เหมือนไปหาข้อมูลมา เจอว่าให้ระงับ ทรัมทำไม่ได้

แต่เหมือนทีมงานทรัมไปศาลอุทร แล้วรอตัดสิน สิ้นเดือนกรกฏาใช่ไหมครับ

แล้วทิศทางมันเป็นยังไงครับ

ประธานาธิบดี มีอำนาจ สูงสุดครับ

ตอนแรกมันขัดได้เพราะบางรัฐเขาให้ศาลขัดการออกนโยบายที่เกินขอบเขตได้ แต่พออุทธรณ์ปุ๊ปมันก็กลายเป็นปัญหาเชิงข้อกฎหมาย ซึ่งถ้าสู้ต่อก็จะลากกันไปยันศาลสูงสุดอะ ถ้าเทียบง่ายๆก็เหมือนศาลรัฐธรรมนูญในบทบาทที่มันควรจะเป็น

ที่บอกว่าเกินขอบเขต เพราะตอนนี้มันใช้คำสั่งแบบ executive order ซึ่งถ้าเทียบกับบ้านเราก็น่าจะประมาณพระราชกำหนดนู่นเลย ปกติแล้ว EO เขาจะใช้กับพวกสถานการณ์ที่ฉุกเฉินจริงๆ ไม่ใช่ใช้กันแบบเหมือนคำสั่งกษัตริย์ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์อะไรแบบนั้น แต่ของทรัมป์คือแทบทุกอย่างออกเป็น EO ซึ่งโดยหลัก check & balance แล้วก็ถือว่าผิดหลักน่ะแหละ (ปกติต้องทำเป็นเหมือน พรบ คือให้รัฐสภาอนุมัติก่อน)

พอศาลแต่ละรัฐออกมาขัดมันก็การเป็นการตีกันระหว่างฝั่งกฎหมายแล้ว ไอฝั่งบริหารก็วิ่งหวือไปจนกว่าจะลากไปถึงนู่นอะศาลสูงสุดตัดสิน ตรงนี้จะบอกช่องโหว่ของกฎหมายก็ได้แหละ แต่ทรัมป์มันก็เจตนาอยู่แล้วว่าจะเล่นเวย์นี้ สมัย Dick Cheney ก็ทำแบบนี้ คือทำจนแบบสุดขอบเลย ถ้ากฎหมายไม่ห้าม = ทำได้

ตอนนี้ก็เลยเป็นจุดได้เปรียบของทรัมป์ไป ซึ่งจริงๆขึ้นศาลสูงสุดเขาอาจจะระงับคำสั่งระงับก็ได้ ถ้าเขามองว่านี่คืออำนาจของฝั่งบริหาร

ถ้าสว.เขาไม่ให้ผ่านมันก็ตีตกไปได้รึเปล่า

แต่เมกามันคือระบบประชาธิปไตยแบบชนะได้หมด คือชนะการเลือกตั้งก็ยกมาทั้งทีมเลยทำงานแบบเราอยู่นายอยู่ นายไปเราไป ไม่ใช่งูเห่าแบบไทยๆ

แต่มันผ้าเบรกที่ชื่อว่า สว.เหมือนกัน การจะผ่านได้ก็ต้องผ่านทั้งสองสภา

และสว.มีอำนาจในการปลดประธานาธิบดีได้นะ คือให้อำนาจเต็มที่ล่ะ แต่ถ้าบ้าไม่รู้สี่รู้แหก ก็ปลิวได้

และทรัมป์เองก็โดนยื่นปลดไปหลายรอบแล้ว แค่ยังไม่ผ่านตอนนี้ ลองบ้ามากสิ จะอยู่ไม่ครบสมัยเอา

ขึ้นภาษีอ่ะได้ แต่ถ้ามันกระทบประชาขนของตัวเอง มันก็ต้องมานั่งคุยกันใหม่ว่า จำเป็นไหมที่ต้องขึ้นขนาดนี้

ลองคิดมุมไทย ถ้าเราขึ้นภาษีนำเข้าบ้าง ต้นทางได้รับผลกระทบก็จริงแต่ถ้ามันคือสินค้าจำเป็นที่ต้องใช้เรื่อยๆ ประชาขนในประเทศเองที่จะต้องจ่ายในส่วนนี้ ทำให้ค่าครองชีพมันสูงขึ้น

ดังนั้น ตอนนี้มันคือการต่อรอง ว่ายอมได้แค่ไหน สุดท้ายเดี๋ยวมันก็จะมีอีกหลายรอบที่คุยกันให้ลงตัว แต่ถ้าเกินจากเดิม อันนี้เอาคนเจรจาไปตัดหัวเถอะ 55555

ถ้าสรุปตั้งแต่แรกตามที่ผมเข้าใจก็

- นโยบายการเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์เนี่ยใช้อำนาจพิเศษ(แบบ พรก.ฉุกเฉิน อะไรประมาณนั้น)

- ศาลการค้าอเมริกา (Court of International Trade) ได้ตัดสินและมีคำสั่งระงับการเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์เพราะมองว่ามันผิดกฏหมาย ก็แจ้งทางรัฐบาลไปว่าให้ยกเลิกคำสั่งนี้ทันที(แบบพรก.ฉุกเฉิน นี้ไม่ได้ให้อำนาจให้มาขึ้นกาษีเอาตามใจข้างเดียวแบบนี้ได้)

- ฝั่งรัฐบาลทรัมป์ไม่ยอมก็ยื่นอุทรณ์สู้ บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ศาลที่ไม่ได้จากการเลือกตั้งที่จะมายุ่งกับพรก.ฉุกเฉินนี้

- ตอนนี้ก็สู้กันอยู่ในศาลอุทรณ์ จะไต่สวนวันที่ 31 ก.ค. นี้

- ถ้าผลยืนยันตามศาลชั้นต้น ทรัมป์ก็เก็บภาษีไม่ได้และถ้ามีการเก็บมาแล้วก็ต้องคืนเงิน+ดอกบี้ย(แต่ถึงแพ้ก็ยังมีทางอื่นให้ทรัมป์อีกไม่ใช่แพ้ตรงนี้ปุ๊บ = ยกเลิกการเก็บภาษีนี้อย่างเด็ดขาด)

ส่วนทิศทางจะเป็นยังไง ส่วนตัวมองว่าโอกาสแพ้สูง เพราะที่แพ้ศาลแรกมาคณะผู้พิพากษาทั้งหมดก็คือเห็นตรงกันว่ามันผิดกฏหมาย รัฐบาลทรัมป์ไม่มีอำนาจทำตรงนี้ เพราะฉะนั้นก็ไม่น่าพลิก(แต่ก็ไม่แน่เห็นว่ารอบแรกใช้คณะผู้พิพากษา 3 คนตัดสิน แต่รอบล่าสุดจะใช้ 11 คนตัดสินเพราะเป็นคดีสำคัญ คดีตัวอย่าง อะไรประมาณนี้)