นักบอลถ้วย ก.
Status: จิ้งจกเสพความเหงา

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Feb 2021
ตอบ: 13106
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 25, 2025 17:49
[RE: น่าจะทำสงครามยึดประเทศมันไปเลย]
อย่าให้บานปลายเลย ยิ่งจบใวยิ่งดี
ค่าใช้จ่ายในการทำสงครามนั้น มหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ และไม่ได้จำกัดแค่ตัวเงินที่ใช้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงต้นทุนอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งที่ประเมินได้เป็นตัวเงิน และที่ประเมินค่าไม่ได้เลยก็มี
ประเภทของค่าใช้จ่ายในการทำสงคราม:
1. ค่าใช้จ่ายทางตรง (Direct Costs): เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานทางทหารโดยตรง
ค่ายุทโธปกรณ์และอาวุธ: นี่คือส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุด ตั้งแต่กระสุนปืน ระเบิด จรวด เครื่องบินรบ รถถัง เรือรบ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ไปจนถึงอาวุธซับซ้อนราคาแพง
ตัวอย่าง: กระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. 100 ลูก อาจมีราคาหลายล้านบาท กองพันปืนใหญ่อาจยิงหมดในเวลาไม่กี่นาทีในการรบเต็มรูปแบบ
ค่ากำลังพล:
ค่าจ้าง/เงินเดือน/เบี้ยเลี้ยง: ทหาร เจ้าหน้าที่พลเรือนที่เกี่ยวข้องกับการทหาร
ค่าฝึกอบรม: การฝึกทหารให้พร้อมรบ
ค่ารักษาพยาบาล: การดูแลทหารที่บาดเจ็บหรือป่วย (ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว)
ค่าบำนาญ/เงินชดเชย: สำหรับทหารผ่านศึกและครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ค่าส่งกำลังบำรุง:
ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง: สำหรับยานพาหนะทุกประเภท (รถถัง, เครื่องบิน, เรือ)
อาหารและน้ำดื่ม: สำหรับกำลังพล
เสื้อผ้าและอุปกรณ์ส่วนตัว:
การขนส่ง: การลำเลียงกำลังพล อาวุธ และเสบียง
ค่าซ่อมบำรุงและเปลี่ยนทดแทน: อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เสียหายจากการรบ
ค่าข่าวกรองและการปฏิบัติการพิเศษ:
2. ค่าใช้จ่ายทางอ้อม (Indirect Costs) และผลกระทบต่อเศรษฐกิจ:
ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานและทรัพย์สิน:
ถนน สะพาน อาคาร บ้านเรือน โรงพยาบาล โรงเรียน โรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ถูกทำลาย ต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการฟื้นฟูและสร้างใหม่
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาค:
เงินเฟ้อ: ราคาสินค้าและบริการโดยเฉพาะพลังงานและอาหารพุ่งสูงขึ้น เพราะอุปทานถูกกระทบ การผลิตชะงักงัน
หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น: รัฐบาลต้องกู้ยืมเงินจำนวนมากเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสงคราม ทำให้ภาระหนี้สินของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
การลงทุนลดลง: นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในประเทศที่เกิดสงคราม ทำให้การลงทุนจากต่างชาติและในประเทศลดลง
การค้าขายหยุดชะงัก: การส่งออก-นำเข้าสินค้าลดลง ช่องทางการค้าถูกจำกัด
ขาดแคลนแรงงาน: ประชากรในวัยแรงงานถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร หรืออพยพหนีภัยสงคราม ทำให้ขาดแคลนแรงงานในภาคส่วนต่างๆ
การว่างงานเพิ่มขึ้น: ธุรกิจหยุดชะงัก หรือปิดตัวลง
ความยากจนและปัญหาทางสังคม: ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัย ขาดอาหาร สาธารณสุขล่มสลาย
ต้นทุนทางสังคมและมนุษยชน:
การสูญเสียชีวิต: ทั้งทหารและพลเรือน ซึ่งประเมินค่าไม่ได้
ผู้บาดเจ็บและพิการ: ต้องได้รับการดูแลไปตลอดชีวิต
ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น: ต้องอพยพออกจากบ้านเกิด เสียทรัพย์สินและวิถีชีวิต
ผลกระทบทางจิตใจ: ผู้รอดชีวิตและผู้ที่เกี่ยวข้องกับสงครามอาจได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง (PTSD)
ความแตกแยกในสังคม:
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายในสงครามใหญ่:
สงครามโลกครั้งที่ 2: เป็นสงครามที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ประเมินกันว่ามีค่าใช้จ่ายทางตรงและอ้อมรวมกัน หลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในมูลค่าปัจจุบัน (ประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์ในขณะนั้น)
สงครามอิรัก (ที่สหรัฐฯ เข้าร่วม) (2003-2011): สหรัฐอเมริกาใช้จ่ายไปกว่า 1.01 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 33.33 ล้านล้านบาท) ในช่วง 7 ปี 5 เดือน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 5 พันล้านบาทในช่วงที่รบหนักๆ
สงครามในอัฟกานิสถาน (ที่สหรัฐฯ เข้าร่วม) (2001-2021): สหรัฐอเมริกาใช้จ่ายไปกว่า 2.261 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 74.61 ล้านล้านบาท) ในช่วงเกือบ 20 ปี
สงครามรัสเซีย-ยูเครน (ปัจจุบัน):
ค่าใช้จ่ายทางทหารทั่วโลกในปี 2022 พุ่งสูงทำสถิติใหม่ที่ 2.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 77.3 ล้านล้านบาท) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสงครามนี้
ยูเครนเอง มีค่าใช้จ่ายทางทหารเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่า เป็น 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2022
อิสราเอล (สงครามกับฮามาส): กระทรวงการคลังอิสราเอลเปิดเผยว่าค่าใช้จ่ายในการทำสงครามพุ่งแตะระดับ 5.25 หมื่นล้านเชเกล หรือประมาณ 1.42 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2024
ค่าใช้จ่ายในการทำสงครามจึงไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขในงบประมาณทางทหารเท่านั้น แต่เป็นภาระอันหนักอึ้งที่ส่งผลกระทบยาวนานต่อเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตของผู้คนทั้งในและนอกประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างไม่อาจประเมินค่าได้ครบถ้วนครับ