[RE: พรรคส้มเสนอให้เอาฮุนเซนขึ้น ICC แต่รัฐบาลจะกล้าใหม ?]
จะฟ้อง ICC ได้จะต้องเป็นรัฐภาคีของสนธิสัญญากรุงโรม (Rome Statute) ซึ่งเป็นธรรมนูญก่อตั้ง ICC.
กล่าวคือ ประเทศนั้นจะต้องให้สัตยาบันหรือภาคยานุวัติในสนธิสัญญาดังกล่าว หรือไม่ก็ต้องยอมรับเขตอำนาจศาลของ ICC เป็นกรณีๆ ไป
ทั้งนี้ประเทศไทยไม่ใช่สมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)และประเทศไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบันต่อธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่ก่อตั้ง ICC ดังนั้น ICC จึงไม่มีเขตอำนาจเหนือประเทศไทย
แต่ประเทศกัมพูชาเป็นสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) กัมพูชาได้ให้สัตยาบันในธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่สถาปนาศาลอาญาระหว่างประเทศ.
ผมเข้าใจว่างี้นะ ซึ่งไม่รู้ว่ามันมีรายละเอียดเชิงเทคนิกอื่นๆที่สามารถยื่นฟ้องได้ไหม
****แก้ไขเพิ่มเติม
ทางคุณช่อคงจะใช้ช่องนี้
เงื่อนไขข้อที่สี่ ภาษาละตินเรียก non bis in idem เป็นหลักทั่วไปในทางกฎหมายอาญา หมายความว่า ถ้าบุคคลคนหนึ่งกระทำความผิดหนึ่ง และถูกลงโทษจากการกระทำความผิดนั้นแล้ว บุคคลนั้นไม่ต้องรับการลงโทษนั้นอีก
วิธีการทำให้คำร้องไปสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศได้มี 4 ช่องทาง
1. รัฐที่ให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรมแล้ว เสนอคำร้องไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ
2. คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเสนอคำร้องไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ ในกรณีนี้แม้ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดจะไม่ได้เป็นบุคคลที่สังกัดรัฐสมาชิก หรือการกระทำความผิดไม่ได้เกิดขึ้นในดินแดนของรัฐสมาชิกก็ตาม คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็เสนอคำร้องไปได้
3. อัยการประจำศาลอาญาระหว่างประเทศลงมาเปิดกระบวนการพิจารณาเอง
4. นอกจากสามช่องทางนี้แล้ว ยังมีช่องทางพิเศษอีกช่องทางหนึ่งสำหรับรัฐที่ไม่ได้ให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรม แต่ประสงค์ให้ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามามีเขตอำนาจเหนือคดี เพื่อเปิดกระบวนพิจารณา รัฐนั้นก็อาจแสดงเจตจำนงของตนเพื่อยอมรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศได้ โดยอาศัยมาตรา 12 (3) ของธรรมนูญกรุงโรม ทำ “คำประกาศฝ่ายเดียว” เพื่อยอมรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกรณีหรือเฉพาะช่วงเวลาได้
ref:
https://progressivemovement.in.th/article/progressive/7522/