2 ทหารไทย จบนายร้อยฝรั่งเศส
ร่วมกัน ค้นคว้า-รวบรวมข้อมูล
เอกสารหลักฐาน
จาก หอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส
-สำนักจดหมายเหตุ กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส
สรุปยืนยัน เกาะกูดเป็นของไทย 1000%

.
“ดร.ปุ้ย ” พลโท ดร. พีรพล สงนุ้ย ดร.ด้านประวัติศาสตร์ แทคทีม พ.อ.ประชา สมิทธ์สมบูรณ์ ผข.ทูตทหารบก และ สุน.ผชท.ทบ.ไทย ประจำ ปารีส ซึ่งจบนายร้อยแซงท์ซีร์ ฝรั่งเศส เช่นกัน
ช่วยกัน ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลจากฝรั่งเศสและประวัติศาสตร์ต่างๆสรุปยืนยัน เกาะกูดเป็นของไทย 1000%

เขตแดนสยาม กับอินโดจีนฝรั่งเศส
อ้างอิงจากเอกสาร ของหอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศสและสำนักจดหมายเหตุกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส
(Série: Nouvelle Série, Sous-Série: Siam, Volume 76-79 เอกสารคณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศส)

หลักการปักปันเขตแดน: ให้ใช้เส้นเขตแดนธรรมชาติถ้าไม่มีเขตแดนธรรมชาติ ต้องตกลงกัน โดยไม่ให้สยามเสียประโยชน์

หลักการนี้มาจากข้อกำหนดในสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 (ที่มา: NS, Siam, Vol. 78, p.37)

ตามสนธิสัญญาฯ เส้นเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีน ฝรั่งเศสตรงฝั่งอ่าวไทยเริ่มที่ชายฝั่งทะเลตรงข้ามเกาะกูด แล้วไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ จนถึงยอดเขากระวาน เนิน 192 (ที่จริงคือเขาบรรทัด ฝศ. เข้าใจผิด มารู้ทีหลังเมื่อสำรวจ)

ต่อมา ตามบันทึกวาจา (PV) เมืองไพลิน
8 ก.พ.1908 ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนฯ ระบุว่า เขตแดนชายฝั่งทะเลระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศสเริ่มเหนือแหลม O' Piam ขึ้นไปราว 3 กม. จากนั้นไปเนิน 192 แล้วไปตามสันปั่นน้ำจนถึงเขาพนมธม

สุดท้าย คณะกรรมการปักปันฯ ตกลงให้เขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศสในอ่าวไทยเริ่มที่แหลมสารพัดพิษ (อยู่ทางเหนือปากน้ำหมู่บ้าน Snon Khuai ราว 10 กม.) ตรงไปยอดเขา 129***

ดังนั้น เกาะกูดจึงกลายเป็นจุดอ้างอิงเพื่อกำหนดเขตแดนทางบกตามที่ พ.ต.Bernard ประธานคณะกรรมการเจรจาสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 ฝ่ายฝรั่งเศสต้องการ

แผนที่กัมพูชา ค.ศ. 1920 ไม่มีเส้น
เขตแดนทางทะเลและเกาะกูดอยู่ใน
สยาม

แผนที่เส้นทางคมนาคมในกัมพูชา ค.ศ.1928 และ 1932ไม่มีเส้นเขตแดนทางทะเล และเกาะกูดเป็นของสยาม

แผนที่กัมพูชา ค.ศ. 1927 จัดทำโดย นาย Baudoin ผู้ว่าราชการกัมพูชา รัฐในอารักขาฝรั่งเศส กำหนดเส้นแบ่ง
เขตทางทะเลชัดเจน ส่วนเกาะกูดอยู่ในสยามอย่างชัดเจน

แผนที่อินโดจีนฝรั่งเศส ค.ศ. 1933 ระบุเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างเกาะกงกับเกาะกูด แสดงให้เห็นว่าเส้นเขตแดนไม่ได้ลากผ่านเกาะกูด และเกาะกูดเป็นของสยาม

แผนที่แสดงป่าไม้ของอินโดจีนฝรั่งเศส ค.ศ.1939 จะเห็นว่าเกาะกูดไม่ได้อยู่ในเขตอินโดจีนฝรั่งเศส

แผนที่อินโดจีนฝรั่งเศส ค.ศ. 1933 ระบุเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างเกาะกงกับเกาะกูดแสดงให้เห็นว่าเส้นเขตแดนไม่ได้ลากผ่านเกาะกูด และเกาะกูดเป็นของสยาม

แผนที่แสดงป่าไม้ของอินโดจีนฝรั่งเศส ค.ศ.1939 จะเห็นว่าเกาะกูด ไม่ได้อยู่ในเขตอินโดจีนฝรั่งเศส เกาะกูดสีขาว อยู่ในสยาม เกาะกงสีเขียว อยู่ในกัมพูชา









