(ผมแฟนหงส์นะ) เคส ไคเซโด้ กับ ลาเวีย แสดงให้เห็นความชัดเจน ในเป้าหมาย ของทีมซื้อขายเลยครับ
....เชื่อว่าถ้าเป็น man utd เจอสถานการณ์เดียวกัน อาจจะเลือกกล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าตัดสินใจปิดเกมส์แบบเชลซีทำ

กว่าจะได้ขนาดนี้ก็ทุ่มเยอะอยู่ ดาวรุ่งก็กว้านซื้อ คนไหนเล่นดีก็ใช้ คนไหนไม่ดีก็ขายต่อ เน้นซื้อดาวรุ่งเป็นหลัก
เพราะถ้าตรง ฟอร์มดีๆ ใช้ได้ยาวๆ ดาวรุ่งปล่อยยืม ขายได้ขาย ตัวไหนไม่ใช้ก็ตัดเลย

แมนยูผมว่า บอร์ดตีโจทย์ไม่แตก เอาโค้ชที่ใช้ระบบไม่เข้ากับนักเตะ ซื้อตัวที่เสี่ยงเยอะไปหน่อย หรือไม่ก็อายุเยอะไปนิด ให้ค่าเหนื่อยสูงจนปล่อยออกยาก

อย่างบรูโน่ ถ้าเป็นบอร์ดเชลซีในสถานการณ์นั้น ผมว่าขายแน่ๆ เพราะบอร์ดเชลซีมองว่าอันไหนปรับได้ปรับ เปลี่ยนได้เปลี่ยน เด็ดขาด มากึกๆ กักๆ เสียดายนั้นนี้ เวลาจะไปเสริมทัพมันก็มาลำบากอีก

ซิกแซกเทพครับ ไอ้ที่ช่วงแรกแฟนบอลขำๆด่าๆกันเรื่องเซ็นสัญญา 7-8 ปีน่ะ มันช่วยให้ทีมสามารถเสริมนักเตะใหม่ได้มากกว่าปกติ เพราะเพดานค่าตัดจำหน่ายรายปีมันลดลง ( ไปนานหลายปีแทน ) ทำให้สามารถเสริมต่อปีได้เยอะ มันก็เปลี่ยนสควอชได้ไว ปีกว่าๆเองมั้งเปลี่ยนหมดทั้งทีมละ

แล้วก็ขายนักเตะได้ดีครับ จำปีที่ไปเร่ขายซาอุได้มั้ย นั่นน่ะพอช่วยให้เสริมตัวใหม่ได้ตามเป้า บวกกับการซิกแซกทั้งขายทีมหญิง ขายโรงแรม มันก็ทำให้เปลี่ยนสควอชได้ง่ายกว่า แมนยู ที่ยังติดๆขัดๆเพราะขายตัวเก่าออกยาก

แล้วก็การส่องนักเตะนี่จริงๆมีซื้อกากด้วย แต่ก็มีได้ของดีด้วย ดีลพาลเมอร์ เนี่ยพลิกเกมเลย แล้วอย่าง ไคเซโด้ คูคูเรย่า ก็โหด ค่อนข้างเป็นกาชาปองที่ได้ตัวซีเคร็ทเข้ามาบ้าง ไม่ได้เกลือทุกดีล


อีกอย่างก็การเลือกโค้ชรอบนี้ โล้น นี่ไม่ใช่เลือกมาเพราะเคยอยู่แมนซิกับหน้าเหมือนเป๊ปนะ

ช่วงท้ายฤดูกาลยุคพอช แผนที่ทำให้ เชลซี ชนะรัวๆคือแผนอินเวิทแบ๊คซ้ายแล้วปรับเป็น 3-2-4-1

ซึ่ง มาเรสก้า มันเล่นแผนเดียวกันที่ เลสเตอร์ เพียงแค่มันอินเวิทแบ๊คขวาไม่ใช่ซ้าย

เพราะงั้นพอมาแล้วแผนมันก็เลยมีความใกล้เคียงกันในแง่การยืนตำแหน่งนะ แต่จะไปเปลี่ยนรายละเอียดทางด้านแท็คติคแทน

เทียบกับ แมนยู เลือก อโมริม มาแทน เทนฮาค นี่คือเปลี่ยนรูปแบบการยืนตำแหน่งเลย จากหลัง 4 ไป 3 ผมว่ามันก็ปรับตัวนานหน่อย อาจต้องเปลี่ยนสควอชเยอะหน่อย

ช่วงแรกเหมือนเป็นช่วงเรียนรู้ครับ กลุ่มทุนอเมริกามักให้ความสำคัญกับหลังบ้าน กว่าจะเซ็ตหลังบ้านเสร็จนานอยู่ ตั้ง วินแสตนลี่ ลอเรนซ์ สจ๊วต โจ ชิลด์ แซม จีเวลส์ ตอนแรกไปดึงวีเวลมาจากไลป์ซิก แต่อยุไ่ด้แปปเดียว สักพักก็เริ่มเข้าที่ มีประสบการณ์มากขึ้นทำให้เวลาเซ็น เซ็นแต่ดาวรุ่งมีแวว ตัวอย่างเด่นๆชัดๆ เลย คือพาลเมอร์ ตอนรกมาแฟนเชลซี ยัง งงๆ ใครวะ ราคาแพงด้วยยังไมไ่ด้ขึ้นชุดใหญ่ ราคา 42.5 ลานปอนด์ พอมาละ คือโคตรปังราคาพุ่่ง ผลงานโจ ชิลส์ เหล่านี้ คือหลังบ้านมีส่วนสำคัยอาจะต้องให้เวล่แมนยูอีกหน่อย ผมว่าน่าจะใช้โมเดล คล้ายๆกันในอนาคตนะ

