ตามหัวมู้เลยครับ

ส่วนผลิตภัณฑ์ APPLE และสินค้าไฮเทคต่างๆเขาก็ขายแพงตามเดิมเขาไม่ลดราคาเพราะ 0% หรอก จะขายเท่าเดิม แต่ต้นทุนถูกลง "กำไรมากกว่าเดิมอีก เพราะไม่ต้องเสียภาษี" เดาเอามั่วล้วนๆ

ถ้า อเมริกา 0% แล้วเขาจะมีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาตั้งโรงงาน
นอกUSAอีกล่ะครับ
ในเมื่อมีภาษีนำเข้า20% มันก็จะทำให้ฐานการผลิตโดนย้ายกลับไป
ผลกระทบ คนจะตกงานมากขึ้น

อันนี้แหละครับที่ถ้าเป็นห่วง
ถ้าเราไปยอม0% หมดทุกอย่าง

เมกา0ก้อจิง แต่ค่าขนส่งมันก้อยังพอมีเยอะอยุ่
แต่จีนมันใกล้ไง 0 นี้แทบจะ 0 จิงๆ

แปลก ทำไมพูดเรื่องนำเข้าเมกาคนมุ่งแต่ไอโฟนแต่แอปเปิ้ล
พวกนี้มันผลิตจีนนานแล้ว ละเรื่องราคามันก็ One Price Policy จากทางฝั่งเมกามาหลายปีแล้วมั้ง บวกไป 15-25% ค่าชิปปิ้งกับ VAT แล้วแต่รุ่นไป ฉะนั้นแล้วไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องภาษีทรัมป์

ที่ผลิตในเมกาจริงๆมันก็มีเยอะแยะ ของกินอาหารแปรรูปงี้ พวกอุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับสูงหน่อยก็ Made In USA ก็คืออะไรที่แม่งผลิตในจีนไม่ได้มันก็ผลิตในเมกา (ไม่ว่าจะด้วยเรื่องสิทธิบัตรหรือเรื่องความปราณีตที่บางอย่างเมกามันก็เหนือกว่าอยู่)

แต่ผมว่าท่านไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเป็นชาวบ้านเราๆนี่โอกาสสินค้าเมกามากระทบอะน้อย ผมยังนึกไม่ออกว่าเราจะนำเข้าอะไรช่วยเขาได้นอกจากสั่งเนื้อวัวเข้ามากินเพิ่ม

ส่วนจีนผมว่าไม่ต้องพูดอะไรเยอะละมั้ง



ถ้าบอกว่า 0% แล้วทำไมต้องมาตั้งโรงงานนอกเมกา ค่าแรงและแหล่งวัตถุดิบไงครับ
ไม่งั้นป่านี้เมกาแม่งตั้งโรงงานแอปเปิ้ลเสร็จไปนานในประเทศละ ทำไมต้องง้อจีน?

ขี้หมูขี้หมาก็มีค่าชิปปิ้งละที่ต้องโดนก้อนนึงต่อให้ใช้แรงงานนักโทษแบบจ่ายเงินค่าแรงต่ำสุดเลยนะ

สินค้า apple มันไม่ได้ผลิตอเมริกาไง
จริงๆที่อาเซียนพลาดคือจีนมากกว่า คิดว่าแม่งประชากรพันล้าน เอา0%ไปแลกจะได้ขายของได้จีนได้เยอะๆ ที่ไหนได้ จีนแม่งไม่เคยคิดจะซื้อของใครอยู่แล้ว

ส่วนเมกาถ้าเราไม่ยอม0%เข้าแลก สุดท้ายถ้าโดน 36% บริษัทที่ลูกค้าอยู่ในเมกาก็อาจจะย้ายฐานได้เหมือนกัน
ขยับด้านไหนมันก็กระทบแหละ มันก็ต้องชั่งน้ำหนักดูว่าขยับแบบไหนเจ็บตัวน้อยสุด

