จากทีสัมมาหลายคน

คนที่ตอบลื่นไหล คุยเก่ง หลายคนเป็นแค่คนเก่งแต่ปาก
สายผมเน้นทาง technical
โดนอัดด้านเทคนิคไปก็ไปไม่เป็นหรือพยายามแถ

บางคนพูดไม่เก่ง แต่ตอนคําถามเทคนิคได้เกือบหมด

ต้องโชคดีจริงๆถึงจะได้ทั้งเก่งเทคนิค พูดเก่ง พรีเซ้นเป็น

เลือกเอาละกันครับ ว่าอยากได้คนแบบไหน
สําหรับสายงานผม
คนที่ความรู้ techinal แน่นๆ มีแต่คนดีๆทั้งนั้น
มันสื่อถึงความพยายาม การเรียนรู้ ความอดทน
การใส่ใจในรายละเอียด
การตั้งใจให้งาน perfect ที่สุด

ด้วยงานเป็น technical เหมือนกันหรือคล้ายกันครับ
ที่ท่านแนะนำมา เป็นเรื่องที่ดี ผมเห็นด้วยครับ
ผมเลือกคำถามแรกแบบนี้ เพื่ออยากดูการสื่อสาร mindset กับคนที่ต้องร่วมงานด้วย
skill สำหรับตัวผมคนเดียว ผมว่าผมสอนได้ บอกได้ครับ แต่ขอให้มีของมาบ้าง
ถ้าว่างๆมาเลย ถึง mindsetดี ผมก็แบกไม่ไหวครับ

ก็พยายามหาคนที่มีเชี่ยวเทคหน่อย มีของติดตัวมาบ้าง และสื่อสารได้ดีด้วยระดับนึ่ง ก็ดีใจแล้วครับ

ถ้าท่านมีคำแนะนำเพิ่มเติม ยินดีรับฟังครับ

อันนี้คืออยากรู้บุคลิก นิสัยหรืออะไรงี้หรอครับ

ถ้าอยากรู้ไลฟ์สไตล์แท้จริง ท่านจะไม่รู้หรอก

แบบอ๋อเลิกงานผมกินเหล้าแทบทุกวัน เลิกงานผมเล่นเกมยาวไป เลิกงานผมเปิด ss สาวรัวๆ

ไม่มีใครบอกความจริงให้นะครับ

ถามที่เค้าเขียนมาในเรซูเม่เลยครับ
หาจุดที่เค้าสนใจและเชี่ยวชาญ
ไม่ว่าจะ introvert หนักแค่ไหน ก็จะพูดเรื่องนั้นได้ยาวๆ

มันกว้างไปบางคนตอบไม่ถูกครับ ผมก็เคยสัมภาษณ์คนมาเยอะ อาศัยถามขณะถามเรื่องงานสลับๆกัน ที่จะมีผลต่องานเรา
บางคนก็ไม่อยากให้ถามส่วนตัวมาก
เช่น มาทำงานนี้ต้องมีโดนตามเคสกลางคืน เดินทางมายังไง มีครอบครัวไหม เขามีปัญหาไหม แบบนี้เรื่องส่วนตัวที่อาจมีผลกับงาน

รายละเอียด ประสบการณ์ อยู่ในเรซูเม่ไง อ่านหน่อยดิว่ะ
ให้มาแนะนำอะไรยืดยาว

แค่คิดในใจนะ

พอดีสายงานขี้เกียจพูดเยอะ ให้เทสงานนิด ๆ หน่อย ๆ
ทำได้ก็เอา

พล่ามมากทำไม่ได้ เข็ดละ เสียเวลา

เค้าอาจจะคิดว่า

ไม่ต้องมายุ่งเรื่องส่วนตัว

มาทำงาน ไม่ได้มาหาเพื่อน

ใสด ผมไปไหนก็ได้ ในโลก แค่ผมไม่มีตังค์ เลยหางานทำ

ไม่รู้สิ เรื่องใช้ชีวิตมันก็เรื่องส่วนตัวนะ

ต้องบอกด้วยมั้ยครับถ้าตอนเย็บชอบท่าไหน

ทดสอบไหวพริบดีนะครับ กับคำถามง่ายๆ มองตามบทบาทคนสัมภาษณ์ก้อยากจะถามอะไรก็ได้ แต่คนมาสัมภาษณ์ก็จะเกร็งไว้ก่อน เลยเกิดประหม่า แต่ถ้าคนมีสติ สมาธิดี ก็คงเข้าใจคำถาม และตอบคำถามได้ตรงกับคำถาม เราอ่านเรามีเวลาคิดก็คงตอบได้แหละ

