ใครเซียนเรื่องแท็คติคช่วยอธิบายหน่อยครับ


คือ PSG เพรสซิ่งไม่เต็มสูบ หรือไม่ปกติ หรือยังไงครับ


เพราะผมรู้สึกว่าเชลซีไม่โดนกดดันเรื่องเพรสซิ่งเท่าเวลาเจอแมนซิตี้ หรือเจอลิเวอร์พูลยุคคล็อปเลย


รู้สึกนักเตะเชลซีมีเวลาคิด เวลาอ่าน เยอะกว่าที่ผมคิดไว้พอสมควร


ก็จริงที่เชลซีเน้นเล่นบอลยาวข้ามไปเลย แต่จังหวะที่ต้องต่อบอลหน้าโกลหรือกลางสนาม มันก็ไม่ได้ดูกดดันขนาดนั้น

เชลซีก็เพรสใส่แบบดุดันมีวินัย กองกลางสามคน รีสเจมส์ นี่คือทีเด็ดเลย ส่วนไคเซโด้ เอ็น โซ่ ไล่บอลกันอย่างโหด

เหมือนวันนั้น เนเวส หัวเสียไปเลยกับ ฟาเปียหลุย หายเลย

แถมโกลซานเซส ดันแม่นอีก สาดยาว จบคม เหนียวอีีก

เกมนั้นเป็นเชลซีครับที่เพรสใส่PSG ง่ายๆเลยคือเชลซีใช้แผนPSGเพรสตั้งแต่หน้าประตูเลย แล้วตอนเชลซีได้บอลPSGเพรสใส่เชลซี เชลซีจะส่งคืนให้ชานเชสเตะขึ้นหน้าแล้วมันเป็นวันที่ชานเชสเตะขึ้นหน้าแล้วแม่นชิบหายจนแฟนเชลซีตกใจ มันเลยทำให้PSGเพรสไม่สุดครับ

ดูช่องโบ๊ทมีอธิบายนะ เท่าที่ดูคือเชลซีโอเวอรโหลดขึ้นไปบีบแดนบนเลย ดันไปเยอะมาก ทำให้ PSG ตั้งเกมไม่ได้ใช้ Man Mark เลยอะตัวต่อตัว บีบทำให้ PSG จำเป็นต้องโยนยาว เสียบอล ตั้งเกมไม่ได้ พอ PSG บีบ ก็เอาเอากุสโต้ลอยสูงไปบีบฝั่งขวาทำให้ เมนเดสเจอรุม พาลเมอร+กุสโต้ ภาพเลยอย่างที่เห็น

คงงงแหละ เจอแบ๊คขวา2คนพร้อมกัน

โดนพี่โล้น ดันกุสโต้ สวน เสียทรงบอล

PSG โดนเชลซีเพรสใส่ครับ แล้วเล่น ทรานซิชั่นเร็ว เจาะทางนูโน่

เชลซีวางหมากมาดี ใช้กลางที่ Physical ดีกว่า แล้วโจมตีช่องว่าง

PSG ไม่มาร์คพามเมอร์เลย ไม่มีทีมไหนในลีคปล่อยน้องหนาวแบบนั้นหรอก

ของ ปีเตอร์โบ๊ท



คหสต
1. PSG เพรสซิ่งไม่เต็มสูบ หรือไม่ปกติ หรือยังไงครับ
A: ไม่แน่ใจเรื่องเวลา ช่วง20-25นาทีแรก chl เป็นฝ่ายเพรสซิ่ง ชิงเพรสก่อนpsg จะทำ จะเห็นได้ว่าโอกาสจบสกอร์เชลซีมาก่อนมากๆ จนผ่อนลง แล้วpsg ได้ตั้งเกมเล่นเอง

พอเสียประตูเร็ว แผนพวกนี้มันไม่สามารถเล่นได้ตามเดิม เพราะเล่นตามเดิมก็จะยิ่งเข้าทางอีกฝั่ง
การเพรสสูงเพรสเร็ว ในอากาศร้อนมากๆ ยิ่งหมดแรงเร็วยิ่งไม่ดีต่อการเล่น90นาที แม้จะมีcoolingbreak
การเพรสสูง กลายเป็นเป้าให้เชลซีรอเจาะวางdirect ยิ่งนัดนี้จะเห็นได้ว่าเน้นวางไปพื้นที่ LB mendes โดนเจาะรัวๆ