ต่อให้ไม่ได้อ่านคอมเม้นบนๆ ผมว่าจีน 0% นี้น่ากังวลกว่าเยอะ และเป็นมานานจนมันเข้ามาฝังในตลาดบ้านเราเยอะมาก

จีนเป็นพวกทำธุรกิจแบบไม่สนใจสภาพแวดล้อม คนรับผลกระทบคือคนท้องถิ่นโดยตรง

หรือเราต้องเปลี่ยนจากประเทศแรงงานทั่วไปก้าวเข้าสู่ประเทศแรงงานคุณภาพนำเข้าวัตถุดิบราคาถูกจากภาษี0%แล้วส่งออกสินค้าด้านวัตกรรมราคาแพง ก่อนจะทำแบบนี้ได้เราต้องเริ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีทักษะรองรับ

สินค้าส่งออกที่มาจาก อเมริกา เอาเข้าจริงถ้า 0% เผลอๆดีกับเราด้วยซ้ำ

เพราะโรงงานในอเมริกาไม่ผลิตสินค้าระดับล่างแน่นอนเพราะค่าแรงงานเค้าแพง เค้าแข่งกับ อินเดีย จีน โซนเราไม่ได้อยู่แล้ว

สินค้าพวกเทคโนโลยีสูงๆ ที่เค้าผลิตและส่งออก เราก็ผลิตไม่ได้อยู่แล้วเพราะความสามารถแรงงานไม่พอ

พวกเครื่องจักรเกรดดีๆ เครื่องจักรไฟฟ้าเกรดดีๆ น้ำมัน ยา ชิปเซท อะไรแนวๆนี้ที่ส่งออกจาก อเมริกา

อนาคต จีน 0% อาจจะเป็นประโยชน์ ฝั่งอาเซียน

เพราะตอนนี้ จีน เริ่มรู้ตัวแล้วว่า นโยบาย กดราคาต้นทุน บิดเบือนกลไกราคา
มันไม่เป็นผลดีกับตัวเอง

ยิ่งกดราคาสินค้า กดต้นทุน ผลกระทบคืน คนรายได้น้อยกว่าที่ควรจะได้
เศรษฐกิจฟุบระยะยาว

ไม่ไปศึกษาว่าทำไม อเมริา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี
ทุกคนล้วนออกมาตั้งโรงงานนอกประเทศในประเทศที่ต้นทุนต่ำ
แล้วดันค่าแรง ค่าเงิน เศรษฐกิจ ให้ สูงขึ้น ทั้งนั้น

สุดท้ายไม่อาจฝืน ถึงได้มีนโยบาย เพิ่มรายได้คนจีน
คนจีนจะรวยขึ้น กดเอาไว้ไม่ได้แล้ว
คนที่ไหนก็อยากรวย มีเงิน อยากสบาย ทั้งนั้น
จะไปกดเอาไว้ ให้ค่าแรงต่ำ ใครมันจะไปทน

อนาคต จีนมีโอกาสจะเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้าคนจีนรุ่นใหม่เลิก อดออม

ส่วน จีนกับ อเมริกา อยู่ที่จีนจะยอมเปิดประเทศ เมื่อไหร่ ถ้าเปิดให้เสรีเมื่อไหร่ ก็จบ

จริงๆมีอีกหลายอย่างที่น่ากลัว ไม่ใช่แค่จีนกับอเมริกา ถ้าลองสังเกตุดีๆเช่นพวกเนื้อวัว นมต่างๆที่นำเข้ามากทั้งคุณภาพและราคา ดีกว่าที่ผลิตเองในบ้านเราอีกเดียวนี้

ดีล 0% ควรจะมีการร้องขอให้ตั้งโรงงานในไทยบ้าง และนโยบายไทยควรเอื้อใฟห้มีแรงจูงใจ
ให้เค้ามาตั้ง

จริงๆ มันเดาไม่ได้หรอกว่าปัญหามันจะเกิดแบบไหน
เพราะว่าการเทรดของสินค้ามันผูกพันธ์หลายตลบ
คือทั้งจีน และ เมกา เขาไม่ได้อยากให้เราลำบาก
หรือจนลง เขาแค่อยากได้ดุลมากขึ้น เพราะงั้น
ถึง 0% จริง แต่อยู่กันคนละบริบท จีนอยู่ฝั่งขาย
เมกาอยู่ฝั่งซื้อ

