ผมลองคำนวนงบการเงินเล่นๆ ในกรณีที่มีการซื้ออิซัค + โรดรี้โก้ + เกฮี และในแง่ที่ไม่ซื้อตัวไหนสักตัวนะครับ

ถ้าปิดตลาดตอนนี้เลย สำหรับปี 2025-2026 เราจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 47.7 ล้านครับ
(เนื่องจากรายรับการขายนักเตะ HWG เราได้เต็มๆไม่หารเลยแทบจะไม่เสียอะไรเลย)

แต่กรณีที่ขายนูนเยสและดิอาสได้ รวมทั้งได้นักเตะใหม่สามคนนะครับ (ค่าเหนื่อยผมขอเดาเล่นๆนะครับ)
สรุปว่าเราจะมีการใช้จ่ายปีแรกอยู่ที่ประมาณ 111ล้านยูโรครับ ซึ่งอันนี้ผมไม่ได้นับรวมยอดที่นักเตะเก่าลบค่าเหนื่อยไปแล้วนะครับ (ขาเข้า 188 ขาออก 77 ล้านครับสำหรับปีแรก)

สำหรับปีที่สองและปีที่สามจะหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าเราจะมีค่าใช้จ่ายประมาณการอยู่ที่ประมาณ 117 ล้าน
ผมคิดว่าถ้าตลาดนี้ทุ่มหนักขนาดนี้ ตลาดต่อๆไปอาจจะซื้อนักเตะแค่ปีละคนสองคนแล้วละครับ

*ถ้าอันไหนผิดไปหรือยังไงก็แจ้งด้วยนะครับ แต่ผมคิดว่าขาออกมัน น่าจะมีเยอะกว่านี้ ยังไม่รวมพวก มอร์ตัน เอเลียต หรืออื่นๆอีก ยิ่งขายเด็กปั้นได้นี่ค่าใช้จ่ายลดลงไปเยอะครับ

พวกตัวที่จะมาใหม่เพิ่มเติมก็คงต้องขายตัวเก่าออกไปด้วยแหละ สโมสรคงไม่ทุ่มเพิ่มแล้ว

อย่างเกฮีก็คงเอาเงินจากการขายควอนซาร์ + (รอบโบ้หรือซิมิกาส) หรือถ้าจะเอาทั้งอิซัคและโรดริโก้จริงๆก็ต้องปล่อยทั้งดิอ๊าซ นูนเยซ เอลเลียต

ผมกลับชอบแบบนี้นะ ยกเครื่อง ตู้ม 3-4 ตัว แล้วหลังจากนั้นเสริมปีละ 1-2 ตัว มาเพิ่มสควอท หรือ เพิ่มการแข่งขันภายในทีม รวมถึงพวกตัวมี potential แล้วรอใหม่ 3 ปีหน้า ตู้มอีกรอบ

แต่เชื่อว่า “ปีกขวา กองหลัง” และ กลาง(กรณี กราฟ แมค โดนซื้อ) น่าจะเป็นแผนปีหน้า

สำหรับหาตัวแทนไดจ์ และโมแล้ว คงอยากหาพวกปั้นต่อได้มั้งนะ

ผมก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้

ที่จะหน้ามืด ใช้จ่ายอีก 200M ตามข่าวว่าจะซื้อได้

โดยไม่มีการเทรด มันเสี่ยงเกินไป ยังไงก็ต้องขาย นูน ดิอาซ ออกก่อน

ลืมเงินค่าตัวของโซโบ แมค กราฟ นูนเยส ปีก่อนๆด้วยครับ รวมก้อนนี่น่าจะราวๆ 40ล้าน ยังไงหงส์ก็ต้อยขายดิอาสกับนูนเยสเพื่อทำให้บัญชีสวยๆเผื่อฤดูกาลต่อๆไปอีก