2.เชลซีไม่โดนกดดันเรื่องเพรสซิ่งเท่าเวลาเจอแมนซิตี้ หรือเจอลิเวอร์พูลยุคคล็อปเลย
A: อากาศร้อน เลยไม่โดนเพรสหนักแบบที่เจอในลีค , ในลีคโดนเพรส กลางแพ้เต็มๆ ยิ่งเจอยุคสลอท แพ้ชัดเจน
กลับกัน ตอนนี้เชลซีเปลี่ยนแนวทางการเล่น direct เยอะกว่าตอนเล่นในลีค เคาะเพื่อแกะเพรส
นัดเจอ psg เพรสแล้วดันเจอเคาะสั้น1-2ครั้งหรือวางยาวไปตัวว่าง เช่น พามเมอร์ กุสโตรอไปบุกสวน


3.จังหวะที่ต้องต่อบอลหน้าโกลหรือกลางสนาม มันก็ไม่ได้ดูกดดันขนาดนั้น
A: เพราะนำเร็ว นำ2ลูก แล้วลูกที่เสีย ก็เป็นการโดนdirect ไม่กี่จังหวะจากโกล์ได้บุก ไม่เหมือนในลีค กว่าจะพาบอลเลยกลางสนาม เคาะ หรือใช้เวลานานมาก psg การเพรสเลยไม่ค่อยได้ประโ่ยชน์ ยกเว้นตอนท้ายที่สกัดซานเชสได้แต่ก็แค่1ครั้ง ที่เหลือ pass complete ได้เยอะกว่า เลยกลายเป็น การ counter แผนเต็มๆ ของการเพรสครึ่งสนามฝั่งเกมรุก

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ ถ้าในลีค เชลซีจะเปิดบอล2แบบที่เห็นได้บอล
1. จ่ายไปกองหลัง กองหลังถ้าว่างก็ค่อยๆ เลี้ยงแล้วขาตาย ยืนนิ่งค่อยส่งเคาะบอลไปมา หรือจ่ายให้ตัวกลางรับset gameบุก
2.จ่ายบอกจากโกล์สั้นๆ ไปหาcb เคาะออกข้างแบ็ค1ฝั่ง แล้วก็ไปโดนรุมเพรส ต้องรีบเตะโยนยาวกลายเป็นเสียการครองบอลโดนบุกใหม่ หรือโชคร้าย เสียบอลจากเพรสสูง เพราะเป็นมุมอับ เพื่อนๆ ไปยืนสูงรอตามตำแหน่งรับบอล

ก็เพรสเหมือน PSG แหละก็อปปี้เพรสเลย แต่เกมรับอะ บางจังหวะยืนห้าคนเลย

เนโต้--คูคู--โควิล--ชบา--กุสโต้

แล้วพวกแบคที่เติมมาช่วยจะโดนปีกปะกบเลย ฮาคิมี่เติมมาก็โดนเนโต้ประกบ แล้ว PSG จะโดนเข้า 1-2 ตลอดไม่ปล่อยให้มี ดวล 1-1 เลย แล้วแต่ละคนรับผิดชอบหน้าที่ตำแหน่งตัวเองกันดีมาก ต่อให้ PSG สลับตำแหน่งก็ไม่โดนหลอก เพราะเซ็ทตำแหน่งกันมาดีแล้ว

ทีนี้พอได้บอลเชลซีไม่สู้เกมแดนกลางเลย ไม่ค่อยเคาะบอลแดนกลางลำเลียงขึ้นมาก็สาดยาวมาตรงแบคของ PSG แหละ ทีนี้พอ PSG ดันแบคมาสูงมันก็โล่งเลย แล้วปีก PSG ไม่ลงมาช่วยด้วยงานหยาบเลย

เวิคเรต เยอะมากนักเตะเชลซีวิ่งตลอด เนโต้นี้ มีหลุดแค่ช็อต ดูเอ้ตัดสินใจพลาด แล้วโดนคูคูสะกัด

psg ชะล่าใจไปหน่อยคิดว่าจะเจองานไม่ยาก สรุปโดนเพลสโดนบี้ตรงกลางไปไม่เป็น โดนสวนเอ๋อรับประทาน
เชลซีวางแผนมาดีมาก

ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะฟิสิกัล
ของนักเตะเชลซี และแทคติกม๊ากตัว
ของโค้ช

เจอก๊อปปี้นินจาอย่างเอนโซ่ คาคาชิเข้าไปครับ


ปารีส ออริจินอล


เชลซีเอาหนามบ่งหนาม

เพรสแล้วแต่ไม่สุดเพราะเหมือนงงว่าจะไล่เพรสยังไง
3 ลูกที่ได้ ปล่อยพาลเมอร์ว่างเกินไป ลูก 2-3 นี่ชัดเจนว่าไม่มีใครมาหยุดเลย