ขอคำแนะนำครับ
สวัสดีครับขอเกริ่นก่อนนะครับอาจจะยาวนิดหนึ่ง ผมเริ่มจากสาย Process Engineer แล้วสนใจ data เลยไปเรียน Data Science Bootcamp ตั้งใจจะไปสาย Data Analyst แต่สุดท้ายได้ย้ายมาเป็น System Analyst แทน ซึ่งงานที่นี่จะไม่ได้ coding เอง งานที่ทำตอนนี้คือรับ requirement, ทำ flow, ออกแบบระบบ แล้วส่งให้ dev
เป็นทีมเล็กๆ ไม่มี QA ผมต้อง test เองหมดซึ่งการเทสก็ทำแบบถึกๆ เทสพวก business logic เทส data based เช่นตรงตามเงื่อนไขที่เขียนไว้ไหม หรือถ้ากด button นี้แล้วจะเกิดไรขึ้นมี error ไหม ไม่มีการเขียน test case อะไรนะครับ
Skill ที่มีตอนนี้
- SQL
- R
- Python (พอได้ กำลังเรียนเพิ่ม)
- Spreadsheet
- Dashboard
- prompt AI
ตอนนี้เริ่มลังเลครับ เพราะรู้สึกว่าสาย SA ต้องมีพื้นฐานที่ผมยังขาด และดูไม่ค่อยโตเท่าไหร่(จาก skill ที่ผมมี) อีกอย่าง หางานสาย Data ก็ดูแล้วค่อนข้างหายาก โดยเฉพาะระดับ Junior ผมเลยเริ่มคิดว่า…
จะลองไปสาย Tester แทนดี? กำลังมองคอร์ส manual/auto testing เลยอยากขอคำแนะนำหน่อยครับว่า…

พี่ๆ มองอนาคตสาย Data กับ Tester ยังไงบ้าง?

ถ้าจะไปสาย Tester ควรเริ่มจากอะไร วาง roadmap ยังไงดี?
สายไหนจะไปได้ไกลกว่า?

และถ้าย้ายไปสาย tester ควรวาง Roadmap อย่างไร?
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นครับ

ถ้าเอา 2 ทางนี้ผมว่า data analysis รุ่งกว่าเยอะนะครับ อย่ามองว่าสายไหนเริ่มง่ายกว่า ให้มองว่าสายไหนไปได้ไกลกว่า

ในมุมผมที่อยู่ career ฝั่ง IT, และเพื่อนส่วนใหญ่อยู่สาย Data นะครับ

ผมว่า Demand ตอนนี้ของฝั่ง Data น้อยมากครับ เทียบกับ Supply คิดภาพง่ายๆ พอคน hype เรื่อง data มากๆ คนเก่งๆ ก็อยากเข้ามาทั้งคนที่จบไอที วิศวะ เศรษฐศาสตร์​ ไฟแนนซ์ บริหาร คือง่ายๆ ทุกสายเข้ามาทำได้หมดครับ

ผมเลยให้แนวคิดนะว่าถ้าคนเก่งๆ เข้ามาสายนี้หมดการที่เราจะไปไกลได้ ต้องสู้กับเสือสิงห์กระทิงแรดไปหมด เราต้องลำบากแค่ไหน 55555555 และยิ่งเปน junior ยิ่งจบเลยครับ เด็กจบใหม่เทพๆเต็มไปหมด มีแต่คู่แข่ง

ขณะเดียวกันสาย IT ยังไงก็ต้องมีครับ ยิ่งถ้าได้พฐ Tester อยู่แล้วเก็บประสบการณ์ไปทำ SA ได้ ต่อนี่ยาวๆไปครับ มี demand ตลอดเวลาแต่อยู่ที่เราจะ qualify รึป่าว

สรุปคือเชียร์อยู่สายไอทีครับ แต่ยังไงก็ตามเอาใจช่วยครับ

ขออนุญาต PM ไปนะครับ

ทำอย่างเดียว หางานได้ยากแล้วครับ

ถ้าจะไปสาย data คุณต้องได้เรื่อง security ด้วยเพราะเดี๋ยวนี้กฏหมายคุ้มครองข้อมูลมันเข้มข้นมากขึ้น การทำ Analyst ได้อย่างเดียว AI มันทำแทนได้แทบจะหมดแล้วครับ แล้วก็หางานยากด้วย ตำแหน่งพวกนี้มีแค่ในองค์กรใหญ่ๆ ที่มีลูกค้าเป็นล้านคน

