“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสให้ผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจง ยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร


13 ส.ค. 2568 เวลา 17.30 น. เข้าสู่การอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 มาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่


นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฎว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลยจะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่


“นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” นายชยพล กล่าว


ด้านนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า ปีนี้งบประทรวงกลาโหมปรับลดน้อย เนื่องจากเป็นปีที่มีปัญหาขัดแย้งรุนแรงกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น กมธ.จึงพิจารณางบของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ อาจจะไม่ตรงกับมาตรฐานที่ตั้งไว้ เพราะสถานการณ์วันนี้ต้องแสดงให้ศัตรูเห็นว่าประเทศไทยร่วมแรงร่วมใจกันทุกมิติ จึงไม่มีการปรับลดงบประมาณมาก


ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า ยืนยันว่ากมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่าให้กองทัพ แต่ทำหน้าที่ตรวจเช็กความพร้อมให้กองทัพและพร้อมสนับสนุนกองทัพ ซึ่งการสนับสนุนทหารไม่ใช่การสนับสนุนสงคราม ทหารไทยไม่ได้แบกปืน แต่แบกความหวังการป้องกันประเทศด้วย


จากนั้น ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับมาตรา 8 ตาม กมธ.เสียงข้างมาก ด้วยคะแนน 254 เสียง ไม่เห็นด้วย 137 เสียง งดออกเสียง 18 เสียง

วันนี้มีแต่เรื่อง อันนี้ช่วยแบกไม่ไหวนะ ถ้ามันจริงขึ้นมา

พรรคเพื่อเขมรของแท้

ไม่กล้าตัดงบประเคนให้เบิ้มๆแต่แม่งหน้างานยังรับบริจาค สรุปปัญหามันอยู่ตรงไหน

พอเขาจะตัดมึงก็หาว่าไม่รักชาติเล่นเกมการเมือง แต่พอหยวนให้มึงก็ใช้เงินกันแบบนี้

ถ้ามึงซื้อของอย่างกริเพ่นใครเขาจะว่าอะไร แต่พวกมึงมันความลับเยอะไง

ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ตามนั้น ทุเรศเสมอต้นเสมอปลาย

กระแสprแรงจัดยัดไส้กะแดกง่ายๆเป็นไงละ สันดานเหมือนแหละพวกชาวสีเขียวตัวใหญ่ๆน่ะ

อันนี้อย่างลึก ไอ้พวกที่นั่งด้วยมันคงงง

ละพอไปดูงบวิจัย ของ สกสว ได้ 63000 ล้านบาท....4 ปี รวมกันนะจ๊ะ
ปี 66 ได้ไป 16000 ล้านบาท มันคงเจริญอ่ะ

ทหารเตรียมกอบโกยอะช่วงนี้

เออ อันนี้น่าสนใจหน่อย

พวกที่เชียร์ทหาร แต่เกลียดเขมร
จะยังไงกับข่าวนี้ล่ะเนี่ย ทหารส่งอุปกรณ์ให้เขมร

ยากขนาดพอรู้ว่าตู่ปล่อยให้เขมรรุกพื้นที่ฟรีๆมาเป็น10ปียังไม่ด่า

ผมว่ายังรักทหารเหมือนเดิม
เหมือนเมื่อก่อนที่บอกว่าทักษินโกงยังไงก็รัก ขอแค่ทำให้ประเทศเจริญ

อันนี้ไม่น่าใช่การส่งอุปกรณ์ให้เขานะ

ความหมายของมันคือกองทัพซื้อฟิตเนสให้บ้านผู้ช่วยทูตทหาร(คนไทย)ที่ประจำการอยู่ที่นู้น แต่ในปัจจุบันมีการตัดความสัมพันธ์อยู่ เราเรียกทูตกลับมาหมดแล้ว จะซื้อไปเพื่ออะไร

แถวบ้านด่าแต่ รบ. หัว ค นี่

แต่ รบ. ไอ้ ต ปล่อยล้ำมา ใบ้แดกหมด

ห จริงๆ

ทหารก็แบบนี้ เค้าถึงอยากแก้ อยากปฏิรูป พอมีสงครามก็มีพวก io มาแพล่ม รู้ยังทหารมีไว้ทำไม ถถถ