เราซื้อของจีนก็เพื่อเป็นต้นทุนของเรา อันนี้รวมพวกของ
เล็กๆน้อยกระจุกจิก ด้วยนะ เพราะซื้อมาส่วนใหญ่
เพื่อประหยัดนั่นแหละ พอมีเงินก็ไปล่อของเมกา ยุโรป
เพราะงั้นถึงเราซื้อของเมกาเยอะขึ้น ของจีนมันก็จะ
ถูกซื้อขึ้นเยอะตามไปอีก เพราะเงินมันกระเป๋าเดียวกัน
เพียงแต่ว่าสินค้าที่ซื้อเป็นคนละอย่างกัน

ส่วนผู้ผลิตในประเทศจะกระทบแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าละ

คน้ข้าใจผิดเยอะมาก
ของอเมริกาที่ทุกคนรู้จักกันปัจจุบันในไทยมันมาจากจีนแทบจะทั้งหมดแล้ว

ของที่คนไทยยังไม่เคยได้ใช้ต่างหากที่จะถูก import เข้ามา

จริงๆ มองว่าอเมริกา 0% ดีกับเรามากๆ นะ ที่ห่วงตอนนี้จริงๆ มีแค่เนื้อหมู แต่ถ้าเรายังคงกฎหมายเรื่องสารเร่งเนื้อแดงได้ หมูที่นำเข้าก็ต้องไม่มีสารเร่งเนื้อแดงด้วย (เรื่องตอนเป็นอีกเรื่อง กฎหมายไม่ได้บังคับแต่เราทำเองเพราะผู้บริโภคชอบ)

ส่วนที่ผมว่าดีสำหรับการนำเข้าคือพวกถั่วเหลือง ข้าวโพดอะไรพวกนี้ ถ้าได้ราคาถูกเอามาทำอาหารเลี้ยงสัตว์ในประเทศได้ การปลูกจากเพื่อนบ้านก็จะลดลงมาก ผลพลอยได้คือปัญหา PM2.5 จะน้อยลงมาก แถมลดปัญหาเรื่องภูมิรัฐศาสตร์กับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

อีกอย่างที่จะได้ถูกลงคือพวกเครื่องจักรระดับสูง จากที่ผมใช้พวกเครื่องจักรระดับสูงอยู่แล้ว ราคาเครื่องอเมริกากับจีนที่ขายในประเทษตัวเองไม่ต่างกันมากเลย (แพงกว่าประมาณ 10-20%) เท่านั้น แต่พอเอาเข้ามาในไทยของอเมริกาสู้ไม่ได้เพราะเรื่องภาษีและค่าขนส่ง ถ้าเราลดภาษีลงหมดแล้วเหลือค่าขนส่งที่แพงกว่าจีนนิดหน่อย คิดว่าเครื่องอเมริกาสู้ได้สบาย แถมของอเมริกาถ้าตีตลาดในไทย เค้าจะมีศูนย์แบบเป็นทางการในไทยด้วย ไม่ต้องผ่านตัวแทน ทำให้อะไหล่ถูกกว่า การบริการเร็วกว่า (ไม่ต้องแชร์หลายแบรนด์)

ตลาดจีนเราเจาะได้นะ ช่องเบ้อเร้อ ง่ายด้วยทุกอย่างพอเป็นใจอยู่ ตลาดใหญ่มาก เหลือแค่ใช้กำลังกับสมองที่ว่าคนจีนต้องการอะไรอะไรที่จีนไม่มีไทยมี เพลง หนัง ละคร บลาๆ

เรามองว่าเราไม่มีความสามารถในการแข่งขันกับจีน เก็บเสื่อเลย มันก็ไม่ใช่ไหม มองให้มันเป็นโอกาส รัฐสนับสนุน