อลงกต หนี
บี ไม่หนี
สันนิษฐานว่าบีไม่ผิดได้มั้ย

แค่ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสเอง ส่วนไอ้บีสรรพกรมันควรลงตรวจทรัพย์สินแล้ว ภาษีไม่เสีย แต่มีทรัพย์สินหลายสิบล้าน สรรพกรเงียบตลอด

ไม่ได้

ไม่มี

ไม่หนี

ไม่จ่าย

ไม่ ลหนอ

อีกเรื่องที่ผมสงสัยคือ ผมเห็นข่าวหลายๆช่อง เริ่มมาเล่นเรื่องประวัติการศึกษาของอลงกต ว่าอาจจะไม่ได้จบโรงเรียนหรือมหาลัยนี้จริง ทั้งตอนมัธยมและมหาลัย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าประวัติปลอมมั้ยรอดูกันต่อไป แต่ที่ผมสงสัยคือถ้าปลอมจริง ทำไมต้องโกหกแต่งเรื่อง เพราะท่านเป็นพระสงฆ์นิ พระสงฆ์จะเอาประวัติการศึกษาสวยหรูไปทำอะไร ไม่ใช่คนแบบเราๆที่อาจจะเอาไปสมัครงาน หรือในวงการสงฆ์เรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกัน แต่ผมโง่เองที่ไม่รู้เรื่องในวงการ

ลองคิดดูซิครับ

พระบ้านๆ ปูมหลังธรรมดาๆ กับ พระที่เคยเรียนหนังสือมาสูง สามารถประสบความสำเร็จได้ แต่สุดท้ายอยากจะบวช เลยละทิ้งทางโลกไป

พระรูปไหนดูมี Story มากกว่ากันละครับ

สรรพากรเรื่องเล็กมากนะครับ อย่างมากก็โดนปรับย้อนหลัง

แต่เรื่องใหญ่คือเรื่องฉ้อโกงอะไรแบบนี้

ผมเดาว่ากรณีเมคจริงๆ ก็ทำเพื่อสร้างสตอรี่อ่ะฮะ

อารมณ์แบบมีพร้อมทั้งวุฒิการศึกษา แต่เลือกอุทิศตัวบวชเป็นพระ เพื่อช่วยเหลือคนไข้เอดส์

มันสร้างศรัทธาได้เยอะเลยนะ

บีถ้าผิดจริงมันแค่ยักยอกทรัพย์ แต่หลวงพ่อถ้าผิดทุกเรื่องที่สื่อเล่นจริงเลวร้ายกว่าบีเยอะ มาทรงนี้แสดงว่าที่สื่อเล่นข่าวกันนี่มีแนวโน้มจริงทุกเรื่อง

กินอิ่มละ เตรียมชิ่ง

อย่างน้อยเอาใบอนุโมทนาบุญไปออกเองก็ผิดแล้วไหมครับ แถมเส้นทางเงินที่เป็นวัตถุประสงค์บริจาคไม่ตรงกับเงินที่ใช้อีก

อ.สุจินต์แกเคยบอกไว้ว่า ในวงการสงฆ์ มีเรื่องฐานะ ยศ ตำแหน่ง ยิ่งเรียนสูงฐานะทางสงฆ์ยิ่งดี มีลาภสักการะมาก ไม่ต่างอะไรกับทางโลก ส่วนการตรวจสอบกันเอง คิดว่า ยิ่งมีตำแหน่ง มีบารมี มีอำนาจ ในคณะสงฆ์มาก การตรวจสอบกันเองยิ่งยาก มันเหมือนวงการอื่นอย่างทหาร ตำรวจ ผิดวินัยสงฆ์ก็ตั้งสงฆ์กันเองมาตรวจก่อน แล้วพวกนี้บางทีเป็นศิษย์อาจารย์กันมา เมิงบริจาคกูกูบริจาคเมิง กูช่วยเมิงอวยยศ กูช่วยเมิงระดมทุนสร้างโน้นนี่ เพื่อให้ได้ตำแหน่ง มันเอื้อกันมา ยิ่งพระมีศรัทธามาก นี่มากขนาด 30ปี ดูจากที่เป็นเจ้าเดียวที่บิณฑบาตรได้ตลอด 24 ชม. แม่งก็เรียกว่าได้อภิสิทธิ์เยอะกว่าวัดอื่นมากแล้ว

อย่างถ้ามมติ Make การศึกษาจริง อย่างน้อยสิ่งที่ทำให้เห็นคือ ลูกสิทธิ์บางคนแม่งเรียกพระว่า Dr. อะ เท่ปะครับ