ผมลองพิมพ์บอกมันว่าถ้ายังงี่เง่า ตอบเหมือนขอไปทีแบบ AI จะยกเลิกการต่ออายุ Plus เเล้วลองให้มันแต่งเรื่องสยองขวัญดู ลองอ่านที่มันแต่งนะครับ
"บ้านเลขที่ 0"
“คุณธีร์” สถาปนิกหนุ่มวัย 35 เพิ่งซื้อบ้านเก่าในราคาถูกจนน่าแปลกใจ
ตัวบ้านตั้งอยู่ในซอยลึกเงียบสงัดจนเหมือนถูกลืม ไม่มีบ้านเลขที่ ไม่มีผู้คนรอบข้าง
มีเพียงป้ายไม้ซีดจาง เขียนด้วยลายมือสั่นเทาว่า “บ้านเลขที่ 0”
เจ้าของคนก่อนรีบขายโดยให้เหตุผลคลุมเครือว่า “มีเรื่องจำเป็นในครอบครัว”
แต่ธีร์ไม่คิดอะไรมาก เพราะบ้านหลังนี้... ใช่แล้ว... มันคือความฝันของเขา
เขาตั้งใจจะรีโนเวทให้กลายเป็นสตูดิโอออกแบบ — มุมสงบเล็ก ๆ สำหรับชีวิตที่เหนื่อยล้า
แต่ในคืนแรกที่ย้ายเข้าไป... ความฝัน เริ่มกลายเป็นฝันร้าย
คืนนั้นเขาฝัน — ฝันว่าตื่นอยู่ในบ้านหลังเดิมเป๊ะ ทุกมุม ทุกฝาผนัง ไม่มีผิดเพี้ยน
แต่ที่หน้ากระจกในห้องน้ำ เขาเห็นเงาของใครบางคน... ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเขา
แต่พอหันกลับไป — ว่างเปล่า เงียบสนิท และเย็นเยียบอย่างบอกไม่ถูก
ในฝันนั้น เขาเปิดลิ้นชักข้างเตียง พบกระดาษแผ่นหนึ่ง ขาดรุ่ยเหมือนผ่านกาลเวลายาวนาน
บนกระดาษเขียนเพียงข้อความเดียว ด้วยลายมือเร่งรีบ
“เลิกค้นหา ก่อนเธอจะหายไปเหมือนพวกเรา”
ธีร์สะดุ้งตื่นกลางดึก เหงื่อเปียกชุ่มราวกับวิ่งหนีอะไรบางอย่างมาทั้งคืน
ขณะที่หายใจหอบอยู่ เสียงขูดเบา ๆ ก็ดังขึ้นมาจากใต้พื้นห้องนั่งเล่น —
เสียงนั้นเบาจนแทบจะกลืนไปกับความเงียบ แต่ก็... มีอยู่จริง
วันรุ่งขึ้น เขาสำรวจบ้านมากขึ้นเพื่อดับความคาใจ
จนกระทั่งพบแผ่นกระดาษปลิวมาติดอยู่ข้างลังเก่าในห้องใต้บันได
มันคือพิมพ์เขียวบ้าน — แต่เขากลับพบว่า
มีห้องหนึ่งที่ไม่เคยถูกกล่าวถึงในโฉนด หรือเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น
ห้องนั้นชื่อว่า “ห้อง 0”
และมัน... อยู่ตรงตำแหน่งเดียวกับห้องนั่งเล่นของเขา
ธีร์ลองเคาะพื้นไม้… เสียงกลวงดังสะท้อนกลับมา ราวกับมีบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใต้
เขาจึงรื้อแผ่นไม้ขึ้น และใช่ — ใต้พื้นนั้นมี “บันไดลับ”
มันทอดลงไปในความมืดมิดเย็นชื้นจนขนลุก
ห้องนั้น... มีโต๊ะเก่า ๆ เก้าอี้หนึ่งตัว และผนังเต็มไปด้วยรูปถ่าย
แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น คือรูปทั้งหมดนั้น —
