ผมเองครับ คนดีคนเดิม 55555 จากกระทู้ออม BTC : https://www.soccersuck.com/boards/topic/2586827

คือจริง ๆ แล้วปัจจุบันผมทำงานค่อนข้างเยอะ แล้วไม่ค่อยมีเวลามาศึกษาอะไรมากมายเลยครับ ที่ผ่านมาผมเลยเลือกใช้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน และเค้าก็แนะนำให้ผมไปลงหุ้นเองนะ (แต่บ.เค้ารับแค่กองทุนรวม) ซึ่งผมก็ปฏิเสธไป บอกขอกองทุนรวมพอ เพราะผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย

เงินที่ผมลงกับเค้าเดือนละ 50,000+++ ครับ (ปัจจุบันใช้ใน Phillips Capital)

ทีนี้ผมจะตัดแบ่งออกมาลงพวกหุ้น และ BTC มากขึ้น ทีนี้มันเป็น Challenge ของผมเลยครับ เพราะผมไม่เคยทำอะไรพวกนี้มาก่อนเลย แต่ยังไงต้องทำแล้ว ผมเล็งไว้จะ DCA หุ้นนอกทุกเดือน เดือนละ 10,000++ ครับ

แต่จะเอาหุ้นตัว big & mass เลยครับ เช่น Berkshire, Google, Microsoft, Tesla, NVIDIA, (หุ้นจีน หุ้นเวียดนาม เดี๋ยวอาจจะมาตามมาใน phase 2, phase แรกผมขอ focus พวกนี้ก่อน)

ดังนั้น Requirement ของผมคือ
- DCA หุ้นนอก (Mostly USA) เดือนละ 10,000++
- โบรกมีความน่าเชื่อถือ ไม่ล้มหายตายจากเพราะมันคือเงินเกษียณผม
- ค่าธรรมเนียมสมเหตุสมผล
- ใช้งานไม่ยาก มีระบบ DCA ให้ทุกเดือน


ขอคำชี้แนะ/คำอธิบายหน่อยครับ สำหรับมือใหม่ที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า:

1) Exchange/Broker ไหนที่พี่ ๆ แนะนำ เพราะอะไรหรอครับ ?

2) Exchange/Broker ไหนคุ้มที่สุดในการซื้อขายหรอครับ ?

3) มีอะไรที่ผมต้องทราบก่อนเลือกใช้ broker ไหมครับ

4) ผมสามารถซื้อแบบเศษหุ้นได้หรือเปล่าครับ ? เพราะสมมุติหุ้น Berkshire ราคา 15,000 THB แต่ผมจะ DCA แค่เดือนละ 12,000 THB อย่างนี้ ผมซื้อได้ไหม หรือต้องรอครับ

ป.ล. ผมเข้าใจว่าเงื่อนไขของแต่ละ Broke ก็ค่อนข้างต่างกัน คิดจาก % ไม้บ้าง คิดจาก จำนวนหุ้นบ้าง คิดราคาเหมาบ้าง ระหว่างนี้ผมก็ศึกษาเองเอาให้หนักเลยภายใน 1-2 วันนี้ต้องจบครับ เพราะหลังจากนี้จะไม่มีเวลาละ จะเติมเงินอย่างเดียว

ขออภัยมา ณ ล่วงหน้านะครับที่คำถามอาจจะดูแบบมั่ว ๆ ซั่ว ๆ มือใหม่จริง ๆ ครับผม

EDIT: อัพเดทล่าสุด ผมเจอ SBITO ค่าธรรมเนียมถูกมาก 0.075% เองครับ อันนี้เพื่อน ๆ ว่ายังไงกันบ้างครับเนี่ย

รอด้วยคนครับ เปลี่ยนแนวจากเทรดสั้น มา dca น่าจะโอเคกว่า...มั๊ง

ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องลงหุ้นตรงๆเลย ลองมองพวก DR ครับ ตัวดังๆที่ท่านว่ามามีหมด

ซื้อผ่านแอพ Streaming ได้เลย

ไม่โดนภาษี Cap Gain ด้วย

ถ้าตามโจทย์

1) Exchange/Broker ไหนที่พี่ ๆ แนะนำ เพราะอะไรหรอครับ ?
2) Exchange/Broker ไหนคุ้มที่สุดในการซื้อขายหรอครับ ?
Webull/Liberator เพราะไม่มีขั้นต่ำ
Inno น่าจะโดนค่าธรรมเนียมเยอะสุดในนี้
Dime เหมาะกับซื้อ ETF ตัวเดียวต่อเดือน ไม่ใช่หุ้นหลายๆหุ้น จะโดนค่าธรรมเนียมเยอะหน่อย

