เห็นข่าว สเปอร์ ก็จะขายลิขสิทธิ์การใช้ชื่อสนามฟุตบอล ประมาณปีละ 25 ล้านปอนด์
อย่างแมนฯยูไนเต็ด ถ้าขายลิขสิทธิ์การใช้ชื่อโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด บ้าง ก็น่าจะได้สัก 40-50 ล้านปอนด์อยู่นะ ถ้าไปตกลงกันดีๆ
ไหนๆก็จะสร้างสนามใหม่แล้ว ใช้จังหวะนี้ หาเงินจากการขายชื่อสนาม มาใช้แก้ปัญหาเรื่องเงินของสโมสร น่าจะช่วยได้เยอะ
อาจจะให้สิทธิ์ บริษัทที่มาซื้อ ได้สิทธิ์ในการยื่นข้อเสนอเป็นสปอนเซอร์สนามใหม่ไปด้วยเลย
สมมติ ใช้ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดอีก 5 ปีๆละ 40 ลป. เป็นเงิน 200 ลป. แล้วให้ใช้ชื่อสนามใหม่ต่ออีก ตามแต่ตกลงราคากันใหม่

อย่างสโมสรอื่นๆ (ข้อมูลจาก ChatGPT)
1. Arsenal – Emirates Stadium
• มูลค่า: ประมาณ 150 ล้านปอนด์ (รวมค่าสปอนเซอร์เสื้อด้วย)
• ระยะเวลา: 15 ปี (เริ่มปี 2006)
• บริษัท: Emirates Airline
• หมายเหตุ: เป็นหนึ่งในดีลที่ใหญ่ที่สุดช่วงนั้น ครอบคลุมทั้งชื่อสนามและเสื้อแข่ง

⸻
2. Manchester City – Etihad Stadium
• มูลค่า: ประมาณ 400 ล้านปอนด์
• ระยะเวลา: 10 ปี (เริ่มปี 2011)
• บริษัท: Etihad Airways
• หมายเหตุ: รวมทั้งชื่อสนามและสปอนเซอร์เสื้อ + สนับสนุนโครงการพัฒนาสโมสร

⸻

3. Bayern Munich – Allianz Arena
• มูลค่า: ประมาณ 90 ล้านยูโร
• ระยะเวลา: 15 ปี (เริ่มปี 2005)
• บริษัท: Allianz
• หมายเหตุ: ชื่อสนามยังคงใช้แม้จะเปลี่ยนสัดส่วนการถือครอง

⸻

4. Atlético Madrid – Cívitas Metropolitano
• มูลค่า: ไม่เปิดเผย (แต่คาดว่าในระดับ หลักหลายสิบล้านยูโร)
• ระยะเวลา: เริ่มปี 2022
• บริษัท: Cívitas (บริษัทพัฒนาเมืองและอสังหาริมทรัพย์)
• หมายเหตุ: เป็นสนามใหม่ของสโมสร ใช้แทนสนาม Vicente Calderón

⸻

5. Tottenham Hotspur – สนามยังไม่มีชื่อสิทธิ์
• หมายเหตุ: แม้จะเปิดสนามใหม่ในปี 2019 (ชื่อชั่วคราว “Tottenham Hotspur Stadium”) แต่สโมสรยัง ไม่ได้ขายสิทธิ์ชื่อสนาม เพราะรอข้อเสนอที่คุ้มค่า คาดว่าเป้าหมายคือ มากกว่า 400 ล้านปอนด์ ระยะยาว

⸻

6. Newcastle United – เดิมชื่อ Sports Direct Arena
• มูลค่า: ไม่เปิดเผย (แต่เป็นการตั้งชื่อโดยเจ้าของ Mike Ashley ฟรี เพื่อโฆษณาบริษัทตัวเอง)
• หมายเหตุ: ชื่อเดิม “St James’ Park” ถูกนำกลับมาใช้หลังการเปลี่ยนเจ้าของใหม่ในปี 2021

⸻

7. Juventus – Allianz Stadium (เดิมชื่อ Juventus Stadium)
• มูลค่า: ประมาณ 75 ล้านยูโร
• ระยะเวลา: 6 ปี (เริ่มปี 2017 – ขยายถึง 2030)
• บริษัท: Allianz
• หมายเหตุ: Allianz เป็นเจ้าของชื่อสนามหลายแห่งในยุโรป

ปล. แต่ตรงนี้ ผมไม่รู้ว่า จะเอาเงินก้อนจากการขายชื่อสนาม มาใช้เสริมทัพได้เลยไหม

ก็จะเกิดปัญหาคล้ายๆกับตอนมีข่าวจะ join Superleague ของเปเรซนั่นแหละฮะ

ฟุตบอลอาชีพเป็นธุรกิจที่แปลก ทีมเป็นตัวแทนของชุมชน แฟนท้องถิ่นมีบทบาท(แม้จะไม่มีหุ้นส่วน) ในทิศทางและกิจกรรมของสโมสร

