[RE: ขอพูดเรื่องการ callout]
ประตูขึ้นนำ พิมพ์ว่า:
ในมุมผม ลิซ่าหรือบุคคลระดับโลกคนใดก็ตาม ไม่ควร callout เรื่องสงคราม ความรุนแรง หรือความเกลียดชังใดๆ เป็นสิ่งที่ถูกต้องมากๆ
เพราะคนเหล่านี้มี impact ต่อมวลชนจำนวมหาศาล
ปล่อยให้ยุติไปตามครรลอง ตามกลไกสากลดีแล้ว
"ไม่งั้น การ callout ของบุคคลเหล่านี้ อาจกลายเป็นเชื้อชนวนทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายก็เป็นได้"
นี่เป็นปัญหาส่วนรวม
----------------------
แต่ปัญหาส่วนตัว เช่น เสียฐานแฟน เหล่านี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับบุคคลระดับโลกนะ
การถูกขู่ ทำร้าย เหล่านี้ ก็เล็กน้อยมากสำหรับพวกเค้า (เพราะเจอเป็นปกติ)
ปัญหาส่วนตัวที่น่าปวดหัวยิ่งกว่า
คือถูกบุคคลที่3 นำไปแอบอ้างต่อไปอีกหลายสิบปีหรือตลอดชีวิต นี่ต่างหากที่เป็นปัญหาส่วนตัวที่ต้องระวัง
----------------------
ดารา อินฟลู คนดังที่ call out ถ้าไม่อินกับเหตุการณ์ตรงนี้เกินไป ก็มักจะหวังแสงสปอตไลท์จากสังคม
----------------------
สังคมมีพลวัต ช่วงม๊อบเทพเทือก (ลุงกำนัน) ช่วงนั้นกระแสแรงมาก ดาราคนไหนไม่ call out ถูกบอยคอต
แต่พอเวลาผ่านไป หลายคนที่ call out เจอปัญหาส่วนตัวมากมาย
จนปัจจุบันคนที่ call out ดูจะเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าแล้วด้วยซ้ำ
ฉะนั้น เรื่อง call out ผมว่าไม่มีดีกว่า
----------------------
ม๊อบกำนัน กับม๊อบ 3นิ้ว และการ call out
ผมคิดว่า การ call out เป็นการทำการตลาด ของพรรคการเมืองด้วยซ้ำ
call out ไม่เคยทำให้ความรุนแรงยุติ ยิ่งจะไปกระตุ้นให้โหมกระพือมากกว่า
คนที่เคยอยู่แบบไม่อิน กลับต้องถูกจูงให้มาอิน ให้มาเลือกข้าง ซึ่งไม่ได้มาจากสติปัญญา ความรู้ความเข้าใจ แต่มาจากอคติ ความลำเอียง เพราะถูกกระแสสังคมโถมใส่
หลายคนกว่าจะตื่นรู้ ก็หลายปี
คอมเม้นนี้โฟกัสเรื่องการกระทำและผลของการกระทำอย่างตรงไปตรงมาเป็นกลางที่สุด เป็นคอมเม้นคุณภาพครับ
แต่ส่วนที่ชอบที่สุดคือส่วนย่อหน้านี้
อ้างอิงจาก:
คนที่เคยอยู่แบบไม่อิน กลับต้องถูกจูงให้มาอิน ให้มาเลือกข้าง ซึ่งไม่ได้มาจากสติปัญญา ความรู้ความเข้าใจ แต่มาจากอคติ ความลำเอียง เพราะถูกกระแสสังคมโถมใส่
เชื่อมั้ย บางทีเหตุผลโง่ๆตอนนี้ ถ้าเรามีempathyมากพอจะคิดถึงคนที่ไม่ได้มีชีวิตแบบเราๆทุกคนและทำงานแบบนั้น กำลังเต้นกำลังลงคอนเสิร์ต กำลังโฟกัสทำงานคอนทำให้ทุกคนที่มาคอนมีความสุขที่สุด อาจจะยุ่งจนไม่มีเวลามาเสพข่าวแยกแยะจริงแท้อะไร แล้วยกเหตุการง่ายๆแบบคนมีแม่เหมือนเราๆ-->คนเป็นแม่หรือคนใกล้ตัวอาจจะบอกว่าไม่ต้องเปิดข่าวไปเลยก็ได้ให้ทำงานไปก่อน เพราะเข้าใจสถานการณ์งานเราและกลัวเราเครียดหรือได้รับผลกระทบ แล้วเมื่อน้องมันไม่ได้เข้าใจมากพอก็อาจจะไม่อยากโพสอะไรที่ไม่ผ่านการตกผลึกเข้าใจพอ --ไม่ใช่แค่โพสเพราะเพียงถูกทุกคนมาบอกให้โพส--โดยเฉพาะถ้าโพสแล้วจะเกิดอะไรตามมาอีกไม่รู้? ถึงเวลานั้นจะดีหรือแย่ยังไงใครจะไปรู้อีก? แล้วใครจะรับผิดชอบ? ก็คนโพสไง คนกดดันให้โพสก็สะใจชั่วขณะ แค่นั้น
แน่นอนว่าผมยกตัวอย่างดูเข้าข้างน้อง แต่เชื่อมั้ยว่าแฟนผมทำงานที่บ้านยุ่งจนไม่ได้เปิดข่าวอ่าน ไม่รู้เรื่องเรากับเขมรจนผมต้องนั่งเล่าสรุปให้ฟังในคืนที่มันประกาศหยุดยิงนี่เอง นางถึงจะรู้ ใช่ งานโง่ๆโรงงานที่บ้านนี่แหละทำจนไม่ได้มีเวลาอ่านข่าวเพราะจังหวะงานมันเข้าพอดี ผมเห็นแบบนี้แล้วผมยังคิดเลยว่าบางคนมันก็ยุ่งกับสิ่งตรงหน้าจนไม่มีเวลามาตกผลึกอะไรแบบนี้จริงๆนะ พยามยามเข้าใจกันมากๆหน่อย ใช้อารมตัดสินคนอื่นมันง่ายแหละ แต่เราจะรู้ได้ไงว่าเขาเจออะไรคิดอะไรอยู่