วันก่อนไปสอย Switch 2 มาพอเจอราคาเกมปัจจุบันแล้วยอมรับเลยว่าไม่ไหว เจอโอ้คาร์ด 2 พัน++ ไปนี่มีจุกเหมือนกัน หันกลับมามอง PS5 ราคาเกมก็ 2,XXX ++ ไปหมดแล้ว

ส่วนตัวคือ 1,9XX นี่คือแพงสุดที่รับได้แล้ว ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยการหยิบเงิน 2 - 3 พันมาซื้อเกมไม่ได้จริงๆ ต่อไปคงต้องรอลดราคาไม่ก็มือสองจริงๆจังๆแล้ว

ส่วน Steam เกมราคาถูกจริงแต่ราคา การ์ดจอก็แพงตาม (PC ตอนนี้ของผมตอนนี้วางไว้เฉยๆละ การ์ดจอสองหมื่น ++ ก็ไม่ไหวจริงๆ)

แต่ละท่านมีราคาเกมในใจที่แบบ เออนี่คือราคาสูงสุดที่ซื้อละ แพงกว่านี้ไม่ไหวจริงๆอยู่ที่เท่าไรกันบ้าง และมีแผนในการซื้อเกมกันยังไงในอนาคต มาคุยกันครับ

ต่อไป เกมเกรด AAA กับเกมปู่นินจะแทบไม่มีละครับ ที่ราคาเปิดตัว 60 USD

ตอนนี้ 70 USD คือราคามาตรฐานมาซักพักละ และกำลังจะก้าวสู่ 80 USD อย่างรวดเร็ว

ถ้าสำหรับสายแผ่น ผมว่าพวกโค้ด Shopee กับแผ่นมือสองเป็นทางออกที่ดี

ส่วนสายดิจิตอลอย่างผมคงต้องจำกัดเกมที่ซื้อมากกว่าเดิม

สมัยผมเล่น PS5 แทบไม่ต้องลงทุนเลยนะ ซื้อแผ่นมือ 2 ราคา 1500 ขายต่อก็ 1500 แปบเดียวขายออก เสียแค่ค่าส่ง เหมือนเล่นเกมส์ฟรีอะ ทำแบบนี้มาเกือบ 10เกมส์

แต่มาขาดทุนตอนขายเครื่องนี่แหละซื้อมา 20k+ ขายออก 10k

พึ่งซื้อ switch 2 มา ซื้อแบบตลับไป 3 เกมส์ล่อไปเกือบ 6k คิดเป็น 1ใน3 ราคาเครื่องแล้วนะ
มันก็ขายต่อได้แหละแต่มันแพงเกินไปมากๆ

ผมเคยซื้อไฟน่อล 7 PC สมัยใช้ CD-Rom เล่น 2200 บาทมั้ง ไม่ต่ำกว่า 20 ปีที่แล้ว มีเกมอื่นๆ อีกแพงไม่แพ้กัน

ตัดที่ 1000 นะของผมถ้าเกินพันคือแพง ต้องเกมเกรด AA+ หรือเกมที่ชอบจริงๆ

ตอนนี้ถ้าจะเล่นถ้าไม่ลดก็รอมือสองเอา

ขายต่อได้ ก็หายไปเกือบครึ่งละครับ

ที่ลำบากคือต้องมาลงขาย - มาตอบ - มาส่งของ

แถมต้องระวังโจรอีก บางทีก็ขี้เกียจ

ราคาเกมสวนทางกับค่าครองชีพคนซื้อ

ไม่แปลกที่คนซื้อ digital คอนโซล จึงหาช่องทางมุดไปซื้อโซนอื่น
Psไม่เท่าไหร่ xbox กับ nin นี่มุดจนเมกาใต้เป็นบ้านเกิดละ

ผมก็เล่นแต่ console switchบ้างps5บ้าง
คิดเหมือนกันว่ามันแพงไปก็ซ้อแต่เกมลดราคา ตั้งในใจตัวเองว่าถ้าdigitalก็เอาไม่เกิน600 บาท
ถ้าเป็นแผ่นก็เอาที่กด code แล้วได้พันต้นๆ

