ขณะที่นายAเติบโตพ่อแม่ก็ดูแลนายAอย่างดี แต่นายAไม่อยาก

ดูแลพ่อแม่ เพราะที่บ้านพ่อแม่ไม่มีงานให้ทำ และอยากใช้ชีวิต

อิสระตัวคนเดียว นายAจึงจ้างคนมาดูแลพ่อแม่แทน ค่าจ้างคน

ดูแลพ่อแม่และนายAช่วยกันออก แบบนี้นาย A ผิดมั้ย

ผิดไม่ผิดขึ้นอยู่กับการพูดคุยและตกลงร่วมกันครับ มันไม่มีถูกผิด มันมีแค่ถูกใจหรือไม่ถูกใจเท่านั้น

ไม่ผิด ผมก็อยากเป็นแบบนั้น ติดที่ผมไม่มีเงินจ้างแค่นั้นแหละ

ดูแลกันไป 55+ ประสาทจะกิน พ่อไม่อยุ่แล้ว เรารับจบ

เมื่อก่อนแม่ผมมีพ่อเป็นเบ๊ pro max พอไม่อยุ่ จะให้ผมรับเป็นเบ๊ pro max ต่อ

ผมบอก อ่อไม่ล่ะ เบ๊เฉยๆพอได้ ให้ตามทุกอย่าง ไม่ไหว

แม่เมียผมก็อยุ่ตัวคนเดียว เขาก็ทำอะไรเอง ดูแลตัวเองได้หมด พาตัวเองไปหาหมอ ไปต่างจังหวัด

มันเป็นเรื่องความเต็มใจครับซึ่งผมเต็มใจ

มีคนเคยพูดว่า คนเป็นลูกเค้าไม่ได้ขอพ่อแม่มาเกิดนะ แต่เป็นพ่อแม่ต่างหากที่ทำให้(บังคับให้)เค้าเกิดมา ดังนั้นพ่อแม่ก็ไม่ควรจะบังคับลูกให้ต้องทำตามใจพ่อแม่ทุกอย่าง ลูกจะเลี้ยงหรือไม่เลี้ยงพ่อแม่ก็เป็นสิทธิ์ของเค้า แต่ถ้าพ่อแม่เลี้ยงเค้ามาอย่างดี ลูกที่ดีก็ควรจะดูแลพ่อแม่กลับเช่นกัน เพียงแต่ว่าจะดูแลแบบไหนก็ต้องหาจุดร่วมที่ทั้งสองฝ่ายพอจะมีความสุขตามสถานการณ์ณ.ขณะนั้น

พ่อแม่มีหน้าที่โดยตรงที่ต้องเลี้ยงดูลูก

แต่ลูกไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงที่ต้องดูแลพ่อแม่ยามแก่

คล้าย ๆ เหมือนถามว่าควรส่งพ่อแม่ไปบ้านพักคนชราไหมนี่ล่ะ

เพียงแต่ออกไปไหนมาไหนได้อิสระกว่า เจอคนภายนอกมากกว่า ไม่ใช่แค่เพื่อน ๆ วัยเดียวกัน
แต่ก็ต้องมั่นใจว่าคนมาดูแลแทนไม่บิดพลิ้ว ไม่นอกลู่นอกทาง ต้องตรวจเป็นระยะ

และต้องรับมือกับอาการน้อยใจของพ่อแม่บางคนให้อีก เพราะถึงจะส่งคนดูแล ตระเตรียมให้พร้อม เขาก็อยากอ้อน อยากเจออยู่ดี คล้าย ๆ ลูกอยากเจอพ่อแม่แท้ ๆ หรือคนเลี้ยงมาแต่อ้อนอกนี่ล่ะ

ป.ล. อันนี้ยังดีกว่าแยกบ้านไม่สนพ่อแม่ ขอมีชีวิตของตัวเอง แบบที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ (จริง ๆ มีมานานแล้วแต่โดนกระแสครอบครัวเดียวกันต้องช่วยเหลือกันกลบมานาน) เลยนะ

