“เวียดนาม” ตกใจ “ทรัมป์” ประกาศเก็บภาษี 20% มากกว่าคาดที่ 10-15% สั่งเร่งเจรจาฐหวังลดภาระภาษีในระยะยาว พร้อมเดินสายเจรจากับจีนเพื่อรักษาสมดุลในห่วงโซ่อุปทาน



วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.25 น. เว็บไซต์ Yahoo Finance รายงานว่า แหล่งข่าวระบุว่าผู้นำเวียดนามตกตะลึงกับการประกาศของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าได้บรรลุข้อตกลงเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามที่อัตรา 20% โดยขณะนี้รัฐบาลเวียดนามยังพยายามผลักดันให้ลดอัตราดังกล่าวลง

หลังการโทรศัพท์กับทรัมป์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม To Lam ได้สั่งให้ทีมเจรจายังคงเดินหน้าหารือเพื่อลดอัตราภาษีลง แหล่งข่าวระบุว่า อัตรา 20% ที่ทรัมป์ประกาศออกมานั้นสร้างความประหลาดใจ เนื่องจากเวียดนามเชื่อว่าตกลงกันไว้ในช่วง 10–15% เท่านั้น

จนถึงขณะนี้ สื่อของรัฐในเวียดนามมีการกล่าวถึงภาษี 20% ค่อนข้างน้อย โดยในบันทึกจากรัฐบาลมีการสั่งการไปยังสื่อท้องถิ่นให้หลีกเลี่ยงการรายงานเนื้อหาที่ไม่ชัดเจนหรือเป็นเพียงการคาดการณ์ โดยเฉพาะหากยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ

ทั้งนี้เวียดนามถือเป็นประเทศที่สองรองจากสหราชอาณาจักรที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศข้อตกลงการค้าด้วย โดยเมื่อปีที่แล้วเวียดนามมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้สหรัฐเรียกเก็บภาษี

วันรุ่งขึ้นหลังจากทรัมป์โพสต์ใน Truth Social โดยกล่าวชม To Lam ว่า “เจรจาด้วยแล้วน่าพอใจมาก” กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้แถลงว่ายังอยู่ระหว่างการประสานงานกับสหรัฐเพื่อสรุปรายละเอียดข้อตกลง

ผู้นำเวียดนามได้หลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นภาษีในคำแถลงอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรี Pham Minh Chinh หันไปเน้นย้ำเรื่องการกระจายตลาดส่งออกและการปรับห่วงโซ่อุปทานเพื่อรับมือกับภาษีใหม่แทน

ทั้งนี้ภาษี 20% ที่ทรัมป์ประกาศจะมาแทนที่อัตราพื้นฐาน 10% ในปัจจุบัน แต่ยังมีการเรียกเก็บภาษีอื่นเพิ่มเติม เช่น MFN (Most Favored Nation) ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีที่แท้จริงเกินกว่า 20% ในบางกรณี ทั้งนี้ สินค้าที่อยู่ภายใต้ภาษีเฉพาะกลุ่ม เช่น รถยนต์หรือเหล็ก จะถูกจัดเก็บแยกและไม่รวมซ้อนกัน

ขณะเดียวกันเวียดนามพยายามรักษาสมดุลระหว่างความสัมพันธ์กับสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด โดยสหรัฐเรียกร้องให้เวียดนามมีมาตรการสกัดการเลี่ยงภาษีผ่านการเปลี่ยนแหล่งกำเนิดสินค้า (transshipment) จากจีน ซึ่งจีนเองก็จับตามองข้อตกลงนี้และเตือนว่าจะตอบโต้หากได้รับผลกระทบ

ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์เวียดนามกำลังหารือกับกรมศุลกากรและภาคอุตสาหกรรมเพื่อวางระเบียบควบคุมต้นทางสินค้าให้เข้มงวดยิ่งขึ้น

แม้ผ่านมาเกือบสัปดาห์หลังทรัมป์ประกาศ แต่ทั้งสองประเทศยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลง เช่น วิธีการใช้ภาษี 20% หรือมาตรการจัดการกับสินค้า transshipment ที่จะถูกเรียกเก็บถึง 40%

ทรัมป์กล่าวกับ NBC News เมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขากำลังพิจารณาจะเก็บภาษีรวม 15–20% กับประเทศคู่ค้าเกือบทั้งหมดที่ยังไม่แจ้งอัตราภาษีอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่น โดยดัชนีหุ้นเวียดนามพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยนักลงทุนต่างชาติหลายรายมองว่าภาษี 20% ที่ได้ถือเป็นข้อตกลงที่ดีสำหรับเวียดนาม

ระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่บราซิล นายกรัฐมนตรีฟาม มินห์ จิ๋ง ได้พบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เชียง ของจีน โดยเห็นพ้องจะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน รวมถึงเร่งก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมสองประเทศ ซึ่งตอกย้ำว่าเวียดนามยังให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน

https://moneyandbanking.co.th/2025/183863/

งูกินหางไปเรื่อย ภาระตกที่ประชาชนได้ใช้ของแพง สุดท้ายไปจบที่จีน
จีนบอกว่าประเทศไหนภาษีสูงบอกได้นะ อั๊วรับนำเข้าราคาถูก ๆ ให้เอง

20 % ก็ถือว่าโดนน้อยมากแล้วเหงียน

แค่นี้ตกใจนะเหงียน

36 ยังไม่สะทกสะท้านเลย

สรุปไม่ต้องไปเจรจาละ ปล่อยให้มันแพร่มเลยไปเถอะ แต่ละชาติจับมือไม่สนไม่แคร์อะไร ยังไงอเมริกาก็เจ็บหนัก

งงว่าทำไมเวียดนามคุยได้สองทาง

ไทยคุยกับจีนนี่โดนโถมโดนบวกภาษีไปอีก คุยเจรจาอะไรไม่ได้ละตามเมหาอย่างเดียว

อเมริกาต้องการ เวียดนามไว้คานอำนาจจีนครับ และ เวียดกับจีนก็มีปัญหาทะเลจีนใต้กันอยู่ เลยเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เวียดนาม มาฝั่งอเมริกามากขึ้น

รีสอร์ต+สนามกอล์ฟ

เห็นเค้าว่าไทยต้อง15%ถึงจะไปสู้เวียดไหว เวียดเค้าทำงานจริงจัง

ยังได้แค่20 พรี่ไทยเราทำงานแบ่งเค้กกันกินสงสัย30+แน่ๆ จะ

ยอมนำเข้าหมูก็ฆ่าเกษตรกรหมูในประเทศทิ้งอีก ทางไหนดีหละ

ใช่ๆ อันนี้อีกอัน ให้สิทธิตระกูลทรัมป์