เอาจริงผมไม่ลืมนะครับ แต่เพราะว่าโซโบ แมค กราฟ นูนเยส ถ้าคิดด้วยต้องคิดขาออกของปีนั้นๆ อีกครับ ผมเห็นละน่าจะคำนวนเยอะมากเลยไม่ทำดีกว่า น่าจะมีคำนวนผิดกันสักจุดนั่นละ ยิ่งพวกค่าเหนื่อยนี่ยิ่งไม่ชัดเจนอีก

*ของแมค เราฉีกสัญญานะครับ เราจ่ายจบหมดไปแล้ว เหลือแค่ค่าเหนื่อยรายปีเท่านั้น
ยกตัวอย่าง ปีที่แล้วก็ได้ครับ ถ้าลืมกันไปแล้วเราขายเด็กปั้นได้คนนึง (Sepp van den berg) กับคาวัลโญ่ พวกนี้ก็ต้องมาคิดรวมกันอีก

อันนี้ไม่ชัวร์นะ

แต่ต่อให้ฉีกสัญญาก็ลงในบัญชีหาร 5 ได้

เอาหนี้ไปใส่ธนาคารแทน

ผมไม่คิดว่าสโมสรอยากจ่ายเงินสดเป็นก้อนใหญ่แบบนั้น เว้นแต่ต้องการหักรายรับที่มากผิดปกติเพื่อให้เสียภาษีน้อยลง

ตัวเด็กอย่างพวกมอร์ตัน+โด้ก นี่ผมก็เชื่อว่าทีมงานทำได้นะ ขายสองคนนี้รวมกันได้ 50 ล้านปอนด์อะ ไม่รวมดิอาซ ดาร์วิน ละก็อาจจะโคนาเต้อีก คิดว่าหลังบ้านคำนวนไว้หมดแล้วแน่นอน ว่าไม่เสี่ยงกับเรื่องงบการเงิน

มันเป็นปีที่สร้างอ่ะครับ แทบจะสร้างทีมใหม่เลย พอหลังจากนี้มันก็จะเป็นการซ่อมจุดเล็กๆไปเรื่อยๆ

เพราะก่อนหน้านี้เราไม่ได้มีการผลัดใบเรื่อยๆด้วย มาตูมเดียวเลย รวมถึงเรื่องของโชต้าก็มีผลด้วย

ขอบคุณที่ทำมาให้ชมครับ

Amortisation = ค่าเสื่อมราคา หารสูงสุด 5 ปี
Cash Flow = กระแสเงินสด ที่ใช้จ่ายจริง
Homegrown = Pure Profit

ตัวอย่าง 1
ซื้อ Wirtz 110 เลเวอร์อยากได้งวดแรก 100 หงส์เอา Cash Flow จ่าย 100 เงินเหลือ 10

ในทางบัญชีตามกฎ FFP / PSR เอาเงิน 110 มาหาร 5 ปีโดยไม่สนใจ Cash Flow ว่าจะจ่ายงวดแรกหรืองวดอื่นเยอะน้อยเท่าไหร่ = ปีละ 22m

ตัวอย่าง 2
ฉีกสัญญานักเตะ เช่น แมคอัลลิส 35m ก็เอา Cash Flow จ่ายเต็ม แต่ในทางบัญชีหาร 5 ลงปีละ 7m

ถ้าขาย HG ได้อีกเงินเข้าบัญชีเต็มๆโดยไม่ถือว่ามีต้นทุนอะไร

**เงินก้อน Cash flow สโมสรไม่น่าจะซีเรียสกัน ที่เค้าจริงจังน่าจะเป็นลงตัวเลขในบัญชียังไงให้อยู่ในกฎ PSR/FFP ต่างหาก**

เหมือนจะคิด 3 ปีย้อนหลังด้วยรึเปล่าครับ หมายถึง ค่าใช้จ่ายปีนี้น่าจะเฉลี่ยย้อนไปรวมกับ 3 ปีก่อน แล้วปีหน้าก็เป็น 3 ปีย้อนหลังเหมือนกันในกรณีกฎการเงิน ถ้าผมจำไม่ผิดนะ

ถูกต้องตามนั้น นับทุกปีแต่ Cycle 3 ปี เช่น

2022 2023 2024

ปีถัดมาก็นับ

2023 2024 2025