสเซิลจะได้
ฟีฟ่าจะคำนวณจากความเสียหายจริง เช่น
ค่าเหนื่อย 2 ปีสุดท้าย (ราว 12.5 ล้านปอนด์)
มูลค่าคงเหลือในบัญชี (ราว 20 ล้านปอนด์)
ค่าใช้จ่ายหาตัวแทน

นักกฎหมายประเมินว่า นิวคาสเซิลอาจได้เงินไม่เกิน 50–60 ล้านปอนด์ ซึ่งต่ำกว่าข้อเสนอจากลิเวอร์พูลแน่นอน

ความเสี่ยงของนิวคาสเซิล
⚠️ คดีอาจลากยาว 18–24 เดือน แต่ระหว่างนั้นอีซัคสามารถเล่นให้สโมสรใหม่ได้ทันที
⚠️ ทีมใหม่แทบไม่ต้องจ่ายค่าตัวในช่วงแรก

ปัญหาที่อังกฤษ
⚽ กฎพรีเมียร์ลีกทำให้การบอกเลิกสัญญาฝ่ายเดียวไม่ง่าย
⚽ แต่ถ้าย้ายไปสเปนหรือเยอรมนี ฟีฟ่าจะมีอำนาจมากกว่า

ทางออกเดียวของนิวคาสเซิล
1️⃣ ขายอีซัคก่อนตลาดปิด
2️⃣ ต่อสัญญาใหม่ พร้อมค่าฉีกสัญญาที่สมเหตุสมผล

มุมมองเสริม: McManaman
สตีฟ แม็คมานามาน อดีตแข้งลิเวอร์พูล มองว่า ลิเวอร์พูลควรโฟกัสการซื้อ Marc Guéhi มากกว่า Isak เพราะทีมต้องการเสริมแนวรับมากกว่า และเกฮีจะช่วยทีมในระยะยาวมากกว่า

สรุป

ข้อ 17 ของฟีฟ่า อาจเป็น “ไม้ตาย” ที่ทำให้อีซัคย้ายทีมได้ง่ายและถูกลง

นิวคาสเซิลเสี่ยงจะได้เงินน้อยกว่ามูลค่าจริงมาก

ลิเวอร์พูลเองก็มีเสียงจากตำนานว่า ควรไปเน้นเกฮีแทน

ปล บทความแปลด้วย AI จากเว็บนี้ : espn.com/soccer/story/_/id/46010345/fifa-rule-article-17-isak-leverage-newcastle-liverpool-transfers

ถ้าทำขนาดนั้นก็ไม่อยากได้แล้วแฮะ มันเกินไป

สโมสรจะรอแบบฟานไดจ์คอ่าป่าว สิ้นเดือนนี้รู้กันจะได้ย้ายไหมนะ

เล่นๆไปเหอะ

เด่วหมดสัญญาก็ได้ย้าย

จริงๆ ก็ไม่อยากยุ่ง เพราะไม่ใช่ดีลที่เป็นผลประโยชน์ของทีมที่เชียร์

แต่เอาจริงๆ พอออกหน้านี้ อิซัคดูไม่ดีเลย

ชักเริ่มไม่อยากได้ละ

ตัวนี้อันตรายทั้งในและนอกสนาม
แต่ทำไงได้ทีมเรารักเขา เราก็ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ 5555555

ถึงเวลานี้ไม่มั่นใจทั้งอิซัคและเกฮีเลยว่าจะได้มาไหม ทั้งที่สถานการณ์องสองคนนี้นี่มันแหกอ้าให้สุดๆละโดยเฉพาะอิซัค แต่เรื่องก็เงียบมานานไปแปลกๆตั้งแต่ยื่น 110 รอบก่อนไป

ด้วยราคา+ค่าเหนื่อย และการทำกับสโมสรและแฟนบอลแบบนี้อีก ไม่อยากได้เลยแหะ

สมมุติถ้าได้มาจริงๆ ก็ทับกับอิกิติเก้ ถึงจะบอกว่าโยกไปเล่นด้านซ้ายได้ก็เถอะ

แต่มันก็ไม่น่าดีเท่ากับปีกจริงๆ มาเล่นหรอก

อีกแบบคือทีมมีแผนที่จะเล่น สลับไปมา คือ 4 2 1 3 หรือ 4 1 3 2 , 4 2 2 2 แบบนี้หรอไม่แน่ใจ

แต่คิดว่าอาจต้องเน้นใช้แผนหน้าคู่เป็นหลักละมั้ง แต่แอบดูฝืนๆ เพราะซาล่ากับระบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว

เเต่เอาเถอะ แอบห่วงในฐานะแฟนบอล แต่เชื่อใจในทีมงานสโมสรละกัน ว่าไงก็ว่าตามนั้น

ควรหยุดวิเคราะห์เรื่องอิชาคทำนองนี้ได้แล้วมั้งครับ
เรื่องเงิน นิวเค้าไม่แคร์จะได้มากได้น้อยเพราะเจ้าของเค้ารวยอยู่แล้วและกฏpsrอะไรนั่นก็คงไม่มีผลต่อเค้าสักเท่าไหร่ ถ้าอิชัคมันดื้อด้านนักจะจับดองซะให้เข็ด
ผมเห็นหลายๆคนเค้าบอกมาว่างั้นนะ

เดี๋ยวๆ อันนั้นมันกฏหลังจากยกเลิกสัญญาไม่ใช่เหรอ

ไม่ใช่เหตุที่ทำให้ยกเลิกสัญญาได้เลยนะ

คือไอมุมนี้ตัวนักเตะมันอาจจะไม่นึกหรือไม่รู้เลยก็ได้ แค่คนมันอยากย้ายไปอยู่ทีมที่ใหญ่พร้อมกว่าแล้วเท่านั้นแหละ

เอเยนต์ที่เป็นอดีตนักเตะ ก็อาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้เช่นกัน

ข่าวจากต่างประเทศ เขาวิเคราะห์ไปเรื่อยๆอ่าแหละครับ
ผมว่าเดี๋ยวคงมีออกมาอีก

ข่าวก็คงเขียนไปเรื่อยๆแหละครับ เดี๋ยวนักข่าวคงมีประเด็นอื่นมาเขียนอีกแหละ

ผมว่าอิซัคมันคงไม่คิดลึกไปไกลขนาดนั้นหรอก แค่บีบไห้สโมรสรไห้ขายๆสักที