Jadon Sancho

ซื้อ 74 ลป. สัญญา 5 ปี
ตัดบัญชีปีละ 14.8 ลป.
ตัดไปแล้ว 4 ปี = 59.2 ลป.
เหลือตัดบัญชี = 14.8 ลป.
ได้ค่ายืม 5 ลป. = 9.8 ลป.

สรุป ถ้าขายได้มากกว่า 9.8 ลป. แมนยูจะได้กำไรทางบัญชี
Sancho มีข่าวปล่อยประมาณ 20 ลป. ดีลนี้น่าจะได้กำไร

Antony

ซื้อ 82 ลป. สัญญา 5 ปี
ตัดบัญชีปีละ 16.4 ลป.
ตัดไปแล้ว 3 ปี = 49.2 ลป.
เหลือตัดบัญชี = 32.8 ลป.

สรุป ถ้าขายได้มากกว่า 32.8 ลป. แมนยูจะได้กำไรทางบัญชี
Antony ตัวนี้หนักหน่อย ไม่รู้มีข่าวกับทีมอื่นนอกจากเบติสไหม ดีลนี้น่าจะขาดทุนแน่ๆ

#ที่ผมไม่คิดค่าเหนื่อยที่ลดไปด้วยเพราะ ถึงจะขาย 2 คนนี้ออกไป แต่คนที่มาใหม่ก็ค่าเหนื่อยไม่น้อยแน่ๆ เลยไม่อยากจะคิด

ถ้าแมนยูยังจะซื้อกลางราคาโหดๆ อีกเชื่อว่ายังไงก็ต้องขาย กานาโช่ ออกแน่นอนเพราะได้กำไร 100%

ถ้าสุดทางจริงๆ ทุกตัวแมนยูมีแผนสำรองคือปล่อยยืมแบบรับผิดชอบค่าเหนื่อยให้น้อยที่สุดอยู่ครับ
เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายปีเหมือนเคสแรช เพื่อทำให้บช.โล่งขึ้น แรชทำให้แมนยูเซฟไปปีละ 12 ล้าน
จากข่าวคือ แอนโทนี่ 11 ล้าน ยืม+ซื้อขาด ซานโช่ 13 ล้าน ยืม+เสียฟรี มาลาเซีย 4 ล้าน ยืม+ซื้อขาด

ส่วนกานาโช่มีแววจะขายได้ เท่าไหร่คงต้องขาย ลงบช.ได้เต็มๆ

นอกจากค่าตัวแล้วยังมีค่าเหนื่อยที่ถูกตัดออกไปด้วยครับ คิดตัวเลขต่อปีถ้ารู้ต่อสัปดาห์แล้ว x52 จะได้ค่าใช้จ่ายต่อปีของนักเตะคนนั้นหรือดูตามลิงค์ได้เลย



ทำไมดีลบาเลบาถึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในตลาดนี้ส่วนนึงเพราะนักเตะ 4 คน น่าจะต้องออกจากทีมไปแน่ไม่ว่าทางไหน ตัวที่ขายได้แล้วดีกับบัญชีโดยตรงเลยคือการ์นาโช่

ซานโช่ 13 ล้านปอนด์ต่อปี
อันโตนี่ 11 ล้านปอนด์ต่อปี
มาลาเซีย 3.9 ล้านปอนด์ต่อปี
การ์นาโช่ 2.6 ล้านปอนด์ต่อปี ค่าตัวน่าจะได้มากกว่า 50 ล้านปอนด์

ส่วนค่าเหนื่อยที่ไม่ต้องจ่ายนี้เอามาผ่อนจ่ายค่าตัวนักเตะตามโครงสร้างซัก 3 รอบบัญชียังได้ ไม่รวมคาเซมิโร่ 18.2 ล้านปอนด์ต่อปี ที่จะออกจากทีมในปีหน้าอีก

เรื่องค่าเหนื่อยบาเลบาไม่ต้องห่วงว่าจะสูงเพราะปัจจุบันรับอยู่ที่ 12,500 ปอนด์ต่อสัปดาห์ สมมติสัญญาฉบับแรกให้ที่ 80,000-100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ถ้ามีการต่อสัญญาฉบับที่ 2 ค่าเหนื่อยก็คงจะไม่เกิน 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งตอนนี้ยังไงก็ต้องเสริม MF อยู่แล้ว

ถ้านักเตะที่เลือกมาในตลาดนี้ได้เป็นตัวจริง เป็นแกนหลักของทีมได้ต่อไปหาแค่ตัวสำรองหมุนเวียน ตัวที่รอพัฒนาได้ ค่าตัว ค่าเหนื่อย จะไม่เป็นปัญหาของทีมเลยในอนาคต ตลาดนี้ทีมบริหารฉายมากจริงๆ

บาเลบา + ดอน

ต้องรีบโละพวกนี้ให้หมด

ตลาดนี้ซื้อแต่แกนหลักล้วนๆเลย…

ถ้าปังก็ใช้งานได้ยาวๆ….

