เคยคิดว่าอายุมากขึ้นคงจะเลิกบ้ากามแล้ว ปรากฏว่าก็บ้ากามเหมือนเดิม รึหนักกว่าเดิมอีก

เพื่อนไม่จำเป็นต้องมี คบแต่คนที่มีผลประโยชน์ให้เราพอ อย่าให้ใครยืมตัง อย่าค้ำประกันอะไรทั้งนั้น ครอบครัวสำคัญที่สุด

อาบน้ำแล้วเป่าผมให้แห้งไม่งั้นอาจนำมาซึ่งรังแคและผมบาง เวลายกของหนักหลังตรงตั้งฉากกับพื้นและมือยืดตึงเพื่อหลีกเลี่ยงการปวดหลัง ปวดแขน

ความสุขแท้จริงอยู่ที่ใจ ได้อยู่กับครอบครัวกับคนที่เรารัก เมื่อเราบรรลุแล้วเราจะไม่อยากออกไปเที่ยวที่ไหนเลย

รายได้หลักทำงานอะไรก็ได้ที่ชอบแล้วทุกวันจะมีแต่ความสุข รายได้เสริมฝากหุ้นหรือเล่นช้อปปี้หรือซื้อทองอะไรก็ว่าไป

Work life balance สำหรับคนที่ไม่ต้องการรวยครับ

อยากรวยต้องทุ่มแรงมากกว่าคนอื่น

อายุ 20 ปลาย 30 ต้น นี่มองย้อนกลับไปเป็นช่วงพีคของผู้ชายในหลาย ๆ ด้านเลย รูปร่าง หน้าตา พลังสมอง ความกระหาย

ถ้ามีอะไรจะแนะนำ ก็คงประมาณว่า ถ้าคุณอยากเสี่ยง เช่น ลองทำธุรกิจ ผมว่าเป็นวันเวลาที่ควรเสี่ยง เพราะพอขยับมา 40+ 50+ การเสี่ยงหรือทุ่มเทพลังกาย พลังสมองอะไรจะเริ่มยากขึ้นแบบมีตัวคูณ แต่ไม่ได้แนะนำให้หลับหูหลับตาทำนะ หมายถึง ถ้ามองแล้วว่ามีความเป็นไปได้

ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ทั่วไป ๆ สุขภาพ ควรเริ่มดูแลได้แล้ว ลดสิ่งที่บั่นทอนลงเช่น แอลกอฮอล์ ทักษะทางสังคมหรือกลุ่มเพื่อนก็ควรเริ่มปรับให้มีคุณภาพ คุณควรรู้แล้วว่าควรยังเก็บใครไว้ในชีวิต หน้าที่การงานก็ทำให้เต็มที่ มีความใส่ใจ มีความรับผิดชอบตามฐานะ ตำแหน่ง และความใฝ่ฝันส่วนตัว อีกข้อนึง(ที่เด็กสมัยนี้ค่อนข้างโชคดี) คือ เริ่มศึกษา เก็บออม และลงทุนตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะการลงทุนเริ่มก่อนเรียนรู้ก่อนมีข้อได้เปรียบเยอะ

ส่วนเสริมก็คือ อย่าประมาททั้งในแง่อุบัติเหตุ และการดำเนินชีวิต คนสำคัญในชีวิตและครอบครัว เช่น พ่อ แม่ คู่สมรส ลูกหลาน ก็ดูแล เอาใจใส่ให้ดี ชีวิตคนเราความสัมพันธ์ในบ้านและคนรอบข้างที่ดี มีส่วนสนับสนุนไปแล้วกว่าครึ่ง

1.ด้านการเงินและการลงทุน:

มี "ความผิดพลาดทางการเงิน" อะไรที่เคยทำตอนอายุ 20+ แล้วอยากเตือนน้องๆ ที่สุดครับ?
(เช่น การใช้บัตรเครดิต, การสร้างหนี้, การไม่ออมเงิน)

ถ้าให้จัดลำดับความสำคัญระหว่าง "การออมเงิน", "การลงทุน", และ "การซื้อประกัน" พี่ๆ จะเรียงลำดับอย่างไรสำหรับคนอายุ 20-30 ครับ

