อเมริกามีดาวเทียมสอดแนม KH-11 KENNEN/CRYSTAL เป็นดาวเทียมถ่ายภาพที่เปลี่ยนจากการใช้ฟิล์มมาเป็นการส่งข้อมูลแบบดิจิทัล ทำให้สามารถส่งภาพกลับมายังโลกได้แบบเกือบจะเรียลไทม์ แล้วก็มี LACROSSE / ONYX (ลาครอส / โอนิกซ์): เป็นดาวเทียมที่ใช้เรดาร์ในการสร้างภาพพื้นผิวโลก ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ทะลุผ่านเมฆและในเวลากลางคืน ทั้งหมดนี้สามารถจับภาพเหตุการต่างๆบนโลกได้ทันทีว่าอะไรเกิดขึ้น นี่ยังไม่นับรวมดาวเทียวสอดแนมของเอกชนอีก ผมแปลกใจมากที่อเมริกายังทำตัวลับๆล้อๆแบบนี้อยู่ หรือว่ามันมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าการเมืองในภูมิภาคนี้กำลังจะเปลี่ยนไป และสงสัยไปอีกว่ารัฐบาลไทยทำไมไม่ขอข้อมูลนี้มา หรือข้อแล้วเค้าไม่ให้หรือผมคิดมากไปเอง

อันนี้ยังไม่นับรวม ดาวเทียมตระกูล Orion หรือ Trumpet ที่ยังมีความสามารถในการดักจับสัญญาณการสื่อสารทางวิทยุหรือโทรศัพท์ของหน่วยทหารในพื้นที่ได้

น่าแปลกใจจริงๆ

ต้องเข้าใจก่อนว่า ปัจจุบันอเมริกาไม่ได้ทำการทูตแบบใช้ความสัมพันธ์ (Relationship-based diplomacy) แล้ว แต่เน้นใช้การทูตแบบภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Diplomacy) ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยทางภูมิศาสตร์และผลประโยชน์แห่งชาติเป็นสำคัญ ดังนี้ หากจะว่ากันด้วยพยานหลักฐานที่สหรัฐมี อาจต้องพิจารณาว่าสหรัฐให้น้ำหนักระหว่างไทยกับกัมพูชามากกว่ากัน ซึ่งจากเมื่อวานที่ผมเห็นถ้อยคำแถลงของ ฌอน โอนีล แล้ว บอกตรงๆค่อนข้างเป็นกังวลครับ

ที่ไม่ทำอะไรก็ถูกแล้วป่าว

ถ้าเมกาออกมาปกป้องไทยหรือเขมรตะหากถึงจะต้องตั้งคำถาม ว่ามันได้ผลประโยชน์แน่ๆ ส่วนใหญ่พวกที่ออกมาก็กลางๆ มีทรัมป์ฟุ้งๆโนเบลสาขาสันติภาพ มีทูตเมกาคนใหม่มาเม้นนิดหน่อย ไม่ได้มีใคร take action อะไรจริงจัง ประเทศเล็กๆตีกันที่ชายแดน ไม่ได้ส่งผลกระทบระดับภูมิภาค มันไม่มีใครสนใจหรอก