ปัญหาของทีมตอนนี้คือกระแสเงินสดครับ

แอบ-งง ตรงเมื่อก่อนเราเคยเข้าใจกันว่าการลงบัญชีมันคือเอาค่าตัวหารจำนวนปีในสัญญาใช่ปะ เช่น ค่าตัว 100 ล้าน สัญญา 5 ปี ก็ลงบัญชีปีละ 20 ใช่ปะ แต่หลังๆ มันมีระบบผ่อนอ่ะ เลยสงสัยว่า

1. ค่าตัว 100 ล้าน ผ่อนปีแรก 50 ล้าน ปีสอง 30 ล้าน ปีสาม 20 ล้าน สัญญานักเตะ 5 ปี จะลงบัญชีกันยังไง ?

2. ตัวเลขที่เอามาหารไม่ว่าจะวิธีไหน จะไม่รวม Add on ใช่ปะ ?

ค่าตัวนักเตะหารตามจำนวนปีสัญญา ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะไม่มีทีมไหนซื้อนักเตะได้อุตสาหกรรมนี้ตายครับ มูลค่าตัวนักเตะจะหาตามปีถ้าขายออกไปก่อนหมดสัญญาต้องดูมูลค่าคงเหลือตามสัญญา + - ตัดจำหน่ายลงบัญชี

ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของสโมสรทุกอย่าง จ่ายในรอบปีไหนลงบัญชีรอบปีนั้น ค่าตัวที่ผ่อนจ่ายหรือถ้าถึงตามเงื่อนไขแอดออนก็ลงบัญชีในรอบปีนั้นๆเช่นกัน

เสริมอีกนิดเรื่องสร้างสนามใหม่ในส่วนนี้การใช้เงินสร้างสนามไม่ลงบัญชี PSR แต่เมื่อสนามเสร็จรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากสนามใหม่เอามาลงเป็นรายได้ตาม PSR ได้ ลุ้นให้สร้างได้อย่างราบรื่นเพราะถ้าเสร็จเมื่อไหร่การเงินจะกลับมาผงาดอีกครั้ง

**Edit

ถ้าเข้าใจไม่ผิด ค่าตัวเอาเงินต้นหาร 5 ลงบัญชีตรงๆเลย จะผ่อนกี่ปีไม่สน นับยอดเงินต้นรวมเลย

การผ่อนช่วยแค่เรื่องกระแสเงินสด จะได้มีเงินสดไปจ่ายงวดแรกเวลาซื้อตัวอื่นๆเพิ่ม

ส่วน แอดออน ฤดูกาลไหนทำตามเงื่อนไขได้จนต้องจ่ายแอดออนก็ค่อยคิดรายจ่ายเพิ่มเข้าไปในยอดเวลาจะหารค่าตัดจำหน่ายเริ่มตั้งแต่ฤดูกาลนั้น

ท่านต้องแยกระหว่างรายจ่ายทางบัญชีกับรายจ่ายจริงที่เป็นกระแสเงินสดครับ

เวลาลงบัญชีในงบกำไรขาดทุน เราตัดเป็นค่าใช้จ่ายปีละ 20 ล้าน 5 ปี (คิดแบบเส้นตรง)
แต่ลงงบกระแสเงินสด ลงเป็นค่าใช้จ่าย 50, 30, 20 ,0 ,0

แล้วตัวที่เข้ามาใหม่ไม่มีค่าเหนื่อยรึไง จะคิดแต่ที่หายไปมันก็เท่านั้นอ่ะครับ ผมก็บอกอยู่ว่าไม่อยากคิดค่าเหนื่อยมันยิบย่อยเกินไป ไหนจะพวกโบนัสอีก

บาเลบาจาก 12,500 จะจ่ายในระดับ 150,000 เหรอ สัญญาฉบับต่อไปล่ะ มันต้องคิดหมดเพราะมันไม่เท่ากัน ไม่งั้นทีมฟุตบอลจะบริหารเพดานค่าเหนื่อยกันทำไม ส่วนต่างมันเยอะมาก

ไม่งั้นจะตั้งคำถามทำไมว่าถ้าจะซื้ออีกต้องขายนักเตะก่อนไหม มันไม่จำเป็นต้องขายแค่ปล่อยยืมโดยทีมที่ยืมรับผิดชอบค่าเหนื่อยเต็มจำนวนให้ได้ แค่นี้ก็ซื้อนักเตะเพิ่มได้แล้วครับ ส่วนยิบย่อย โบนัส แอดออน ผมตอบไว้ในคอมเม้นท์แล้ว ดูอันโตนี่ข้อมูลยังไม่อัพเดต MUFC ต้องจ่ายค่าเหนื่อยตอนไปเล่นกับเบติสอยู่ประมาณ 100,000 ซึ่ง 100,000 เนี่ยต้องเอามาลงบัญชี PSR