3) มีอะไรที่ผมต้องทราบก่อนเลือกใช้ broker ไหมครับ
Webull เป็น PLC ของอเมริกา ระบบดีมากสุดในนี้
Liberator อันนี้ไม่ทราบเลย แต่คิดว่าเป็น บล ไทยแท้
Inno บ.ลูก SCB ที่เป็น PLC ของไทย ระบบดี แต่ค่าธรรมเนียมแพง บล ไทยแท้
Dime บ.ลูก KKP ที่เป็น PLC ของไทย ระบบดี แต่ค่าธรรมเนียมถูกกว่า Inno บล ไทยแท้

4) ผมสามารถซื้อแบบเศษหุ้นได้หรือเปล่าครับ ?
ซื้อได้ทุกอันในนี้

1) Exchange/Broker ไหนที่พี่ ๆ แนะนำ เพราะอะไรหรอครับ ?
=> ใช้ dime /bitkub
dime ตามโจทย์เทรดหลายอย่าง(ตามข้อล่างๆ เช่น เงินบาทได้ ,เศษหุ้นได้ ,แบงค์ไทย ข่าวสารส่งผล รู้เรื่องง่ายกว่าตปท.)
ิbitkub ก่อนนี้ใช้ ไบแนนท์>okx พอไม่ให้ p2p บาทแล้ว ต้องกลับมาโบรคไทยแทน แต่ใครเฉยๆกับค่าfee,gas หรือมี hardware wallet ก็เลือกใช้โบรคตาม uiที่ชอบได้เลย

2) Exchange/Broker ไหนคุ้มที่สุดในการซื้อขายหรอครับ ?
=> listมาจาก uiที่ชอบก่อน และค่อยไปไล่ดูก็ได้ มันหาได้ไม่อยาก แต่ละโบรคมีคนเปรียบเทียบกันอยู่ ไม่ก็เอาชื่อโบรคไปถาม chatgpt, gemimi
ถามผมก็ใช้ เจ้าบน(dime,bitkub)

3) มีอะไรที่ผมต้องทราบก่อนเลือกใช้ broker ไหมครับ
=> ถ้าเน้นความน่าเชื่อถือ ก็เลือกโบรคที่มีชื่อในตลาดหลักฐานก็ไปไล่ดู เพราะสามารถไปดู cashflow ย้อนหลังได้ /ค่าfee, ธรรมเนียมต่อการซื้อ,บลาๆ หาชื่อโบรคไปเทียบถามดู(chatgpt,gemini)


4) เจ้าอื่นเหมือนจะมีขั้นต่ำ(innovest x) ไม่แน่ใจ แต่ dime ได้ทั้งหุ้น ไทย /ตปท.

ปล.ไม่ใช้แอดมินเจ้าไหน แค่นักลงทุน ไก่กา ปลากระป๋อง แลกเปลี่ยนกันได้

แนะนำ 1 ครับ แพงหน่อยแต่สบายใจ

มาถูกทางแล้วครับ ออมหุ้น ดีกว่าออมเงิน

ขอต้อนรับสุ่โลกแห่งการเทรดครับ

แผนการลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 4 ตัว:

MSFT (Microsoft) – 30%

NVDA (NVIDIA) – 25%

ADBE (Adobe) – 20%

AAPL (Apple) – 25%

กลยุทธ์หลังซื้อ (Post-Purchase):

กำหนด Time Horizon:
• ระยะยาว 3–5 ปี (Core Holdings)
• NVDA อาจมีสัดส่วนน้อยกว่าแต่เติบโตเร็ว (Tactical Holding)

ติดตามตัวชี้วัดหลัก:
• Revenue Growth, ROIC, FCF, Margin ทุกไตรมาส
• Valuation Metrics (P/E, EV/Sales, PEG) เพื่อประเมิน Overvaluation

Rebalance พอร์ต:
• ทบทวนทุกไตรมาส (Quarterly) / 6 เดือน (Semi‐Annual)
• ขายบางส่วนเมื่อสัดส่วนเกินเกณฑ์ (> +5%) เพื่อนำไปเสริมในหุ้นที่ต่ำกว่าเป้า (< –5%)