ผมเข้าใจว่าเจ้าของเชลซีไม่ได้แค่ล้างไพ่ในส่วนของนักฟุตบอลอย่างเดียว ในส่วนขององค์กรก็ปรับเปลี่ยนโครงสร้าง บุคลากร และแนวทางขององค์กรใหม่ทั้งหมดเลย

ดีล มอยโด้ อย่าให้เครดิต ทีมซื้อ-ขาย ครับ ให้เครดิต เสี่ย X ดีกว่า DOF มันลีลาจนจะเปิดพรีซีซั่น ละ X แม้งลำคาญ ลงมาจบดีลเองครับ เลยทำให้ DOF มันรู้ถึงลำดับความสำคัญของทีมว่า ดีลไหนควรรอได้ ก็รอ ด่วนคือด่วน

เชลซีเป็นทีมที่กล้าได้กล้าเสีย​ เป็นตั้งแต่เสี่ยหมี​ละ
ถูกใจคือลุยเต็มสูบจัด​เลย​ ทีมอื่นก็ชอบชัดเจนการค้าขาย​ แมนยูกั้กๆกล้าๆกลัวๆ​

(มองจากมุมคนนอก) เชลซี ยังทำงาน บนเป้าหมายนักเตะ ที่ On Plan อยู่ ตัดสินใจบนโครงสร้างทีมที่ชัดเจน
... ต่อให้ เสี่ย X มาจบงานให้ก็ตาม แต่ผลที่ได้ คือ นักเตะที่จบดีลได้ ก็เข้ากับแผนงานที่ทีมเตรียมไว้

ต่างกับ Man utd ที่มี DOF เหมือนไม่มี และ มี CEO ไม่สนอะไรทีมเลย >> สภาพหลังบ้านเลยเป็นแบบที่เห็นกัน

อีกอย่างคือเรื่องดราม่าจบหลังบ้านครับ ตอนเอนโซ๋ไลฟ์ฉลองแชมป์ดราม่ากันใหญ่โตกับแก๊งนักเตะฝรั่งเศส สุดท้ายไปเคลียร์กันหลังบ้านกัน เงียบจ้อย ทุกวันนี้เหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น

อันนี้แมนยูต้องรีบแก้ครับ เพราะอะไรนิดหน่อยก็ออกสื่อ อย่างเคสกานาโช่นี่น่าฉุนจัดจริงๆ นิดหน่อยลงโซเชียล โดนดรอปก็ลงโซเชียล ไหนจะหนอนในห้องแต่งตัวอีก

+1 ครับ ดีลไคเซโด้ต้องให้เครดิตเสี่ยเอ็กซ์จริงๆครับ ลงมาลุยดีลนี้กับตัวเองเลย

มหาเทพโล้นมาเลสก้า พ่อทุกสถาบัน

คิดว่าเพราะเชลซีรู้สภาพตัวเองเลยไม่ติดว่าต้องใช้ของแบรนด์เนมเท่านั้นครับ อันไหนเขาว่าของดีก็ซื้อมาลองใช้ก่อน ไม่ถูกใจก็ขายเอากำไรได้เยอะบ้างน้อยบ้าง ส่วนแบรนด์เนมอันไหนเห็นแล้วชอบดูแล้วคงได้ใช้ประจำถึงแพงฉันก็จะซื้ออะ

ส่วนแมนฯยูยังคงติดหรู ทุกตัวแลกมาด้วยค่าตัวค่าเหนื่อยมหาศาล พังมาทีก็เสี่ยงจัดเลย ขายต่อก็ยาก

ตลอด20ปี
ดูจากรายชื่อ25นักเตะที่ลงทะเบียนกับEPLแต่ละปี
จะรู้เลยครับว่าเชลซีไม่เคยแย่

ขณะที่แมนยู5ปีหลัง
ตัวที่จะเอาลงสนามยังไม่ค่อยพอใช้เลย

จนต้องดันนักเตะเยาวชนขึ้นมา
แล้วเด็กอะคาเดมี่สามารถยึดตัวจริงได้แบบง่ายๆ
เพราะตัวที่จะเอาลงสนามยังไม่ค่อยจะมีเลย

ตั้งแต่เอ็นโซ่แล้วเสี่ยเอ็กลุยเอง ผมสังเกตุดีลใหญ่ๆเสี่ยเอ็กลุยเองหมดน่าจะเป็นคนตัดสินใจใหญ่สุด

ท็อดด์เอ็กถึงจะโดนด่าบ่อย แต่เรื่องใช้ตังนี่คือต้องยอมอะทุ่มหมดเสี่ยงไม่เสี่ยงพี่แกเอาหมด ค่อยแก้ปัญหาหาทางซิกแซกเอา

แล้วพอแนวทางซื้อสตาร์ปีตลาดแรกมันพังพินาศก็แก้เกมเร็วเอาแนวทางซื้อเด็กค่าเหรื่อยไม่แพงมาแทนใช้ได้ก็ใช้ยาวๆ ใช้ไม่ได้ก็ยังขายต่อได้