ตอนนี้คืออยู่ในช่วงชื่นมื่นของแฟนเชลซี เพราะทีมเพิ่งได้แชมป์ 2 ถ้วยติด
แถมตบยอดทีมแห่งยุคอย่างปารีสมาด้วย ด้วยเหตุนี้คนจึงพูดถึงวิธีการทำทีมแบบ
"ชิงซื้อเด็กเทพมา ถ้าใช้งานได้ใช้เลย ยังใช้ไม่ได้ส่งไปสโมสรลูก ถ้าไม่รุ่งก็ขายในราคาที่ยังพอมีกำไร"

เอาเข้าจริงต้นฤดูกาล 2024 ผมว่าแฟนเชลซีหลายๆคนรวมถึงผมก็ยังไม่เข้าใจ
ฺBusiness model นี้แบบชัดเจนเท่าไร รู้แค่ว่าสโมสรคงไปในใน way สอยดาวรุ่งแล้วละ
ซึ่งก็กลัวว่ามันจะไปเหมือนกับพวก อาเเจ็ก ไลป์ซิค ดอร์ทมุน ฯลฯ ซึ่งเราก้กังวงว่ามันจะ
เพียงพอไหมกับการไล่ล่าแชมป์ ในความสำเร็จแบบที่ยุคเสี่ยหมีเคยทำมา
แต่พอผ่านไปไม่ถึงปี พอมีผลงานเป็นคำตอบมันเลยถูกถอดมาอธิบายทีละจุด




ซึ่งพอมาลองมองแบบแยกย่อยลงไปอีก ผมว่าตอนนี้มันมีกลุ่มนักเตะแบบนี้
*** แต่ละกลุ่มที่แยกหมายถึงเกรดของนักเตะตอนก่อนจะซื้อเข้ามาในยุคท็อดนะครับ ***

Group A - นักเตะอายุน้อยเกรด A ที่มีออร่า ประสบความสำเร็จมาบ้าง : Palmer(แชมป์ลีกส์,UCL) Enzo (แชมป์โลก,ค่าตัว 100m) , Caicedo (ค่าตัว 100m)
Group B - นักเตะอายุน้อยที่เกรด B+ แต่แววดี : Estevao , Joao Predo , Delap , Gitten , Ximon(ถ้ามา) , Hato (ถ้ามา)
Group C - นักเตะอายุน้อยที่เกรด B ส่งไปปั้นสโมสรลูกและกลับมา : Andre Santos , Paez ,Sarr, Anselmino
Group D : นักเตะลูกหม้อ Cobham : Colwill , Chalobah , Gorge , Acheampong
Group E : นักเตะที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง : Jackson , Guiu , Lavia(สภาพร่างกาย), Gusto (ตำแหน่งและวิธีการเล่นที่เหมาะสม), Fofana (สภาพร่างกาย)
Group F : นักเตะ senior ที่ฟอร์มสม่ำเสมอ : Cucu , Neto , Tosin

ซึ่งจะเห็นได้ว่า
- Group A เป็นตัวหลักและ Untouchable เรียกว่า"ราคาและดีกรี การันตีคุณภาพ" อันนี้บอร์ดยังซื้อไม่ Fail ต้องชื่นชม
- Group B คือน่าจะเป็น Main Product ที่จะมีผลต่อทีม ทั้งในแง่ศักยภาพของทีม และ บัญชีการซื้อขายหลังบ้าน
- นักเตะ Group C ยังไม่มีใครฉายแววขึ้นมา เพราะต้องใช้เวลา ปีนี้ลุ้นให้เป็น Andre Santos , ปีถัดไปต้องรอดู Paez ,Sarr, Anselmino พอจะขึ้นมาได้ไหม


จากโมเดลและความสำเร็จในปี2024 แล้วนั้น สิ่งที่ผมอยากเห็นในปี 2025 คือ (ความเห็นส่วนตัว)

1. อยากเห็นนักเตะกลุ่ม B และ C ขยับขึ้นมาเป็นตัวหลัก เพื่อลดการจ่ายเงินซื้อนักเตะ Group A
2. อยากเห็น Group D ที่เป็นลูกหม้อขยับขึ้นไปเป็น Untouchable Player อย่างพวก Group A เพราะหลายปีที่ผ่านมาเด็กจาก Cobham ขยับขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้น้อยมาก
3. เอาชนะเกม Big 6 อย่างน้อย เกมเหย้า ชนะ4 เสมอ1 แพ้ 0 / เกมเยือน ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
อยากให้คงความเป็นตัวใหญ่ในการที่เอาชนะปารีสมาเจอกับพวก Big 6 ในลีกส์
4. ติด Top4 , ขยับตัวเองไปเบียดแย่งแชมป์ลีกส์

