ขับรถใน กทม.บ่อย ผมเห็น benz นี้ขึ้นรถสไลด์ บ่อยสุดเลยมั้ง

พึ่งรู้เลยว่า ซีรีย์ E แย่สุด

เห็นญาติผมถอยใหม่ ก็ถอยแต่ซีรีย์ E นึกว่ารถดี

ผมก็ว่าจะเช่ามินิมาขับไปเที่ยวริมสระสัก3วัน ถ้าให้ซื้อเสียดายตัง

ถ้าไม่มีปัญหาเครื่องยนต์ยากมากที่จะเรียกร้องอะไรได้ แต่เคยมีเคสวอลโว่s90 ป้ายแดงนํ้าเข้า

อันนี้ศูนย์เปลี่ยนคันใหม่ให้เลย

สงสารเลย นึกถึงคนไม่ได้รวยเหลือ ๆ แล้วเกบเงินซื้อแล้วเจองี้

ของผม BMW บริการดีมาก

รถชน หรือไรนิดหน่อย (อุบัติเหตุตามปกติ) call center โทรเข้ามาเลย

มันเป็นเสียงจากเบาะ + หัวหมอนของรถครับ แทบจะเป็นอาการประจำรุ่นของ w206 Benz ซึ่งผมใช้อยู่เหมือนกัน

อาการนี้แก้ยากอยู่ครับ ผมแก้จบแล้วใช้เวลาหลายเดือนลองผิดลองถูกกับช่าง จากนั้น แชร์วิธีให้เพื่อนๆ ในกลุ่ม Benz w206 บางคนก็หาย บางคนก็ไม่หาย

เข้าใจ จขพ. เลย รถซื้อมาแพง เจอเสียงแบบนี้โคตรเซง

E ที่เค้าแหยงกันคือรหัสด้านหลังนะครับ ไม่ใช่ E Class เพราะ รหัสด้านหลังมันคือบอกว่า Hybrid หรือ Diesel

เคยเห็นตัวดีเซล E220d ล้านเศษ-ล้านต้น ก็น่าจะต้องต่ำกว่านั้นครับ แต่อย่างของผมมันยังมีประกันเหลือ มีอะไรก็เคลมไป ราคาจะไม่วูบมาก(ไปกว่านี้)

ซีรี่ย์ e (ไม่ใช่ E-Class) นี่แม่งตัวทำลายชื่อเสียงตั้งแต่เป็นไฮบริดดีเซล (Bluetech Hybrid) แล้ว

คืองานประกอบก็เรื่องนึง แต่ไอความพังง่ายนี่เพราะยัดเทคโนโลยีใหม่ๆแบบไม่ได้ผ่านการทดสอบมาเนี่ยแหละทำคนแหยงมาเยอะแล้ว คือช่วงนั้นเบนซ์มันบ้าดีเดือดอะไรก็ไม่รู้ จะยัดอะไรอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาก็ยัด อย่างตัวสตาร์เตอร์งี้ อยู่ดีๆอยากเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าเวลาสตาร์ทรถมันจะได้เงียบๆแบบฉึ่งเดียวติด มันก็สรรหาที่ใส่ไปยัดไว้ในหัวเกียร์ เพราะไหนๆรอบมันก็หมุนอยู่แล้วก็ใส่แม่ม ผมเห็น Press Release ครั้งแรกผมยังเกาหัวเลย ไม่คิดว่าวันนึงมันจะพังเลยหรอวะ

หลังๆผมเห็นพวกนางแบบเฟสบุ้คออกเบนซ์แต่ละทีก็ออกไอ C ตัว e นี่ สักพักประกาศขายกัน ตอนแรกนึกว่าเบื่อหน้าตารถ สรุปเบื่อเอารถไปศูนย์