บัตรเครดิต ถ้าจ่ายเต็มไม่ได้ นั่นคือสัญญาณของหายนะ! สิ่งที่เราอยากได้ ถ้ารูดบัตรแล้วจ่ายเต็มไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่พระเจ้าบอกเราอ้อม ๆ ว่า เรายังไม่ควรซื้อสิ่งนั้น ถ้าฝืนกฎเกณฑ์นี้ขอให้สนุกสนานกับการจ่ายดอกเบี้ยครับ

ส่วนเรื่องลำดับความสำคัญ ก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าคุณเริ่มจากไม่มีอะไร ยังไงก็ต้องออมให้ได้ก่อน จากนั้นพอเริ่มออมได้ ค่อยหาวิธีลงทุนให้งอกเงย คีย์สำคัญคือรายได้ในประเทศไทย แค่ออมให้ได้ก็ challenge สุด ๆ ละ เพราะสิ่งยั่วยุเยอะเหลือเกิน นั่นคือสิ่งที่คุณต้องฝึกและก้าวข้ามเป็นด่านแรกครับ (และอาจเป็นด่านที่สำคัญสุด) คือถ้าคุณใช้ชีวิตแล้ว เงินต่อเดือนยังเหลือเก็บได้ นั่นคือสัญญาณของการมาถูกทางละ

2.ด้านการงานและอาชีพ:

การทนทำงานที่ไม่ชอบเพื่อเงิน กับ การออกมาค้นหางานที่ใช่ แต่เสี่ยงกว่า แต่ถ้าสำเร็จก็พุ่งเลย
ในมุมมองของพี่ๆ ตอนนี้คิดว่าแบบไหนคุ้มค่ากว่ากันในระยะยาวครับ?

มีทักษะอะไรบ้างที่ตอนอายุ 20 อาจจะมองข้ามไป แต่พออายุ 30+ แล้วพบว่า "โคตรสำคัญ" เลย

ผมเลือกงานที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในบรรดางานทั้งหมดที่ผมชอบ และค่อนข้างโชคดีว่ามันก็ให้ผลตอบแทนที่ไม่แย่นัก (และก็อาจจะโชคดีอีกอย่างที่มีความชอบหลายอย่าง ที่ไม่ไปในทางเดียวกันหมด)

ถ้าให้หลักการง่าย ๆ ก็หาสิ่งที่ชอบไว้ครับ อาจจะ 3 - 5 อย่างแล้วเลือกตัวที่คิดว่า น่าจะทนทำได้นานสุด แต่ถ้าคุณอายุ 20 ปลาย ๆ ปริญญาหรือวุฒิที่คุณถืออยู่ก็คงกำหนดสิ่งนี้ไปแล้วประมาณ 80% ได้ (ในยุคผมนะ ยุคนี้ไม่แน่ใจ)

ทักษะที่คุณควรมี และจะทำให้ก้าวหน้าได้จริง ๆ คือ ทักษะการสื่อสาร เช่น การพูดให้รู้เรื่อง หรือเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีครับ เป็น universal skill ระดับที่ไปถึงตำแหน่งแบบ ปธน.สหรัฐได้อ่ะ แต่ถ้าไม่มีก็อย่าเสียใจไปครับ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ทำได้ไม่ดีนักหรอก 555

3.ด้านความสัมพันธ์และเพื่อนฝูง:

บทเรียนที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ "ความรัก" หรือ "การเลือกคู่ชีวิต" คืออะไรครับ

เมื่ออายุมากขึ้น วงจรเพื่อนเปลี่ยนไปยังไง
มีคำแนะนำในการรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนดีๆแบบไหน จะเลือกเพื่อนหรือสังคมยังไง

ผญ ต่อให้สวย เซ็กส์ เอ็กซ์แตกขนาดไหน ก็มีวันโรยรา(แล้วตอนโรยที่มันไม่ต่างอะไรจากนักบอลอ่ะ ไปแล้วไปลับ 55) และคุณจะเบื่อเรื่องนี้ของเค้าในที่สุด ดังนั้นหาคนที่รวยที่สุด เฮ้ย เข้าใจคุณมากที่สุด แนวนี้จะประคองกันไปได้นาน (แต่จริง ๆ ถ้ารวยด้วยก็คงดีแหละ 555)

