มีความรู้สึกว่า เชลซี ได้ผ่านเวลาที่ยากลำบากมาแล้ว หลังจากได้แชมป์ คอนเฟอเรนส์

ดูทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ความเก๋า ความนิ่ง แต่ยังมีหลุดหัวร้อนบ้าง

แต่ภาพรวมดูดีขึ้น เล่นกันเพื่อทีมมากขึ้น ตัวใหม่มาแก้ปัญหาเดิมๆที่เจอ รู้สึกว่าจะโหดมากขึ้น

ที่เหลือ รอเวลาให้นักเตะ ขึ้นหิ้ง อย่างเดียวและ

ถ้าเอายุคท็อด ช่วงที่เดือนนึงยิงลูกเดียว อันนั้นทรมานสุดละครับ

เดะฤดูกาลหน้าก็ยากอีกอ่ะครับ

จากช่วงที่ตกต่ำมากๆ ลงสนามทีคิดในใจว่าจะเสมอได้หรือเปล่า ช่วงนั้นแทบไม่อยากดูบอล

มายุคชิงเมื่อไหร่แพ้เมื่อนั้น ได้ชิงบ้างแต่แพ้รัวๆ จิตใจห่อเหี่ยว
แถมโดนถีบจากโควต้ายูโรป้าลงมาเล่นคอนเฟอเร้นท์

จนมาฤดูกาลนี้แหละ ที่ผงาดขึ้นซะที top4+UECL+CWC เก็บได้หมดทั้ง3ภารกิจ
โดยเฉพาะเมื่อคืนทำoutclassใส่PSGได้แบบไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ฟ้าหลังฝน หวังว่าฤดูกาลใหม่จะยึดกุมโมเม้นตั้มของยอดทีมเอาไว้ได้ ก้าวต่อไป

ผ่านปีแรกของท็อดด์มาได้ก็ไม่น่ามีอะไรทรมานไปกว่านั้นละ ตอนนี้เป็นช่วงกราฟขาขึ้นแล้วแต่ด้วยความที่ทีมยังอายุน้อยมันมีโอกาสสวิงสูง

ต้องลุ้นให้มาเรสก้ากับนักเตะอัพเวลขึ้นรัวๆอย่าหยุดพัฒนาสิ่งสำคัญสุดคือความสม่ำเสมอเริ่มจากไป UCL ติดต่อกันให้ได้ก่อนเลยหลังจากนั้นค่อยขยับไปลุ้นแชมป์ลีก

ช่วงปลายซีซั่น ลากยาวมาจนคว้าแชมป์สโมสรโลก ผมว่าสิ่งที่เกิดกับเชลซี จังหวะทุกอย่างมันลงล็อคไปหมดเลยจริง ๆ นะ

พูดก็พูด ช่วงเมษาที่เราไม่มีปัญญาแม้แต่จะเอาชนะอิปสวิช ทาวน์ ผมค่อนข้างถอดใจกับการลุ้นพื้นที่ Top 4 แล้วจริง ๆ นะ



ผมเห็นด้วยกับเม้นนึงในบอร์ดนี้ว่า Turning Point อันยิ่งใหญ่ของเรา มาเกิดขึ้นตอนนัดพลิกแซงชนะฟูแล่ม 2-1 ที่คราเว่น คอทเทจนั่นแหละ คิดสภาพว่าถ้าเกมนั้นแพ้ (หรือเสมอก็ตาม) ผมว่ากราฟมันดิ่งแน่นอน โอกาส Top 4 เลือนลาง อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจในการลุ้นแชมป์ UECL ถ้าพลาด 2 ข้อข้างต้นนี้ ไม่ต้องถามหากำลังใจห่าเหวไรทั้งนั้นที่จะมาคว้าแชมป์โลกเลย ห่อเหี่ยวกันหมดแน่นอน

แต่พอพลิกชนะฟูแล่มได้ อะไร ๆ มันตามมาหมดจริง ๆ นะ พวกบรรดาทีมลุ้นโควต้าด้วยกัน ก็พากันพลาด นัดอะไรที่มันควรจะเป็นเกมยาก ๆ ในโค้งสุดท้ายอย่างเจอลิเวอร์พูล เจอแมนฯ ยูไนเต็ด เราก็ดันเจอในช่วงที่คู่แข่งก็อาจจะไม่ได้ใส่หนักอะไรมากกับเกมลีกนั้น ๆ

