ก่อนโควิด มีนโบายรักโลกมา พยามจะทำแบบไต้หวัน ที่ใส่ถุงต้องเสียเงิน แล้วเงินส่วนนี้จะเป็นเงินสำหรับใช้จัดการปัญหาขยะถุงพลาสติก ตอนนั้นไม่ซื้อเยอะ ห้างไม่ให้ถุงเลย เหมือนกำลังพยายามปรับตัวกันตอบรับนโยบายพวกนี้
เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง ถุงจะเป็นต้นทุนที่เยอะถ้าแจกฟรี
แล้วโควิดมันมา ประกอบกับการโตของแอพส่งอาหาร ที่มันทำให้เกิดการบริโภคถุงพลาสติกโตขึ้นแบบห้ามไม่ได้
หลังจากโควิดเกิดจนจาง นโยบายรักโลกไม่แจกถุงมันก็เลยถูกลืมไป ก็คงมีห้างใหญ่ไม่กี่ห้างที่ยังทำอยู่ อาจจะด้วยเค้ามองเทรนด์รักโลกมันกำลังมา รวมถึงคาบอนเครดิต และดึงดูดลูกค้าได้ส่วนนึง เค้าก็เดินเทรนด์นี้ ส่วนร้านสะดวกซื้อบางร้านก็สู้กันไป แจกบ้างไม่แจกบ้าง ถ้าไม่แจกแต่ยอดยังดีก็ทำต่อ ยอดตกก็ต้องแจกสู้ มันก็ประมาณนี้

ใครไม่ชอบห้างแจกถุง ก็ปฏิเสธ การรับถุงไป

ส่วนตัวผม ต้องการครับ ไม่ว่าเข้า 7-11 หรือ บิ๊กซี โลตัส เวลาได้ถุงพลาสติค กลับมา ผมก็มาเอา พับเก็บสะสมไว้ เอาไว้ใช้ ใส่ขยะ ในครัว กับในห้องนอน ประหยัดค่า ซื้อถุง ขยะ ไปได้เดือนนึงหลายบาท

ควรไป ปลูกฝัง ค่านิยม ใช้ พลาสติค อย่างคุ้มค่า นำกลับไปใช้ซ้ำ ถึงจะถูก ไม่ใช่ ทำเป็นรักษ์โลก ไม่ใช้ถุงพลาสติค แต่สุดท้าย การเก็บขยะในครัวเรือน ก็ใช้พลาสติค ถุงดำ ถุงสี บลาๆ ในการเก็บรวบรวมขยะในแต่ละบ้านอยู่ดี ก่อนนำไปทิ้ง

เซฟค่าถุงแบบหล่อๆบังหน้ามาตั้งหลายปี คนดันไม่เคยอินด้วยซะงั้นเซ็งเลย

คิดง่ายๆ เป็นคุณจะทำธุรกิจเพื่อกำไรหรือเพื่อโลก

ถ้าทำธุรกิจแล้วได้กำไรด้วยได้ทำเพื่อโลกด้วยบางส่วนหรือไม่ได้ช่วยโลกเลยคิดว่าอันไหนดีกว่ากัน

ไม่แถมถุงคนก็ซื้อน้อยลง ไม่ก็ไม่ซื้อไปเลย ผมไปบางทีลืมเอาถุงไปยังไม่อยากซื้อเลย

ผมซื้อของไม่ได้ถุงมาหลายปีละนะ (ยกเว้นสั่ง7-11ออนไลน์) เดี๋ยวนี้กลับมาแจกถุงละเหรอ

แล้วแต่พื้นที่ อย่างที่ที่ผมเล่านี่ 5 เจ้าในดงเดียว มันต้องแข่งกัน

เกือบดีละ แต่คุณรู้ไหมว่ามันต่างกันมหาศาลระหว่าง "ไม่ต้องการก็บอกไม่เอา" กับ "ไม่ให้อยากได้ต้องขอหรือซื้อ" มันเป็นเรื่องพฤติกรรมความเคยชิน

มันต้องทำให้การไม่แจกเป็นเรื่องปกติสิ ไม่ใช่แจกปกติแล้วคนที่ไม่อยากรับต้องเป็นฝ่ายบอกไม่รับ เหมือนซองเครื่องปรุงที่แถมมาอ่ะ ผมไม่เคยปรุงสักครั้ง พยายามบอกไม่เอาๆตลอดแต่หลายครั้งมันก็บอกไม่ทันหรือไม่สะดวกแล้วก็ได้เครื่องปรุงกลับมาอยู่ดี

ผมเห็นด้วยเรื่องใช้ซ้ำ แต่วิธีใช้ของคุณมันก็ผิดอยู่ดี ถุงทั่วไปผลิตมาให้ซ้ำได้เป็นสิบรอบแต่คุณก็ซ้ำแค่รอบเดียวเองนะ การที่คุณรับมารัวๆแล้วบอกว่าใช้ซ้ำด้วยการเอามาใช้ทิ้งขยะต่อมันแทบไม่ได้ช่วยในการลดการใช้เลยสักนิด มันแค่ช่วยคุณประหยัดเงินค่าถุงขยะ ถ้ารับมาแล้วโยนทิ้งทันทีเป็นความเลวร้่ายขั้นสุด แบบที่คุณทำมันก็เป็นเลเวลที่รองลงมา ถ้าคุณเคยมีเยอะมากเลยเอามาใช้เป็นถุงขยะผมรับได้ แต่นี่จงใจรับมาเพื่อต้องการถุงขยะแบบนี้ไม่มีประโยชน์ครับไม่ได้คุ้มค่าอะไรอย่างที่คุณคิด