กดมาแพงสุดก็ Path of Exile 2 นั่นล่ะครับ


สนับสนุนเกมที่เรารัก 555 ทุกวันนี้เล่นแต่ Arena Breakout Infinite

แพงแต่ก็เข้าใจ ต้นทุนสร้างมันสูงขึ้นค่าเกมมันก็ต้องแพงขึ้นตาม $70 เลยเป็นราคาที่ผมรับได้

แต่ไอ้ $80 ของ Mario Kart World เนี่ย นั่งเล่นยังไงมันก็ไม่ใช่ราคานี้อ่ะ

Mario Kart World 80$ นี่สุดท้ายคือซื้อโปรพร้อมเครื่อง ไม่ก็แฟนเดนตายเท่านั้นจริงๆ ที่กล้าซื้อ

เกมคอนโซน มันแชร์เกมกันได้นี่ครับ เพิ่งซื้อ death standing 2 เครื่อง ps5 ไปจ่ายกันคนละ 1,100 ก็พอรับได้อยู่ครับ จำได้สมัย switch 1 มีซื้อตั๋วใบละ 1,400 (1 ใบแลกได้ 2 เกม) หารกับเพื่อนก็ตกเกมละ 700 บาทเองครับ เซลด้า มาริโอ้ เมทรอย โปเกม่อน ได้หมดราคานี้ ส่วน switch 2 ยกเลิกตั๋วไปแล้วกับเปลี่ยนเป็นระบบวิช่วลเกมการ์ด แต่ก็ยังแชร์กันเล่นได้เหมือนเดิม (เพียงแต่อีกเครื่องต้องออฟไลน์ถ้าจะเล่นพร้อมกัน) แถมคราวนี้ยังมี family แชร์วิช่วลเกมการ์ดอีก น่าจะ 5-6 เครื่อง ได้ 14 วัน ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องเล่นเกมใหม่พร้อมชาวบ้าน ก็หาเกาะเพื่อนที่มีเกมใน id เยอะๆแล้วขอแชร์เล่นก็ได้ (เหมือนขอยืมตลับเกมเพื่อนเมื่อก่อน) โดยรวมก็ไม่แย่ถ้ามีเพื่อนเล่นด้วยกันหลายๆคน (เครื่อง switch มันก็ออกแบบมาให้เล่นกันหลายๆคนอยู่ละ) แต่ถ้าเล่นคนเดียวจ่ายเองคนเดียวหมดก็แพงหน่อยครับ

ส่วนสตีม มันก็แล้วแต่ค่ายเกม ถ้าค่ายฝรั่งก็ถูกกว่าเป็นพันเลยก็มี แต่เกมญี่ปุ่นบางค่ายสตีมไม่ได้ถูกกว่า ps5 เลยนะครับ silent hill f โคนามิพี่ขายในแพงกว่า ps5 อีกครับ

อย่างที่เค้าว่ามั้ย ทุกอย่างขึ้นหมด ต้นทุนพัฒนาเกมก็มหาโหด ราคาเกมก็เลยแพงขึ้น แต่รายได้คนไม่ขึ้นตาม

ของผมถ้าใน steam คือให้ไม่เกิน 500 แม้ว่าแพงกว่านั้นมันก็ซื้อได้ ส่วนพวกเกม AA ขึ้นไป ก็รอเซลล์ล้วนๆ บางทีรอไปเลยปีสองปี จนกว่ามันจะลดเยอะๆ เพราะก็รู้สึกว่าไม่ได้ต้องรีบเล่นอะไร(ไม่นับว่าเกมเก่าๆ บานเลย ที่ยังเล่นไม่คุ้ม)

ยกเว้นให้บางเกมที่อยากจริงๆ เช่นถ้าFM ภาคใหม่มาผมก็อาจจะหน้ามืดกดเลยเหมือนกัน