คุณต้องทำใจว่า เพื่อนส่วนนึงจะค่อย ๆ หายไปตามกาลเวลา และสถานะ หน้าที่ของแต่ละคน อย่าคาดหวังความผูกพันธ์ หรือการติดต่อแบบเดิม ๆ ส่วนใหญ่คุณจะได้เจอคนที่อยู่ไม่ห่างนัก อาจจะทำงานวงการเดียวกัน หรือเป็นกลุ่มสะดวกจะเจอ ให้เลือกคบคนที่คุณคิดว่าเค้าจริงใจกับคุณเป็นหลัก วัยนี้คุณภาพเริ่มเหนือกว่าปริมาณแล้ว

4.ด้านสุขภาพ(กายและใจ):

มีพฤติกรรมสุขภาพอะไรที่เคยทำตอนวัยรุ่นแล้วส่งผลเสียตอนอายุ 30+ บ้างไหมครับ?
(เช่น การนอนดึก, การกิน, การไม่ออกกำลังกาย)

วิธีรับมือกับ "ความเครียด", "ความกดดัน" หรือ "ภาวะหมดไฟ (Burnout)" ในแบบฉบับของวัย 30+ เป็นอย่างไรครับ?

วัย 20 ปลาย ๆ 30 ต้น ๆ คุณยังไม่ค่อยเห็นความเสื่อมของร่างกาย เพราะมันจะเริ่มช่วง 40+ แต่ทุกอย่างที่ดีกับสุขภาพ ควรเริ่มทำสะสม และลดสิ่งที่บั่นทอน เช่น การนอนดึก hangout หรือแอลกอฮอล์

ความเครียด หรือ burnout นี่ไม่รู้จะแนะนำยังไง เพราะยิ่งแก่ยิ่งเจอ 55 เอาเป็นว่า หลัก ๆ ชีวิตการทำงานคือ พาตัวเองไปเจอ หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ที่ดี ก็มักจะลาก ๆ ไปได้ ถ้าฝึกปล่อยวางได้ความเครียดก็คงทำอะไรเราได้ยาก แต่การปล่อยวางอาจจะเป็นสกิลที่ฝึกยากสุดอย่างนึงในชีวิต อันนี้แล้วแต่คน

5. ด้านการใช้ชีวิตและการรู้จักตัวเอง:

มี "ความเชื่อผิดๆ" อะไรบ้างที่เคยยึดถือตอนอายุ 20 แต่พอผ่านเลข 3 มาแล้วถึงรู้ว่ามันไม่ใช่เลย

สมัยเด็ก ๆ เคยคิดว่า เงินเดือนมีแต่ขาขึ้น จริง ๆ มีขาลงด้วย 555


สุดท้ายอะไรคือสิ่งที่พี่ๆ "เสียดายที่สุด" ที่ไม่ได้ทำครับ

ของผมเอาจริง ๆ ไม่มีเลย เพราะเป็นคนชอบไตร่ตรอง แล้วส่วนใหญ่เลือกทำทุกอย่างตามเสียงในใจอยู่แล้ว โชคดีที่เป็นคนที่ต้องตัดสินใจอะไรในชีวิตเองตั้งแต่เด็ก สิ่งที่เราต้องตัดสินใจเราคิดให้ดีก่อน ก็คงมีแค่นี้ ไม่มีการตัดสินใจไปแล้ว แล้วไปโทษคนอื่น โทษฟ้าโทษฝน

อยากบอกแต่มันก็ย้อนแย้งกันหลายเรื่องเอารวม ๆ ที่นึกออกล่ะกัน

- ใช้ชีวิตให้เต็มที่ เรียนจบทำงานไปสักพักชีวิตมันช่างอิสระเสรี 555 แต่มันก็หมดเยอะทั้งสุขภาพเงินทอง เอาแต่พอประมาณ

- ดูคนให้ออก 70-80% ไม่เราก็เค้าผลประโยชน์ทั้งนั้น อย่าเอาความเครียดกลับบ้านถึงจะยากฝึกบ่อย ๆ พอช่วยได้

- อย่าใส่ใจเฉพาะคนที่เรารัก หันกลับมามองคนที่รักเราด้วยวันนึงถ้าพวกเค้าไม่อยู่แล้วมันจะสายไปโดยเฉพาะครอบครัว