ส่วน Tester นอกจากความรู้ทั่วไปแล้ว คุณควรจะมีพื้นฐานเรื่อง Security Testing เพิ่มขึ้นมาด้วย คุณจะได้เปรียบกว่าคู่แข่งเพราะคนที่ผมรับมาทำานส่วนใหญ่จะไม่ได้เรื่องพวกนี้กัน แต่มันเป็นเรื่องที่องค์กรต้องการอยู่ครับ

ส่วนปัจจุบัน ผมว่าไอ่งานที่คุณทำอยู่อะครับ ขาดแคลน หาคนยากมากเลย

มุมผม QA testerดีกว่าคนdev มีมาตลอดแต่คนที่ทดสอบระบบไม่ค่อยมีสุดท้ายก็ใช้ dev นั้นแหละกับพวก pm มีหลุดก็แก้ไปตามหน้างานสุดื้ายก็กลับมา pm รับหน้าไปงานคุณขยับนึ้นเป็น pm ได้อัพสกิล test qa ดีกว่าไม่ต้องไปมุ่ง dev มาก

ขอบคุณมากครับ อยากสอบถามพี่เคยรับ tester ย้ายสายงานมาไหมครับ

ใช่ครับเหมือน บ.ผมไม่มี tester เลย Dev,SA test เองสลับๆกันไป ผมเลยคิดว่าความต้องการรับ tester ตามบ.ต่างๆน่าจะสูง

TL;DR ถ้าถามว่าสายไหนไปได้ไกลกว่า สายดาต้าไปได้ไกลกว่าครับ “แต่”ต้องเก่งแบบโดดเด่นไปเลยนะ

สาย Testing หรือ QA มันแยกออกมาได้เป็นทั้ง functional tester หรือว่า performance tester ด้วย (สำหรับระบบใหญ่ๆ) ซึ่งใช้คนละสกิลและความรู้ functional tester มันก็จะอิงกับงาน SA/BA มากกว่า แต่ถ้าเป็นสาย performance test ก็ควรจะถนัดเรื่อง infra มากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เส้นทางการโตก็ไม่ได้ต่างกันมาก อาจจะไปจบที่ solution architect หรือ enterprise architect ต่อก็ได้ ถ้าความรู้ด้าน tools และวิธีการเทสต์ค่อนข้างแน่น รวมถึงเข้าใจ business/logical processes ค่อนข้างดีนะ

ขณะที่สาย data ถ้าอยากโต ผมแนะนำเลยว่าให้รู้ business/market/industry ที่เราจะไปทำให้ดีๆๆๆๆ เพราะ data มันก็คือ data แต่เราต้องเก่งในการเอา data => insights ซึ่งมุมมองพวกนี้ หลายครั้งเอามาจากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนั้นๆ ผมเคยทำงานกับเด็กๆ DA/DE ที่เก่งมากๆ แต่ขาดความรู้เรื่อง business ทำให้ data ที่ไปหามาได้ เอามาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ได้ ขณะที่น้องผญอีกคน ไม่ได้เก่งเรื่อง data มาก แต่โคตรเข้าใจตลาด (น้องมาจาก marketing) ทำให้เวลาประชุมที่ต้องการ dimension ใหม่ๆ น้องมันเสนอออกมาได้ค่อนข้างดี

สาย data ที่ผมรู้จักก็โตไปเป็น CDO CMO หลายคน แต่สาย Testing ส่วนใหญ่ที่รู้จักก็อยู่ในวงการเทคฯ หรือคอนซอลท์แล้วก็เป็น principal architect หรือ solution architect มากกว่า คือยอดสูงสุดสู้สาย data ไม่ได้ แต่ที่ยืนมีมากกว่าครับ เพราะสาย data มันดุเดือดครับ

อันนี้ผมว่าจริงๆจำเป็น แต่หลายบริษัทไม่ค่อยเห็นความสำคัญ ชอบให้ SA/BA ไปเทสต์แทนอยู่เรื่อยๆเลย โดยเฉพาะ SIT นี่เอา SA/BA มาทำกันโคตรบ่อย (บ.ใหญ่ในตลาดหลายเจ้าทำแบบนี้ด้วย) ยกเว้นจะได้ CTO ที่เข้าใจงานตรงนี้จริงๆถึงจะมี dedicated tester ครับ