ไม่รู้ไม่สนจะเอาๆ

ส่วนหนึ่งเพราะ ค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นเราลดด้วย เพราะเราปลดพนักงานไปจำนวนเยอะมากๆ จากจำนวนพนักงาน 1200 กว่าคน เหลือราวๆ 500-600 แล้วมั้งตอนนี้ น่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้เยอะ บวกกับ การปล่อยแรซฟอร์ดออกไปได้ ได้เงินชดเชยจากเชลซี เงินส่วนแบ่งขายจากเบนฟิก้า จึงทำให้สามารถซื้อได้ในรอบบัญชีใหม่ และน่าจะมีแผนในการหารายได้ มาลดช่องว่างในการซื้อขายรอบนี้ แถมมีข่าวจะเอา บาเลบาอีก

ถ้าตามนั้นแสดงว่าซื้อนักเตะเท่าไรก็แทบไม่เกี่ยวกับกฎการเงินเลย แต่ต้องไปดูต่อว่าซื้อมาเท่านี้แล้วขายต่อได้เท่าไรถึงค่อยมีการลงบัญชี ถ้าซื้อมายอด 100 ล้าน สัญญา 5 ปี ตกปีละ 20 ล้าน ก็จะยังไม่เกี่ยวกับการลงบัญชีสำหรับกฎนี้เลยจนกว่าจะมีการขายแล้วมาคำนวนกำไรขาดทุนอีกทีถึงค่อยลงในบัญชี

แต่ในส่วนการจ่ายจริงของ 100 ล้าน แบ่งผ่อนเป็นปีแรก 50 ล้าน ปีสอง 30 ล้าน ปีสาม 20 ล้าน ตัวเลขพวกนี้ก็จะไปถูกลงบัญชีเพิ่มในส่วนของค่าใช้จ่ายดำเนินการประจำปีรวมกับพวกค่าเหนื่อยค่าโบนัสจิปาถะรัยยังงี้ป่ะ

เช่น ถ้าซื้อมา 100 ล้าน 5 ปี ตกปีละ 20 ล้าน ถ้าใช้ไปสองปี (ลบไป 40 ก็เหลืออีก 60) แต่ขายต่อได้ 80 ล้าน = ได้ตัวเลขบวกทางบัญชีมา 20 ล้าน

เท่ากับว่า ในปีที่ 1 และ 2 ตัวเลขทางบัญชีสำหรับในกฎนี้ จะถูกคำนวณตามกฎเฉพาะค่าใช้จ่ายดำเนินการอื่น แล้วพอปีที่สามเมื่อขายไป ก็จะมียอดบวกทางตัวเลขมา 20 ล้าน (จากตัวอย่างที่ย่อหน้าข้างบน) ขณะเดียวกันในปีที่สามนี้ อีกหมวดนึงที่เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการรวม ก็จะมียอดลบ 20 ล้าน จากการผ่อนงวดสาม บวกกับค่าเหนื่อย/ค่าใช้จ่ายอื่นรัยก็ว่าไป ยังงี้ป่ะ

คำนวณกันปวดหัวชิบหอยยังงั้น

ประมาณนั้นเลยครับ ทำงานตามหลักการทำธุรกิจทั่วไปเลย แค่มีกฏการเงินมาควบคุมไว้เพื่อป้องกันทีมล้มละลายซึ่งจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมฟุตบอลอังกฤษ

ค่าตัวเท่าไหร่ก็ไม่มีผลกับบัญชีจนกว่าจะเกิดข้อตกลงการจ่ายเงิน ตามที่ผมคอมเม้นท์ตอบไว้ถ้านักเตะนอกแผนออกจากทีมได้หมดจะมีเงิน 30 ล้านปอนด์ต่อปีให้ใช้ได้โดยที่ไม่ติด PSR ในฤดูกาลต่อไปค่าเหนื่อย 18.2 ล้านปอนด์ต่อปีของคาเซมิโร่จะเป็นตัวเลขที่เอามาผ่อนจ่ายบาเลบาได้ในปีหน้า (ถ้าเกิดดีลจบ)

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าทีมบริหารมีตัวเลขในมือหมดแล้วว่าใช้เงินได้เท่าไหร่ที่จะไม่ติด PSR ดังนั้นข่าวที่ว่าอยากได้ใคร ถ้าสะกิดเมื่อไหร่น่าจะเอาจริง ส่วนการยื่นข้อเสนอให้กับสโมสรต้นสังกัดก็มั่นใจได้ 80-90% ว่าตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับนักเตะได้แล้ว ยังเสียดายแต่ก็เข้าใจได้ว่าถ้า แรชฟอร์ด-ซานโช่-อันโตนี่-คาเซมิโร่ ออกไปจากทีมพร้อมกันในตลาดนี้ประหยัดเงินค่าเหนื่อยเกือบ 50 ล้านปอนด์ต่อปี คงจะได้นักเตะที่ฟอร์มดีในฤดูกาลที่แล้วเพิ่มอีกแน่