+1
ผมเห็นพ่อ แม่ทำกับบุพการีของแกแบบต่อเนื่อง
ผมก็ทำตามนั้น ไม่มีใครมาบังคับผมได้
ผมก็ไม่ได้หวังว่าลูกผมจะมาทำแบบที่ผมทำไหม? ผมก็เตรียมเงินเกษียณไว้
วัฒนธรรมบ้านผมสะดวกแบบนี้

ตัวใครตัวมันครับ
เลี้ยงมาก็ไม่ดี
ทิ้งหนี้สินไว้ให้อีก
ดิ้นรนเอาเองแล้วกัน ตามสภาพ
หมายถึงพ่อแม่ผมนะ

ส่วนตัวผมมองลูกเป็นทีมงาน(ทำคนเดียวได้แต่จะดีกว่าถ้ามีทีม) ส่งต่อองค์ความรู้ มอบหมายงานและเงินให้แม้ไม่เยอะ


***เรื่องไม่ได้ขอให้เกิด อันนี้คุยกับลูกไปว่า หนูอยากเกิด "ไม่อย่างนั้นอสุจิตัวตนของหนูจะแซงคนอื่นทำไม"(ข้อกล่าวอ้างที่ว่าไม่อยากเกิดก็ตกไป)

***ส่วนเรื่องเลี้ยงดูยามชรา เราก็เก็บประสบการณ์ไว้ลูกปรึกษาใครไม่ได้ เพราะไม่มีใครไว้ใจได้เท่าพ่อแม่ (บางบ้านครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน อันนี้เข้าใจได้ และปรับปรุงตัวอยู่ตลอดเพื่อไม่เป็นที่รังเกียจของลูก)

จริงจังไปไหม

"บางบ้านครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนแต่เราก็โต้แย้งได้ตามสมควรไม่ใช่พูดอะไรไม่ได้"

ปล.ถ้าผมแก่ผมจะไปเช่าบ้านเช่าคอนโดในกทม.บ้าง ต่างจังหวัดบ้าง ย้ายไปเรื่อยๆ ไม่ต้องซ่อมบ้าน เที่ยวเล่นสบายใจ ช่วยเหลือสังคมแบบใช้เงินน้อยที่สุด และแจกจ่ายองค์ความรู้ให้ได้ถ้าต้องการ อาจจะอัพคลิปลงYoutube Tiktok ฯลฯ

จริงๆ แนวคิดนี้มีง่ายๆเลยครับ พ่อแม่มีสมบัติหรือเปล่า ถ้าบ้านไหนมีสมบัติ หรือกิจการ ลูกๆดูแลพ่อแม่ดูอยู่แล้วเพราะสมัยนี้คนไม่ยกสมบัติง่ายๆ ให้เพราะกลัวว่าให้ไปแล้วลูกจะไม่เลี้ยงดูนั่นเอง

--------

ส่วนมากแนวคิดที่ว่าไม่อยากเลี้ยงดูน่าจะออกมาจากบ้านที่ไม่ได้มีสมบัติหรือมีทรัพย์สินอะไรมากแหละครับถ้าพูดกันแบบตรงๆ

-------


ผมสรุปให้เลยครับ

1 ถ้าพ่อแม่เลี้ยงดูอย่างดีก็ควรจะดูแลท่านกลับ แต่ถ้าคนใดคนหนึ่งทิ้งหรือเติบโตมากับป้ายายฯลฯก็ดูแลคนที่เลี้ยงดูเรามาดีกว่าครับ

2 ถ้าจ้างคนดูแลไม่ผิดครับ คนมีตังค์ก็ทำแบบนี้หมดแหละครับ แต่ก็ควรดูแลท่านด้วยความใส่ใจด้วยแหละครับ

3 บางคนพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงหรือเลี้ยงมาแค่คนเดียวแต่ มารวยด้วยตัวเองแล้วกลับมาเลี้ยงดูพ่อแม่ก็เยอะนะครับ...ฝากไว้ให้คิด