#วาสนา นาน่วม

เขมรมันเรื้อนไปเรื่อยจริง

ไปดูเกาะฟูก๊วกสิอย่างฮา

แทบจะติดเขมร แต่เปนของเวียดนาม

ตอนนี้กำลังฮิตเปนที่เที่ยวเลย อนาถเขมรจัด

ทำไมเห็นนักวิเคราะห์บางท่าน (เช่น ทวส) บอกว่าที่่เหม็นหาเรื่องไทยคราวนี้เป้าหมายคือจะชิงแดนและเปลี่ยนการลากเส้นเขตแดนจะเอาเกาะกูดแบะแหล่งพลังงานมหาศาล โดยมีผู้หนุนหลังเป็นชาติมหาอำนาจ ทั้งนี้เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำหรับสงครามโลกครั้งที่สาม

ฟังดูแล้วมันเวอร์ๆ ยังไงไม่รู้
หรือเป็นเรื่องจริง ?

อันนี้ไม่รู้จริงแท้ยังไง เคยได้อ่านจากที่ไหนไม่รู้ เกิดจากเขมรไปกวนตีนอะไรสักอย่างจึงเกิดการรบกับเวียดนาม เวียดนามเลยยึดแม่งเลย แล้วเขมรก็ไม่กล้าวอแว

แล้วใช้อะไรได้บ้าง

ก็บอกแล้ว ปัญหาของไทย คือ สทร. รู้เห็นกัน ทำ mou จะแบ่งผลประโยชน์ กัน สองตระกูล

ไม่ใช่ยึดครับ


มันเป็น สัญญากันไว้ให้มาขับไล่เขมรแดง สำเร็จ จะยกเกาะ ฟูก๊วกให้ และ ฮุนเซ็น เป็นคนเซ็ฯมอบเกาะด้วยตนเอง ไม่ได้โดนยึดแต่อย่างใด

รับทราบครับผม ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ผมไม่เข้าใจ สทร. เลยถ้าทำแบบนั้น อุสาได้กลับประเทศแทนที่จะหาทางสู้กับส้มแบบพิสูจน์ว่าเห้ยกรูยังเก่ง แต่ดันไปหาผลประโยชน์เข้าตัวซะงั้นแบบนี้ประชาชนเกลียดหนักกว่าเดิมอีก

ไม่น่าจะจริงครับ เพราะว่าผมยังมองไม่ออกเลยว่ายึดที่ดินตรงฝั่งนั้นมันจะเกี่ยวกับพื้นที่ทางทะเลได้ยังไง ต่อให้หลักเขตแดนตรงนั้นขยับ หลักเขตแดนตรงตราดเราไม่ได้ขยับ ที่ตรงทะเลหลักเขตแดนจะขยับจริงๆ มันต้องมีการเปลี่ยนการครอบครองพื้นที่ที่ติดกับชายฝั่ง ซึ่งเขมรมันไปเปิดแนวรบตรงนั้นก็จริงแต่ก็ไม่ได้สู้อะไรเลย ดังนนั้นน่าจะทฤษฎีสมคบคิดมากกว่า

ออกจาก รพ.ปุ๊บ ลุงวุ้นมาเยี่ยมคนแรก คุณคิดว่าเหตุผล อะไร ถ้านอกเหนือจาก สนิทกัน

มันมีโอกาศที่ สทร.น่าจะขายชาติหรือเปล่า

คหสต. ผมว่า สทร ไปสัญญากับวุ้นเส้นไว้ตอนที่ไปพึ่ง พอได้กลับไทย วุ้นเส้นเลยมาทวงสัญญา

แต่มันคงไม่ได้ให้กันง่ายๆ เลยมาเป็นรูปแบบนี้

เกาะของไทยแน่นอน และเขมรเองก็เคยตีเส้นหลบเกาะกูดแล้ว

ปัญหาคือใน mou ที่ รบ.นี้จะไปตกลงเพื่อขอใช้พื้นที่ทับซ้อน(มีก๊าซธรรมชาติ) ขึ้นมาใช้

ดันแนบแผนที่ของเขมรซึ่งตีเกาะกูดเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง ถ้า mou นี้ถูกใช้

คนที่คัดค้านกลัวว่าวันข้างหน้า เขมรจะหัวหมอ เอาแผนที่ใน mou นี้ไปอ้างสิทธิ์ ว่าไทยยอมรับการตีเส้นแบบนี้

ซึ่งจากนิสัยเขมร บอกเลยอนาคตมันทำแน่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

หลักเขตอ่ะเปลี่ยนไม่ได้ง่ายๆ แต่ก๊าซมาขอแบ่ง อันนี้ไม่ใช่สมคบคิดนะ