เอาภาพมาจาก X ของพรรคเลย



พรรคเพื่อไทยออกโรงโต้พรรคประชาชนที่คัดค้านนโยบายอุดหนุนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยย้ำว่าไม่ใช่นโยบายเอื้อนายทุน แต่เป็นการคืนรอยยิ้มให้ประชาชน ลดค่าครองชีพ และเพิ่มโอกาสในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้ว่า กลุ่มคนทำงานหาเช้ากินค่ำควรได้ประโยชน์ ไม่ควรตีความว่างบอุดหนุนเป็นภาระ พร้อมระบุว่าคนกรุงเทพฯ คือแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ใช่ภาระของชาติ

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ชี้ว่าพรรคประชาชนเคยหาเสียงด้วยนโยบายลดค่ารถไฟฟ้าเช่นกัน จึงไม่ควรกล่าวหาว่าการอุดหนุนคือการเอื้อประโยชน์นายทุน พร้อมตั้งคำถามกลับว่า หากพรรคประชาชนได้เป็นรัฐบาล จะยกเลิกโครงการนี้หรือไม่
https://x.com/PheuThaiParty/status/1943978440853795162/photo/1

----------------------------------------------------------------------

เพื่อนๆคิดว่ามันไม่เอื้อนายทุนอย่างที่เขาบอกจริงไหม?

ประชาชนได้ประโยชน์ ✅
รัฐบาลแบกค่าใช้จ่าย ✅
ค่าใช้จ่ายจากภาษีคนไทย ✅
คนชนชั้นกลางจ่ายภาษี แบกไป ✅

เจ้าของสัมปทาน ไม่ได้ ไม่เสียอะไร ยกเว้น รัฐบาล จ่ายช้า ไม่มีจ่าย


ผิดถูกยังไง ชี้แจงได้ครับ

พรรคเพื่อไทย ใช้เงินภาษีอุดหนุนส่วนต่างแบบ 100%
พรรคก้าวไกล แก้สัญญา ปรับโครงสร้างราคาค่าโดยสาร
คนนึงยื้อปัญหา อีกคนแก้ปัญหา

แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าพรรคประชาชนได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ยกเลิกโครงการนี้หรอก
เพราะเราไม่สามารถยกเลิกสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นได้

ตอบคำถาม จขกท
ส่วนตัวมองว่าการอุดหนุนค่าโดยสารไม่ได้เอื้อนะ แค่เปลี่ยนมือจากประชาชนจ่ายเป็นรัฐจ่าย
ถ้าจะใช้คำว่าเอื้อจริงๆคือเรื่องการต่อสัมปทานหรือต่อสัญญาแบบไม่คิดอะไรเลยเป็นระยะเวลานานๆ

ส่วนตอนนี้พรรคเพื่อไทยใช้มุก ข้าเลว เอ็งก็เลวเหมือนข้า ข้ากับเอ็งเลวไม่ต่างกัน

นโยบายไหนไม่ใช้ภาษีบ้าง คนได้ใช้จริงก็ได้ประโยชน์ไป
คนไม่ได้ใช้ก็รอนโยบายอื่น

ไม่เอื้อประโยชน์นายทุนยังไงก่อน

20 บาทจริง คนจะโดยสารเยอะขึ้น ส่วนต่างก็ไปเก็บตามจำนวนผู้ใช้ แปลว่าเจ้าของรถไฟฟ้าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นแบบไม่ต้องโฆษณา​อะไรเลย ถ้าเป็นโมเดลแบบที่รัฐไปSubsidy ส่วนต่างนะครับ

สุดท้ายต่อให้รัฐบอกจะจ่ายแค่นี้ รถไฟฟ้ามันมีอำนาจสไตรค์​ได้นะ อย่าลืม ยังไงก็ต้องหามาจ่าย

พอคนโดยสารเยอะขึ้น แปลว่ารถไฟฟ้าต้องใช้ไฟมากขึ้น เอื้อนายทุนอีกทอด

ประชาชนอาจจะได้และเสียประโยชน์ ค่าโดยสารถูกลง แต่พอคนเยอะต้องรอนานขึ้น ส่วนคนที่ไม่ได้สิทธินี่เสียประโยชน์​เต็มๆ

มันจะไม่เอื้อก็ต่อเมื่อ จำนวนคนใช้เท่าเดิมเป๊ะๆ + เงินที่มาอุดหนุนโปร่งใส ไม่เข้าข่ายทุจริตเชิงนโยบาย

อะไรที่ใช้กลไกรัฐ เข้าไปอุ้ม มันก็มีแต่รัฐขาดทุน นโยบายได้หน้า แต่รัฐเสียหาย กระทบคนหมู่มาก ภาษีที่จัดเก็บไป กระจายตามหน่วยงานต่างๆ ถูกเอามาใช้แบบไม่เกิดประโยชน์ส่วนรวม