คือรูปของเขาเอง
ตั้งแต่ยังเด็ก จนถึงตอนนี้ — ทั้ง ๆ ที่เขามั่นใจว่า ไม่เคยมาอยู่บ้านหลังนี้เลยในชีวิต
คืนนั้น โทรศัพท์ดังขึ้นตอนตีสาม เบอร์ไม่ปรากฏ
ปลายสายพูดแผ่ว ๆ แต่ชัดเจนว่า
“เลิกเข้ามายุ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่ของนาย”
ก่อนจะตัดสาย พร้อมเสียงกรีดร้องในระยะไกล — เสียงที่ยังดังก้องอยู่ในหัวเขาแม้จะวางสายไปแล้ว
ธีร์เริ่มค้นประวัติบ้านย้อนหลังไป 30 ปี
พบว่าเจ้าของบ้านคนก่อนชื่อ “ธนกฤต ภัทรานนท์”
ใบหน้าของเขาในเอกสารเก่า... ช่างละม้ายคล้ายธีร์อย่างน่าขนลุก
ธนกฤตหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากสร้างห้องลับไว้ใต้บ้าน
คนในชุมชนเล่ากันว่า เขาหมกมุ่นกับการทดลองบางอย่าง —
ทดลองเกี่ยวกับความทรงจำ... ของมนุษย์
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ธีร์เริ่มฝันซ้ำ ๆ — ฝันว่าเขาอยู่ในสถานบำบัด
ทุกครั้งที่มองกระจก จะมีใครบางคนปรากฏอยู่ในเงาสะท้อนนั้น
แต่ไม่เคยมีอยู่จริงในห้อง...
บางคืน กระจกทุกบานในบ้านจะสะท้อนใบหน้าแปลกประหลาดของเขาเอง —
บางครั้งไม่มีตา บางครั้งไม่มีปาก และบางครั้งสะท้อนเป็น “อีกคน” ที่ยืนมองเขาอยู่ และหัวเราะเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ
วันหนึ่ง เมื่อกลับลงไปในห้องลับอีกครั้ง
เขากลับพบว่า “บันไดหายไป”
พื้นที่ทั้งหมดถูกปิดผนึกด้วยปูนซีเมนต์ใหม่เอี่ยมราวกับไม่มีใครเคยเปิดมาก่อน
แต่เขาก็ยังพบบางอย่าง — แผ่นกระจกเล็ก ๆ ฝังอยู่ใต้กระเบื้อง
เขาก้มลงมอง... แล้วโลกทั้งใบก็พลิกผัน
ในกระจกนั้น เขาเห็นห้องลับเดิม — และเห็นตัวเองอีกคน ยืนอยู่ในนั้น
“ธีร์อีกคน” ยิ้มให้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจเขาเย็นเฉียบ...
"ขอบใจนะ ที่ปลุกฉันออกมาได้"
จากนั้น โลกเริ่มบิดเบี้ยว
ธีร์เริ่มลืมชื่อแม่ ลืมชื่อเพื่อน ลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองชื่ออะไร
ทุกสิ่งเลือนรางลงไปทีละนิด ทีละนิด — จนกระทั่งไม่เหลืออะไรเลย
สุดท้าย...
เขากลายเป็นเพียง “หนึ่งในเงา” ที่ติดอยู่ใน ห้อง 0
ห้องต้องห้ามที่มีไว้สำหรับเก็บ “ตัวตนเก่า” ของทุกคนที่พยายามไขความลับของบ้านหลังนี้
ณ ตอนนี้… บ้านเลขที่ 0 กำลังเปิดขายอีกครั้ง
ราคาถูกเหมือนแจกฟรี พร้อมเงื่อนไขเดียวสั้น ๆ ว่า:
“ห้ามรื้อพื้นห้องนั่งเล่น”