ที่อยากจะบอกคือ ทั้งหมดผมคิดว่ามันคือการ "เริ่มต้น" จริงๆ
ดีใจกับความสำเร็จนี้ได้เต็มที่ แต่อย่าเพิ่งได้ใจมากเพราะส่วนหนึ่งคือการบริหารที่ดีจริงๆ (ส่วนใหญ่)
อีกส่วนหนึ่งผมคิดว่าโชคดีที่เราจั่วนักเตะ Group A เข้ามือทุกตัวแล้วท็อปฟอร์มหมด
ความท้าท้ายคือสร้างนักเตะ B และ C ขึ้นมาเป็นกำลังหลักเรื่อยๆ และมีแชมป์ติดมือแบบไม่ขาดเกิน3-4ปี ที่สำคัญ คือแชมป์ลีกส์ขอให้มาภายใน 3-4 ปีนี้ ผมจะกราบเสี่ยท็อดงามๆเลย

รอดูว่า สโมสรต่อไปจะเป็นโปรตุเกส แล้วตามด้วยบราซิล อย่างที่มีบางคนวิเคราห์ไว้หรือเปล่า
เห็นว่าจะเอาแบบเส้นทางของเอ็นโซ่ คือคุมต้นทาง(ที่อเมริกาใต้) คุมกลางทาง(โปรตุเกส-สายอเมริกาใต้,ฝรั่งเศส-สายอัฟริกา) แล้วจากนั้นก็มาปลายทางที่เชลซี

ถ้าเรามีนักเตะคนนึงที่ซื้อตัวในอเมริกาใต้ที่ต้นทางราคาไม่สูง แล้วส่งมาสโมสรกลางทาง ทำผลงานได้ดี ก็ส่งมาปลายทาง

สำเร็จแบบนี้ได้ ผมว่าธุรกิจจะครอบคลุมดีมากเลยนะ

แต่ตอนนี้ก็ต้องใช้การซื้อดาวรุ่ง18-20 มีแววมาก่อน แล้วปั้น คัดไว้เฉพาะตัวท็อปในหมู่ดาวรุ่งอีกที ส่วนที่เหลือขาย

นี้คือเหตุผลที่ผมอยากให้บอร์ดมีทีมลูกเพิ่มอีกทีม มากกว่า ขยายความจุสนามอีกนะ [อยากได้ทั้ง2แหละ แต่ถ้าให้เลือกขอเลือกเพิ่มทีมลูก]

ได้โปรตุเกส สเปน หรือ อิตาลี ก็ได้

การซื้อเด็ก ส่งปั้นทีมลูก ขายทำกำไร หรือดันขึ้นทีมหลัก จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นแน่นอน

ปล.Group B - นักเตะอายุน้อยที่เกรด B+ แต่แววดี : Estevao , Joao Predo , Delap , Gitten , Ximon(ถ้ามา) , Hato (ถ้ามา)

ซิม่อนจะก้าวไปเป็นเกรด A แน่นอน รอดูได้เลยครับ

ส่วน ซานโต้ส ผมเชื่อว่าจะเป็นอะไหล่ที่ดีที่สุด รองจากแค่ ไคเซโด้ กับ เอ็นโซ่ มั่นใจว่าดีกว่า ลาเวียได้แน่ๆ รายนั้นอาการบาดเจ็บเล่นงานเรื่อยๆจนไม่มีเวลาในสนามให้พัฒนาฝีมือ

อนาคตดูสดใสเลยนะเมื่อก่อนโมโหเสี่ยท๊อดมากตอนผลงานไม่ดีตอนนี้เริ่มเห็นวิชั่นแกแล้ววางเครือข่ายแมวมองเก่งๆไม่ต้องซื้อซุปตาร์อีโก้จัดค่าเหนื่อยแพงมาให้ปวดหัวเลยมีจ้างนักรักบี้มาดูแลทัศคติสภาพจิตนักบอลอายุน้อยบรรยากาสทีมดีมากตอนนี้

สรุปได้ดีเลยครับ เป้าหมายกำลังดีไม่ได้เร่งรีบอะไรเหมือนยุคเสี่ยหมี

อีกเรื่องนึงคือโค้ช ถ้าจะมาแนวดาวรุ่งโตไปกับทีมแบบนี้โค้ชก็ต้องเป็นคนที่ใช่ระยะยาวด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนทุกปีอย่างที่ผ่านมา หวังว่ามาเรสก้าจะเป็นคนนั้นนะผมให้โอกาสเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังเกาะ top 4 เหนียวแน่น