พอมาทัวร์ฯ สโมสรโลก ก็ยอมรับแต่โดยดีนะว่า โปรแกรมที่มันเป็นใจให้เรา การที่เราไม่ต้องมาชนกับเปแอสเช, แมนฯ ซิตี้, อินเตอร์ หรือแม้กระทั่ง อัล ฮิลาล ตั้งแต่รอบตื้น ๆ มันก็ช่วยเซฟเราได้พอตัวเลย แถมตัวผู้เล่นที่ตัดสินใจจิ้มมาเตะในทัวร์นี้ จะตัวใหม่อย่างเชา เปโดร, เลียม ดีแลปก็ดี จะตัวเดิมที่กลับจากยืมตัวอย่างอังเดร ซานโตสก็ดี ล้วนแล้วแต่มามีบทบาทสำคัญในเวลาที่พอเหมาะ พอเจาะไปหมด

ก็ได้แต่หวังว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ณ ตอนนี้มันจะต่อยอดไปยังอะไรดี ๆ ที่จะมาถึงในซีซั่นที่กำลังจะถึงล่ะนะ

ซึบซับบรรยากาศความสุขให้เต็มที่

แชมป์โลกโว้ย

จุดต่ำสุดคือแลมรอบ2อะ 10นัดสุดท้ายคือหนังฆาตรกรรมมชัดๆ

ผ่านยากระดับนึง แต่ยังไม่ใช่ที่สุด

เหลือช่วงทดสอบอีก2ช่วงคือ

ช่วงที่ ชุดไคเซโด้ กลุ่มดาวรุ่งกลายเป็นซีเนียร์ ทีม โค้ชจะจัดการยังไงกับพวกดาวรุ่งที่ต้องการ การลงสนามแต่ก็อยากเล่นให้เชลซี เนื่องจากมีผลกับทีมชาติ ทำไงให้ locker room ยังไปด้วยกันได้ดี พร้อมอดทนกัน


ช่วงที่2 พวกชุดไคเซโด้ กลายเป็นตัวเก๋า จะเคลียร์กันยังไง เหมือนยุค แลมพ์ เช็ค เทอรรี่ดรอกบา ช่วงปลาย
แฟนๆ โตมากับชุดนี้ กลุ่มคนพาทีมชนะ แต่ขณะเดียวกันต้องเปิดทางให้ชุดใหม่ขึ้นมาเล่นเพื่อสานต่อ

ลองผิดลองถูกมาสักพักใหญ่ๆ + การวางแผนระยะยาว + นโยบายที่ค่อนข้างเสี่ยง

ช่วงนี้ก็เสพความสุขไปก่อน ถ้าเปิดฤดูกาลเล่นอินเวิดกันอีกก็เข้ายุคมืดอีก

ช่วงที่ยากที่สุดคือ
ช่วงที่โล้นลองแผน ปวดตับชิบหาย
ตอนนี้ทีมลงตัว มีตำแหน่งชัดเจนละ
ต่อไปก็แค่เสริมจุดอ่อนเท่านั้น

กองหน้า เจา,เลียม กิลเป็นดาวรุ่ง
คนนึงบุ๋น คนนึงบู๋ ดาวรุ่งมีเกรด

ปีกซ้าย กิตเท่น,เนโต้
ปีกขวา พาลเมอร์,เอสเตวัล
รุกกลาง เอนโซ่,พาลเมอร์,ดริวฮอล(เอนคุนคู,เฟลิกซ์ ถ้าไม่ย้าย)
รับกลาง ไคเซ,ลาเวีย,ซานโต้ส,เจมส์
เกมรับต้องจูนอีกนิดหน่อย

ทีมมีทิศทาง มีระบบชัดเจนแล้ว
ต่อไปก็อยู่ที่ โค้ช กับ นักเตะ ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน

ระยะทางพิสูจน์ม้า