ยังมีแฟนอีกมากที่เป็นอนุรักษ์นิยม และอ่อนไหวกับการเปลี่ยนแปลง และพร้อมออกมาต่อต้านไม่ใช่แค่ในท้องถิ่น แต่อาจจะทั่วโลก

ชื่อ Old Trafford มันอาจจะหมายถึงจิตวิญญาณของทีม (ถ้าเค้าจะรู้สึกแบบนั้นอ่ะฮะ) การตัดทิ้งหรือเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ไม่ถูกใจ

[อันนี้ผมเดาเอง] สังเกตของสเปอร์ส ผมว่าฉลาดและวางแผนไว้เรียบร้อย สร้างสนามใหม่ และวางแผนจะหาสปอนเซอร์ชื่อสนาม

ก็ไม่ต้องตั้งชื่อสนามแม่มเลย ไม่มีชื่อ ไม่มีความผูกพันธ์ ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง(มีสปอนเซอร์) ก็จะได้ไม่ต้องดราม่าขัดแย้งกัน

ก็เหมือนลิเวอร์พูลทำไมไม่ขึ้นค่าตั๋วนั่นแหละ แฟนบอลท้องถื่นเค้าไม่ยอมไง

ผมไม่ติดนะ ถ้าจะขายชื่อสนามแล้วได้เงินมหาศาล
แต่แฟนบอลท้องถิ่นคงไม่ยอมแน่ๆ

มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสำหรับแฟนบอนท้องถิ่นจะยอมรับอ่ะสิครับ
ถ้าสนามใหม่ที่จะสร้าง ขายชื่อได้แน่ แต่ old trafford แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ก่อนหน้านี้เคยมีแนวคิดแล้ว ซาวเสียงแฟนบอลแล้ว เลยล้มเลิกไป Snapdragon เคยถามซื้อมาแล้ว ก็พับไป

ที่ไม่อยากให้ขายกันเพราะกลัวว่าขายแล้วเงินจะหมุนไปที่อื่นไม่ได้ลงกับฟุตบอลมั่งครับ

แฟนบอลบางทีก็เอาใจยาก อยากให้ทีมมีเงินเยอะๆไปซื้อนักเตะดีๆแพงๆแต่ก็ไม่ถูกใจวิธีหาเงินอีก ชอบห่วงวัฒนธรรมพอไม่ได้ดั่งใจก็ด่า เรื่องชื่อสนามตราหมีเปลี่ยนมาสามชื่อแล้วมั้งเพื่อหาเงิน

ต้องรอสนามใหม่โน่นแหละถึงได้เปิดประมูลชื่อสนามจากสปอนเซอร์

สโมสรมีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่แฟนบอลเยอะ แฟนบอลไม่ยอมก็ต้องฟังเสียงชาวเมือง

ผมว่าถ้าเปลี่ยนชื่อแล้วความขลังมันหายไปเลยนะ
มูลค่าทางการตลาดน่าจะลดลงไปอีก
สิ่งที่ยังดึงดูดแฟนแมนยูตอนนี้อ่ะ คือประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ปัจจุบันเลย

สนามยังไม่ลงเสาเลย น่าจะอีกนาน

ตอนนี้แก้เรื่องผลงานในสนามก่อนครับ ยิ่งแย่เงินจากสปอนเซอร์จะหายไปเยอะ

1.แผนการสร้างสนามใหม่กำลังจะเกิดขึ้นการขายสปอนเซอร์ส่วนนี้ดีลกัน 5-10 ปี

2.แผลเพิ่งจะแตกในฤดูกาลนี้ จากทีมบริหารเดิมหลักคิดของเกลเซอร์คือไป Bet กับ UCL จากสัมภาษณ์ของ SJR ไม่มีการวางแผนระยะยาวเอาไว้มาก่อน

3.กระแสต่อต้านจากแฟนบอล บางอย่างทำได้บางอย่างไม่ควรทำ

องค์กรขนาดใหญ่ขยับตัว ปรับตัวแต่ละทีมันทำได้ยากรวมถึงใช้เวลามาก สถานการณ์ของทีมตอนนี้สนุกกับดูวิธีการจัดการแต่ไม่สนุกกับผลงานในสนาม ถ้าจำกันได้ตอนที่เริ่มลดจำนวนบุคลากรแฟนบอลก็ด่ากันฝุ่นตลบ พอจบฤดูกาลรอด PSR มาได้กลับมีการพูดถึงน้อยมาก ตอนนี้รอดูว่าจะแก้ปัญหากับนักเตะที่ต้องการปล่อยออกไปยังไง วันนึงเรื่องนี้อาจจะเป็นสารคดีจริงๆก็ได้

เพิ่มให้อีกข้อ เชื่อไหมขายตอนนี้ไม่มีใครซื้อ
ทีมอยากขายแพงๆให้คุ้มที่โดนแฟนๆด่า แต่ผลงานแบบนี้ใครจะจ่ายต้องคิดหนักๆอะ