นักเตะหมู่บ้าน
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 674
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Aug 03, 2025 07:23
ไทยvsกัมพูชา =ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไทยvsญี่ปุ่น=รบกันนิด เป็นพันธมิตรกันเถอะ
ตามหัวข้อเลยครับ
ความแข็งแกร่งของศัตรู มีผลต่อการรับมือของรัฐบาล การรับรู้ของประชาชนของประเทศจริงๆ
กับกัมพูชาเรามีกำลังเหนือกว่าทุกด้าน
ม๊อตโต้มาปลุกใจกันเลย
"ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด"
แต่ย้อนไปเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเข้าประเทศไทย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ สงครามมหาเอเชียบูรพา หรือ สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่งของไทยหลายแห่ง ทั้งทางบกและทางทะเล. หลายจังหวัด
สมุทรปราการ, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, สงขลา, ปัตตานี, นครศรีธรรมราช, และปราจีนบุรี
เป็นการยกพลขึ้นบกพร้อมกันหลายจุด รวมถึงมีการเคลื่อนทัพผ่านทางบกด้วย
การยกพลขึ้นบกของญี่ปุ่นเกิดขึ้นพร้อมกับการโจมตี ฐานทัพเรือเพิร์ลฮาเบอร์ ของสหรัฐอเมริกา.
การบุกครองของญี่ปุ่นทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างทหารญี่ปุ่นกับทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวไทยในหลายพื้นที่.
เหตุการณ์สำคัญ
การรบที่อ่าวมะนาว:
มีการต่อสู้ระหว่างทหารอากาศและทหารญี่ปุ่นที่อ่าวมะนาว ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองบิน 5 ในขณะนั้น.
หลังจากนั้นมีการเจรจาและลงนามใน "กติกาสัญญาพันธไมตรีระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศไทย" ทำให้ไทยเข้าร่วมกับญี่ปุ่นในสงคราม.
หลังจากนั้นไม่นาน ไทยได้ประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกา.
ยังมีกลุ่มอาจารย์ปรีดีเสรีไทย ยังมาหักล้างได้ว่าไม่ได้เข้าร่วมกับญี่ปุ่น เพียงแต่ถูกบีบบังคับอเมริกายอมรับรอง ถึงรอดไม่เป็นประเทศแพ้สงครามมาได้
จะเห็นได้ว่า
สงครามมันส์สะใจ ข้ายิ่งใหญ่ตอนที่เราสู้กับคนตัวเล็กกว่าเท่านั้นแหละครับ
ถ้าเราสู้กับคนตัวใหญ่กว่าเราจะเอาอะไรไปสู้
สงครามมีแต่ความสูญเสีย
อย่าเอามันส์ เอาสะใจเข้าว่า
ยิ่งฟังแกนนำม๊อบที่ออกมาพูด
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ : ไม่ต้องคุยเขมร จะบุกถึงพนมเปญ
ทนายนกเขา : ...เชื่อคนไทยทุกคนพร้อมรบเคียงข้างทหาร จะไม่รบเพียงกัมพูชา กับอเมริกาก็ต้องรบด้วยเหมือนกัน
ไปกันใหญ่แล้วโว้ย
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