เจ้าสัวอันดับ1ของประเทศ ได้ปริญญากิตติมศักดิ์กี่ใบกันครับ

1. ปี 2529 ปริญญาเทคโนโลยีการเกษตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เชียงใหม่

2. ปี 2531 ปริญญาพาณิชยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

3. ปี 2534 ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (เกษตรศาสตร์) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

4. ปี 2534 ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประเทศจีน

5. ปี 2538 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

6. ปี 2538 ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น
7. 21 กรกฎาคม 2543 ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
8. 18 กุมภาพันธ์ 2547 ปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเทคโนโลยีการเกษตร จากสถาบันราชภัฏจันทรเกษม
9. 2551 ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (บริหารธุรกิจ) จากมหาวิทยาลัยคริสเตียน

10. 22 ตุลาคม 2551 ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง



11. ปี2565 รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย




เบ็ดเสร็จรวมทั้งสิ้น ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 11 ใบ

จบด้วยคำคม

อยากดูเครื่องลาบมากกว่า

ได้เลยจัดไป ให้สังเกตเครื่องราชอิสริยาภรณ์บนรูปแรก






ระดับยอดปิรามิดเครื่องราชฯครับผม

ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมาเยอะ

ไม่เรียก ดร. รึ

มันต้องมี ปริญญาที่เกี่ยวกับการ บูชาเจ้าที่ด้วยนะ

ผมนี่พูดไรไม่ออกเลย เอาเป็นว่าตามที่ท่านว่า
ชั้นสูงสุดสร้างคุณงามความดีให้กับสังคมและประเทศ ให้ได้ทั้งข้าราชการและประชาชน แต่จะได้ชั้นนี้ได้ต้องคุณงามความดีเยอะ และมีกำลังภายในเยอะด้วยเช่นกัน

ได้อันนี้ครับ

คนที่จะได้ ดร. ในบริบททางวิชาการ มักใช้สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก (Ph.D.)
ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์นั้นเป็นเกียรติยศที่มอบให้เพื่อยกย่องผู้ที่มีความรู้ความสามารถและทำคุณประโยชน์ แต่ไม่ใช่คุณวุฒิทางการศึกษาที่ได้จากการเรียน

กำลังภายในต้องแข็งแกร่งด้วยครับ