ส่วนเรื่องถุงขยะจริงๆราคาไม่ได้แพงเลย และที่สำคัญถุงขยะจะผลิตมาจากพลาสติกรีไซเคิล ฉีดมาบางมากพร้อมเผา แบบหนาก็มีเพื่อป้องกันการฉีกขาดเช่นสำหรับพวกขยะติดเชื้อ(ตามบ้านไม่จำเป็นขนาดนั้น) ถ้าจะลดการใช้พลาสติกเนี่ยถุงขยะอ่ะจะเป็นสิ่งสุดท้ายเลยเพราะมันเป็นสิ่งที่ช่วยควบคุมขยะ ยิ่งถุงขยะต้องซื้อด้วยเนี่ยคุณจะไม่เห็นใครโยนถุงดำที่ยังไม่ใช้ลงถังขยะแน่ๆต่างจากถุงที่รับจากร้าน นั่นแปลว่าโอกาสหลุดไปในธรรมชาติก็จะน้อยลง คุณเคยเห็นถุงดำลอยในทะเลเหมือนพลาสติกชนิดอื่นๆเช่นถุงจากร้านค้าไหมล่ะ นั่นล่ะคือความต่างและหน้าที่ของมัน

ความคิดคุณดีมากเลยนะเรื่องใช้ซ้ำแปลว่าคุณมีจิตสำนึกที่ดีมาก แต่ถ้าวิธีการยังไม่ถูกไอ้ที่คุณมั่นใจว่าทำดีแล้วถูกต้องแล้วจริงๆก็ไม่ต่างอะไรกับพวกรับถุงมาโยนทิ้งอยู่ดี

ลองคิดดูว่าทำแบบตอนนี้ กับไปซื้อถุงดำมาแล้วใช้เป็นถุงขยะในครัวเวลาจะทิ้งเอาถังขยะทุกใบที่ไม่สกปรกมากมาเทรวมใส่ในถุงขยะครัวแล้วค่อยไปทิ้ง ถังขยะใบอื่นใช้ถุงใบเดิมต่อและคุณก็หยุดรับถุงจากร้านค้าพวกนั้นไปเลย แบบไหนลดการใช้พลาสติกได้ดีกว่า

คุณก็เกือบจะดีละครับ แต่คุณยังใช้ถุงดำ เก็บรวบรวม ถุงขยะในบ้าน มารวมกัน
ส่วนผมถุงเซเว่น ทุกถุงคือถุงขยะ ผมไม่เพิ่มปริมาณขยะพลาสติคถุงดำ เหมือนคุณ และผมแระหยัดค่าถุงดำเพื่อลดค่าครองชีพ ได้ทุกเดือน

ผมถามกลับ
ผมหรือคุณ ใครลด การใช้พลาสติค มากกว่ากัน ?

ปล. ข้อความ = ตามด้วย อักษร สีแดง คือสิ่งที่ผมโต้แย้งคุณ
ปล.2 ผมแนบคลิป ความเชื่อ เกี่ยวกับ การรีไซเคิล ช่วยโลก ให้คุณลองพิจารณา ว่า ความเชื่อของคุณ กับ ความจริง เกี่ยวกับการรีไซเคิล ในชีวิตจริง มันไม่เหมือนที่คุณฝัน





สุดท้ายนี้ ถ้าการ รีไซเคิล คือ การลวงโลก ว่ารักษ์โลก มนุษย์ไม่มีทางหลีกเลี่ยง การใช้พลาสติค จิตสำนึก ของผู้บริโภค สำคัญ กว่า นโยบาย ทางการเมือง เอื้อนายทุน หรือเปล่าครับ ที่ไม่แจกถุง เซฟต้นทุน พ่อค้านายทุน แล้วได้พรีเซนต์ ความรักษ์โลก แบบหล่อๆ แล้ว ผู้บริโภค อย่างผม ก็ต้องเพิ่มรายจ่ายค่าถุง แล้วก็ไม่ได้ช่วยโลก ขึ้นมาแต่อย่างใด มันเป็นนโยบาย แค่ช่วยนายทุน...

คุณก็ตัดสินใจเอาเอง ว่า ปรับที่พื้นฐานความคิด ผู้บริโภคทุกคน ให้ใช้อย่างคุ้มค่า หรือ ให้ผู้บริโภค ต้องปรับตัว ตามนโยบาย ปาหี่ ของนายทุน จ่ายค่าถุง แล้วเอาถุงนั้น ทิ้งลงถังขยะแบบไร้ค่า หลังหิ้วของมาถึงรถยนต์ หรือที่อยู่อาศัย อันไหน ที่ช่วยโลก ได้ดีกว่ากัน

เอาที่สบายใจครับ พิมพ์อธิบายไปเยอะแล้วถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่จะสื่ออีกก็ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจกันแล้วครับ

ดูข้อมูล ด้านอื่นดูบ้างครับ คุณ อาจถูกล้างสมองด้วย นโยบาย สวยหรู ของนายทุน "รีไซเคิล"

คุณอาจ มองไม่ครบทุกด้าน ผมแค่ มาเสนออีกมุมมอง คุณ เลือกได้ ว่าจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ


แถมอีกนิด ตรงที่คุณบอก พิมพ์มาเยอะแต่ผม ไม่เข้าใจ ใช่ ผมไม่เข้าใจ สีแดง ในรูปที่ผมแคป มาคือ สิ่งที่ผมไม่เข้าใจ และอยากให้คุณตอบผม ถ้า สถานที่ท่องเที่ยว ใช้แต่ถุงดำ คุณมั่นใจ 100% ว่าจะไม่มีถุงดำลอยทะเล?

รับข้อมูล ทุกด้าน แล้ววิเคราะห์เอาเองนะครับ

ปลูกฝังจิตสำนึก vs บังคับด้วยนโยบาย เอื้อนายทุน

อันไหน กันแน่ ที่ช่วยโลก