ปล. แต่เคสนี้ผมว่าพี่ดอมเคลียร์ได้มั้ง? ผมว่าไม่ใช่น็อตหลวมแต่น่าจะเป็นชิ้นส่วนอะไรมันไม่เข้าที่มากกว่า ไม่แน่ใจรุ่นนี้ประกอบในหรือนอก หลังๆเบนซ์ประกอบนอกพอไม่ใช่ที่เยอรมันละผมว่างานประกอบมันแย่ลง ,บางทีประกอบในยังแน่นกว่าเลยมั้ง

ผมตกผลึกกับเรื่องรถแล้ว

Toyota อย่างเดียวครับ รถสามัญประจำบ้าน

หลายคนยังเข้าใจผิดเรื่องปัญหาของเบนซ์หรือรถยุโรป

เบนซ์ E-Class คือตัวที่มีปัญหาบ่อยที่สุด เพราะเทคส่วนใหญ่เริ่มต้นมาลงที่รุ่นนี้ก่อน ฉะนั้นจะพบปัญหาได้บ่อยกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ทำให้ชื่อเสียจริงๆคือ E350(e) หรือ hybrid generation แรกของเบนซ์ ที่มีปัญหามากจนคนหนีและทำให้รถมือสองราคาตกโคตรๆ C350(e) ก็เป็นหนึ่งในนั้น

จนตอนหลังเบนซ์เองก็พัฒนามาเป็น Gen 2 ที่เป็นพวก C/E300e อันนี้ก็ลดปัญหาไปได้เยอะแล้วครับ มีบ้างแต่น้อยกว่าเจนแรกเยอะมากๆ

และปัจจุบันคือ gen 3... ที่จูนใหม่มาให้รถแรงขึ้นอีกที ก็กลับไปใช้รหัส C/E350(e) เหมือนเดิม แต่ไม่ใช่ gen เดิมแล้ว ตัวนี้ยังต้องดูกันยาวๆ เพราะเพิ่งทำได้ประมาณ 2 ปียังไม่ค่อยเจอปัญหาครับ

ส่วน BM เค้าก็มีปัญหาของเค้า Audi ก็ระบบหล่อเย็นงงๆ ส่วน Volvo นี่ถ้าเป็นยุคเก่าๆที่เป็น Drive-E นี่เกียร์มีปัญหาตลอดแทบทุกคัน แต่แค่คนใช้มันน้อย เสียงเลยไม่ค่อยดัง

รถยุโรปดูแลรักษาไม่แพงนะ ถ้ารู้จักดูแลตามระยะ ซื้อ MBSP, BSI, VPSP เผื่อไว้ ยังไงก็ไม่เจ็บ คันก่อนหน้าที่ผมใช้ X1 ประมาณแสนโล ผมเสียแค่ค่าเปลี่ยนยางรถ/ปัดน้ำฝนแค่นั้น เข้า 0 ไม่เคยเสียเงินเลยครับ ส่วนอีกยี่ห้อที่เหลือ เข้า 0 ทีนึงก็ 6000 - 8000 บาทตามระยะ ผมว่าก็เหมาะสมกับราคารถคันละสอง-สามล้านนะ

เคยเจอเอาไปซ่อมแอร์ กลับมาแอร์เย็น แต่หน้าปัดไม่ทำงาน วิทยุไม่ทำงาน พวงมาลัยปรับไม่ได้ แถมคอนโซลมีเสียงดัง.

เอากลับไปอีกทีบอกลืมเสียบสาย + ไขน๊อตไม่แน่น.


ดีตรูไม่ได้ซ่อมเบรค.

ปกติ สคบ. ก็เป็นที่เกรงใจของร้านค้าป่าวครับ หรือเฉพาะไอ้ของเล็กน้อยๆ ใหญ่ๆ แบบเบนซ์ก็ไม่ไปยุ่งกับเค้า

เข้าใจกันผิดน่ะ e class ไม่ได้มีปัญหา แต่ตัวต่อท้าย e ที่เป็นไฮบริดนี่แหละ โดนทุกรุ่น