อาจจะด้วยความเป็นฝ่ายตรงกันข้าม และนโยบายต่างกันสุดขั้ว

แต่เมื่อถึงตอนนั้นอีก4ปีกลายเป็นทรัมปฺ์ทำระบบดีมากทำให้อเมริการวยกว่าเดิมอีก

คิดว่าฝั่งเดโมแครตจะสานต่อกำแพงภาษี
หรือ เปลี่ยนเป็นแบบเดิม

สานต่อแน่นอน

ถ้ามันเป็นประโยชน์ต่ออเมริกาจะรื้อทำไมละครับ นอกจากเสียว่าอเมริกายอมง้อเนื่องด้วยผลประโยชน์อื่นในอนาคต

สานต่อ แต่ส่งเงินองกรณ์ต่างๆเหมือนเดิม

ขึ้นอยู่กับว่า Dem สายไหนจะขึ้นมามีอำนาจครับ

ถ้าพวก establishment Dem ยังยึดครองพรรคอยู่แบบทุกวันนี้ และส่งตัวแทนพวกสาย Third Way / Abundance แบบ Gavin Newsom, Pete Buttigieg, Andy Beshear หรือ Cory Booker ลงเลือกตั้งแล้วชนะ

ก็มีแนวโน้มว่าจะประเมินผลกระทบจาก tariffs เป็นรายกรณีไป ถ้ามันยังช่วยอุตสาหกรรมในประเทศได้อยู่บ้าง หรือใช้เป็น leverage เจรจาการค้าได้ ก็อาจคงบางส่วนไว้ แต่ถ้าแรงกดดันจากประชาชนเยอะ เศรษฐกิจในประเทศไม่ไหวแล้ว ก็น่าจะยกเลิก

อย่าลืมว่า Dem สายนี้ก็ เอียงโปรทุน อวยคมชนชั้นอภิมหาเศรษฐกิจ donor class ไม่ต่างจาก GOP แค่ไม่ได้แสดงตัวออกหน้าสู้เหมือน GOP เฉยๆ

แต่ถ้าเกิด พวกสาย progressive / left-populist ล้มสาย establishment ได้สำเร็จ(ซึ่งจากกระแสทุกวันนี้น่าจะมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุก็จากความห่วยแตกของผู้นำ dem เอง) แล้วชนะเลือกตั้งได้ แบบ AOC, Greg Casar หรือคลื่นลูกใหม่ที่ยังไม่โผล่(นึกถึงตัวละครลับแบบ Obama ที่จู่ๆพุ่งขึ้นมาแบบทุกคนไม่ทันตั้งตัว) ก็จะมีแนวโน้มที่ชัดกว่า คือ ถ้า tariffs ไม่ได้สร้างประโยชน์ที่จับต้องได้จริงกับชีวิตคนเดินดินกินข้าวแกง ชนชั้นแรงงาน ยังไงสายนี้ก็พร้อมยกเลิกแล้วหาทางอื่นแทน เช่นการลงทุนใน public goods หรือการควบคุมทุนข้ามชาติแบบตรงๆ มากกว่าหมกเม็ดในกำแพงภาษี