เอาตรงๆไม่แน่ใจเลยครับ เพราะทรัมปมันบ้าคาดเดาไม่ได้

เรื่องการเจรจายากจริงๆต่อให้เก่งแค่ไหน เพราะเราไม่ทีอำนาจต่อรองอะไรเลย

ไม่เข้าใจกลุ่มอาเซียน ไม่รวมตัวกันไปวะ

36 เท่ากันเป๊ะ

เดาว่าโดน 25%-30% แถวๆนี้แหละ

ญี่ปุ่นแทบจะยอมทั้งตัว ยังโดน 25% คิดว่าไทยจะมีอะไรไปต่อรองให้ต่ำกว่า 25%

พิธาเคยเตือนเรื่องนี้ก่อนหน้าทรัมป์ทำหลายเดือน

นั่นหมายถึงว่าถ้าเขาเป็นนายก เขาจะทำก่อนทรัมป์ลั่นกลองรบ

ส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นผลดีกับไทยมากกว่าตรงการต่อรองที่ไม่ต้องเอากล่องดวงใจของตัวเองไปต่รองมากนัก

เอามาเป็นดูสิ แล้วจะรู้ อยากรู้เหมือนกัน

พิธามีปัญหาเกี่ยวกับจีนเทา จีน 0 เหรียญพอสมควร ถ้าเข้ามาผมว่าแกจะจัดการเรื่องนี้

แล้วมันก็จะมีผลต่อเนื่อง เกี่ยวกับเรื่องภาษี เพราะเราจะไม่ใช่เครื่องมือการนำออกสินค้าจีน โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน อเมริกาเขาต้องการตรงนี้ กดดันทุกประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อบีบจีน

ดูเวียดนามเป็นตัวอย่าง ถ้าเจรจาดีดีเราน่าจะทำได้เทียบเท่าเวียดนาม หรือแค่อินโดฯ

แต่เวียดนามก็ทุ่มหมดหน้าตักเหมือนกัน0%ALL เราทุ่มแบบนั้นได้ไหมก็น่าสนใจอยู่ เวียดนามอิงจีนมากกว่าเราอยู่แล้วในสายตาชาวโลก เราต้องทำได้ดีกว่าหรือเท่ากับเวียดนามอะ ทีมก้าวไกลน่าจะทำได้ระดับนั้น

กรรมเก่า ไม่ว่าใครมาเป็นยังไงก็โดน อาจจะเท่านี้หรือน้อยกว่านี้นิดนึง คงอยู่ที่ 25-35% ประมาณนี้แหละ กรรมเก่าที่เรา welcome ไทย-จีน มาเยอะเกิน เยอะจนเค้ามองว่าเราเป็นมือซ้ายของจีน

ไม่ถึงหรอก เท่าที่ฟังจากรายการสรยุทธ
วิธีจัดการแกดีกว่ารัฐบาลเยอะเลย

สารภาพตามตรง! คำถามในหัวประชาชนเต็มไปหมด ถ้าพิธาได้เป็นแล้วจะดีแบบนั้นแบบนี้มั้ย? ผมเลยอยากบอกว่า ให้เค้าได้เป็นก่อนให้เค้าได้บริหารก่อน แล้วเราจะได้คำตอบโดยไม่ต้องอนุมานตรรกะอะไรเลย บริหารดีก็ถือว่ามองคนไม่ผิด แต่ถ้าบริหารแล้วแย่ เลือกตั้งก็แค่เลือกคนใหม่มาบริหารประเทศมันง่ายๆเท่านั้นเอง แต่กับกลุ่มควายแดงสลิ่มเหลืองหางฟ้าวิธีคิดแม่งโคตรตื้นเขินเลย ยึดติดตัวบุคคลจนจะแดกเกลือทั้งประเทศแล้วครับ

โดนเยอะเหมือนเดิมแหละ

คนกำลังบ้า ใครมาเป็นก็โดนอยู่ดี

ทรัมป์มันไม่สนใจหรอก พิธงพิธา ยูววววเป็นครายยย

อย่างแรก ไอ้ที่โดนเนี่ย ไม่เกี่ยวกับใครเป็นรัฐบาล ถ้าได้ดุลเมกา ยังไงก็โดน
ทีนี้จะโดนเท่าไหร่ ก็ขึ้นกับว่าจะได้ดุลเมกาเท่าไหร่
เท่าที่เห็นผ่านๆ ตา เหมือนว่าพวกสินค้าที่จีนมาสวมสิทธิ์ จะประมาณ 10-20% ของที่เราได้ดุลเลย
เพราะงั้น ถ้ารัฐจัดการเรื่องสวมสิทธิ์จริงจัง ดุลการค้าอาจจะลดลง ก็น่าจะโดนภาษีน้อยลง
ซึ่งส่วนตัวมองว่าดีกว่า เพราะว่าไอ้ที่สวมๆ กันนี่ ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆ กับภาคการผลิตของเราเลย

ตอบไม่ได้ แต่ตอบได้อย่างนึง
แกเคยแนะว่าให้ไปอ่านหนังสือ ความชอบ ประวัติของคนที่จะคุยด้วย แล้วจะรู้ว่าเค้าต้องการอะไร
ซึ่ง ร.บ แม่งเพิ่งมาบอกว่า ตอนนี้รู้แล้วว่าเค้าต้องการอะไร เชี่ย ก่อนหน้ามึงไม่ศึกษาเค้ามาก่อนเลยเหรอวะ