เม้นอื่นๆตอบคำถามท่านไปแล้วงั้นผมแชร์ประสบการณ์

ผมเคยเจอ บ.ที่อยากรุ้ไลฟ์สไตล์ อยากรู้ว่าเคมีจะเข้ากันไหม

เขาก็เลยถามมาตรงๆว่า ไหนเราเป็นใครมาจากไหน ช่วงนี้ชีวิตเป็นไงบ้าง งานอดิเรกชอบทำอะไร

เล่าให้ฟังหน่อย สบายๆนะ ประมาณนี้ครับ

ตอบจากในมุมที่มี ปสก สัมภาษณ์คนเหมือนกัน

คำถามท่านจริงจังไปครับ ถ้าอยากรู้จักตัวตนเค้า ต้อง Ice-breaking ประมาณนึงก่อน แล้วก็เปลี่ยนคำถามเหมือนที่หลายๆท่านแนะนำ

คนเราอยู่ๆไม่เปิดเผยตัวเอง กับคนไม่รู้จักได้ง่ายหรอกครับ โดยเฉพาะการทำงาน

และยิ่งคำถามแบบนี้ กูรูสอนสัมภาษณ์งานตาม social หลายคนก็แนะนำให้พูดถึงในมุมเกี่ยวกับการทำงานมากกว่า เพราะหลายบริษัท ถามคำถามแนวนี้ แต่จริงๆก็สนใจแต่เรื่องงานอยู่ดี

ถ้าท่านเป็นคนนึงที่สนใจในชีวิตด้านอื่นๆเหมือนผม สูตรผมจะเป็นงี้ครับ

ถามคำถามเรื่องงานปกติไปก่อน แต่แน่นอนถ้าเราต้องการ การเป็นกันเอง มู้ดการถามต้องเป็นกันเอง ไหลลื่น
ถามในสิ่งที่ตอบมา ละค่อยๆรู้จักไป ไม่ใช่ script หมด

แล้วพอเริ่มหมดก็ค่อยไปเรื่องอื่น เรื่องทั่วๆไป ตอนนั้นจะถูก Ice-breaking ประมาณนึงแล้ว จะถามได้ง่ายขึ้นครับ

ของผมจากที่เคยสัมภาษณ์คนเข้ามาร่วมทีม

ผมจะถามพวกประสบการณ์ก่อนเสมอ ให้เขาได้พรีเซนตัวเองออกมาได้เต็มที่ บางคนเตรียมตัวมาดีมากๆพูดได้โฟวสุดๆบรรยากาศมันเลยได้ผ่อนคลาย แล้วมันสามารถต่อไปที่เรื่องไลฟ์สไตล์ต่อได้ง่ายมาก

ผมเข้าใจว่าผู้สัมภาษณ์น่าจะเตรียมตัวมาในระดับนึงแล้วแต่อาจจะมีความเกร็งความเครียดอะไรบ้าง การที่เราได้ปล่อยให้เขาพูดในสิ่งที่เตรียมมาผมว่าดีที่สุดให้ได้ปลดปล่อยออกมาเลย

หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องต่างๆให้เราเข้าใจตัวผู้สัมภาษณ์มากขึ้นถ้าเขาเปิดใจคุยมันจะเป็นอะไรที่ดีมากๆ

ผมว่า คนที่ 1 คือเด็กจบใหม่ คนที่สองคือ คนมี ปสก. ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้เลย

คนที่สองเป็นงานกว่า ท่านต้องใช้ทักษะมากกว่าในกรมองนี่นี่ของแทร๊ ของปลอม ประเด็นแค่นี้จริงๆ ผมว่า ท่านอาจต้องฟังเขาพูดไปเรื่อยๆ ก่อนตัดสิน