Tactical Guidelines สำหรับแต่ละบริษัท:
• MSFT: ซื้อและถือยาว (30%) + DCA เมื่อมี Dip
• NVDA: Swing Trade / Partial Profit Taking เมื่อขึ้นแรง
• ADBE: Hold & Add on Dips (Subscription Business)
• AAPL: Hold Long-Term + Dividend Reinvest + Buy the Run-up ก่อน Launch

Risk Management:

ตั้ง Alert / Stop‐Loss / Cut Loss ที่ระดับ –15% จาก Cost Basis (เฉพาะ NVDA อาจมียอด Cut Loss แตกต่างเล็กน้อยตาม Volatility สูง)

จำกัดสัดส่วนแต่ละหุ้นไม่เกิน 30% ของพอร์ต

กันเงินสดสำรอง 5–10% ของพอร์ต เพื่อใช้ซื้อในจังหวะตลาด Correction

ด้วยแผนการจัดพอร์ตและกลยุทธ์หลังซื้อข้างต้น จะช่วยให้คุณได้ “กระจายความเสี่ยง” ในกลุ่มเทคโนโลยีระดับแนวหน้า (Mega‐Caps & Disruptors) พร้อมทั้งวางกรอบระยะยาว 3–5 ปี ในขณะเดียวกันก็ยังมี “Tactical Play” เพื่อรับมือช่วงตลาดผันผวนหรือโอกาสซื้อในราคาถดถอยได้อย่างเหมาะสมครับ

อ่านดูแล้วสำหรับ จขกท นะครับ

1.เลือกธนาคาร
2.เข้าแอพ
3.กดซื้อกองทุนรวม index fund s&p500 nasdaq100
4.นอนหลับสบายครับ

ไม่ต้องมี tactic อะไรซับซ้อนยุ่งยากหรอกครับคนในโลก 90% แพ้ตลาดทั้งนั้นครับ พวกมีแผน A B C D E F G ปรับ port ทุกวัน แพ้ index

Dime ใช้ง่ายสุดครับ ซื้อเศษหุ้นได้

อนุญาตตามด้วยคน สนใจไป ตปท

แนะนำหุ้นอมเริกาถือยาว

ผมใช้ Webull ซื้อหุ้นรายตัว เพราะดูกราฟ ดูขาลงไว้ช้อนหุ้น

วันก่อนจัด RKLB ไป 10ตัวตัวละ 29 USD ตอนนี้ 45 แล้ว กลั้นใจถือยาวอยู่ ฮึบๆ

ส่วน Dime มันไม่เรียลไทม์ผมเอาไว้ DCA S&P500 อย่างเดียวเลย

ปล.ถ้าอยากชนะตลาด S&P500 ก็ต้องไปลอกการบ้านพอร์ตนักลงทุกซักคนที่เขาเอามาแชร์ ที่บวกเยอะกว่า

เลือกหุ้นที่ท่านชอบหรือเชื่อมั่นว่ามันจะโต ถือยาวๆ

5555555555555555 ครับท่าน โหดมาก 5555555 โดนใจเลย

QQQM19 มั้ยครับ

ผมก็ คนตอบคนดีคนเดิม จะมาบอกว่า พออ่านจบท่านบอกจะเร่งศึกษาในแค่ 1-2 วันนี้แล้วหลังจากนั้นจะเติมเงินอย่างเดียว
ผมก็เลยจะตอบว่า การลงทุนท่านต้องจ่ายค่าเล่าเรียน

ค่าเล่าเรียน..ทุกคนต้องจ่าย

ถ้าขี้เกียจ จ่ายด้วย เวลา ...
ก็ต้อง จ่าย ด้วย เงินในพอร์ต..

One way or another..
YOU WILL PAY.

ส่วนตัวผมจ่ายเงินในพอร์ตไปหลัก 300-400k ตอนนี้ตกผลึกหล่ะ ถ้าพร้อมเข้าตลาดหุ้นใหม่ ผมจะไม่มองหุ้นซิ่ง

อีกเด็ดขาด ผมเข้าใจแล้วถ้าวันนั้นผมไม่โลภเงินที่ผมเสียไปเอาซื้อหุ้นปันผลดีๆ ถึงวันนี้ก็ 10 ปีแล้ว ผมก็น่าจะคืนกำ

ไรพอสมควรแล้วด้วยซ้ำ แต่เพราะโลภอยากได้เป็นเด้งๆ คิดแบบนักพนันเลยต้องจ่ายเงินค่าพนัน

ตอนนี้ผม mind set พร้อมแล้ว แต่เงินไม่พร้อม ไม่มีเงินแล้ว