เขาลงทะเบียนกันไม่ใช่เหรอครับ แสดงว่าจำนวนคนก็จะจำกัดเท่านั้น ปัญหาคือ คนที่ลงทะเบียนเป็นกลุ่มคนที่ใช้ประจำอยู่แล้ว หรือ คนที่ไม่เคยใช้มาก่อนเลย ถ้าจำนวนคนไม่เคยเลยลงทะเบียนเยอะกว่า แล้วเข้ามาใช้งานจริงๆ แสดงว่ารถไฟฟ้าก็จะได้ลูกค้ากลุ่มเพิ่ม อย่างที่คุณบอก

ผมว่าคนจะใช้มากขึ้นมากๆๆๆๆๆๆ จาก 30-60 เหลือ 20 บาทอะ ยิ่งถ้าบริษัทรถไฟฟ้าได้เงินเท่าราคาปกติเพราะรัฐมาจ่ายส่วนต่างให้ แสดงว่าบริษัทรถไฟฟ้านี่ได้เงินเพิ่มขึ้นแบบไม่ต้องทำไรเลย อยู่ดีๆรัฐก็มาจัดโปรโมชั่นให้

ผมว่าอย่างน้อยช่วยต่อรองหน่อยเถอะให้รัฐจ่ายเป็นเงินก้อนเหมาๆไปเลย ราคาเท่ากับยอดขายปัจจุบันของรถไฟฟ้า หรือถ้าต้องเพิ่มรอบรถก็ให้เงินมากขึ้นนิดหน่อยอะไรก็ว่าไป ถ้าคิดราคาต่อคนต่อเที่ยวนี่รัฐเอื้อให้บริษัทรถไฟฟ้าเยอะเกิน

ถ้าคนเยอะ เพิ่มรถได้ไหม ทุกวันนี้ปลากระป๋องแล้ว เพิ่มโบกี้ก็ได้

ว่าแต่ต้องลงทะเบียนด้วยเหรอ

ไม่ให้ทุกคนได้สิทธิ์เลยน่ะ

ก็ใช้ภาษีไปอุด ประชาชนได้ประโยชน์แต่จำกัดวงแค่ในพื้นที่ แล้วถ้าผู้ใช้งานเพิ่ม ผู้ประกอบการก็ต้องได้ประโยชน์ทางอ้อมอยู่ดีนั่นแหละ

เจ้าของสัมปทานรถไฟฟ้าได้เงินต่อคนเท่าเดิม แต่คนใช้เยอะขึ้น แบบนี้เรียกว่าเอื้อนายทุนมั้ย ?

ผมว่า ก็เอื้อทางอ้อม (แบบตรง ๆ) นะ

รัฐบาลเอาภาษีไปจัดโปรโมชั่นลดราคาแล้วจ่ายส่วนต่างให้นายทุน

นี่ไม่เอื้อเหรอ

แล้วนายทุนรถไฟฟ้าเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอีก

ชัดขนาดนี้ยังจะแบกอีก?

ก็ดูจากประโยชน์ มันก็เอื้อ ประชาชนมากที่สุดนี่แหละครับ
ต้องดูจาก เหตุผลที่ทำ ทำเผื่อใคร โครงการมีรายละเอียดยังไงบ้าง
มีการจำกัดวงเงิน ให้ นายทุนได้ประโยชน์น้อยสุดไหม

ส่วนถ้าใครบอกว่า เอื้อ นายทุน เป็นหลัก
อาจจะเป็นเพราะ หลอนนายทุนขึ้นสมองล่ะครับ

ความคิดเห็นผมว่าโครงการนี้มันดี แต่มันทำให้ดีกว่านี้ได้ ถ้าโครงการนี้มันเกิดขึ้นผลที่ตามมาคือไร

1.คนขึ้นเยอะขึ้น เพราะถูก
2.รัฐอุดหนุน 100% ก็ต้องจ่ายส่วนต่างมากขึ้นตามจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นมา แล้วเอาเงินจากไหนก็ภาษีเราที่ควรเอาไปทำอย่างอื่นไง จีเนียสสสส
3.นายทุนเจ้าของสัมปทาน ได้ตังเพิ่มขึ้นจากคนที่ขึ้นเยอะขึ้น

สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดในเคสนี้ก็คือนายทุน ไม่มีไรเสียเลย กลับกันถ้าเป็นการแก้ราคารถไฟฟ้าแบบพรรคประชาชนที่ไปแก้ที่โครางสร้างสัญญาเลย มันจะดีกว่าเพราะมันทำให้ราคาสมเหตุสมผล ไม่ได้ราคาถูกเว่อ แล้วรัฐก็ไม่ต้องอุ้มชูอะไร นั่งเยอะจ่ายเยอะแบบมีเพดานที่ไม่สูงเกินไป นั่งน้อยจ่ายน้อย ตั๋วร่วมที่ไม่ต้องจ่ายค่าเเรกเข้าเพิ่มกรณีมีการเปลี่ยนสาย ซึ่งส่งผลดีต่อระยะยาวมากกว่า