[RE: ลูกเสือเดินสวนสนาม ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก]
ถ้าจากประสบการณ์ตรงของผม เคยอยู่วงโยโรงเรียนที่ต้องเล่นเพลงเพื่อรับเสด็จในงานนี้ ยอมรับว่าไม่หนักหน่วงเท่าการเดินสวนสนามครับ เพราะพาร์ทของผมจะหนักแค่ต้องยืนรอนาน รับเสด็จตอนมาถึง และก็ส่งเสด็จตอนทำพิธีเสร็จ (แต่พิธีเสร็จแล้ว ถ้าจำไม่ผิดก็ยังคงมีสวนสนามต่อ) แต่พาร์ทสวนสนามนี่เดินเสร็จแล้วต้องไปยืนรอกลางสนามอีก รอดำเนินการพิธีใด ๆ จนขบวนสวนสนามหมด ถึงค่อยแยกย้าย
ส่วนเคสฝนตกยอมรับว่าตั้งแต่ตอนผมได้ไปงานวันลูกเสือมา แทบไม่เคยมีเหตุการณ์ฝนตกกลางงานมาก่อน แต่ก็นะ เทคโนโลยีปัจจุบันมันเช็กพยากรณ์อากาศได้แม่นยำขึ้น บวกกับช่วงนี้เริ่มฝนตกเป็นประจำอย่างเห็นได้ชัด ก็ควรมีการเตรียมแผน 2-3-4 ก็ว่ากันไป
และฝนตกแบบนี้ ยิ่งฝั่งวงโยนี่หนักเลย เครื่องดนตรีพวก Woodwind นี่ Sensitive กับการโดนน้ำ เพราะความที่เครื่องดนตรีมีส่วนประกอบของไม้ ถ้าโดนความชื้นมากเกิน ก็เสี่ยงเครื่องพังอีก
ปล. อันนี้ Copy สเตตัสจากครูที่ดูแลวงโยนักเรียนที่ต้องสวนสนามในงานวันนั้น ขออนุญาตใส่ใน Spoil ครับ
Spoil
- ไม่มีแผนรองรับกรณีฝนตก ทั้งๆที่รู้ว่าฤดูฝนและฝนก็ตกมาทุกวัน
- ตามกำหนด ไม่ได้แจ้งว่าต้องไปซ้อม หรือกำหนดการใดๆให้ชัดเจน
- พอถึงเวลางานมาเร่ง มาเปลี่ยนกำหนดเอาหน้างาน
- ไม่มีข้าว ไม่มีน้ำให้ ต้องหาซื้อเอาเอง แต่หน่วยอื่นมีข้าวให้น่ะ
- คำแรกที่ทักทาย คือ ‘ โหพี่...กว่าจะถึง นึกว่าจะมาไม่ทัน’ เดี่ยวๆๆๆๆ ผมมาก่อนเวลาเพื่อให้คุณทำงานลวกๆของคุณให้ง่ายขึ้น เจอทักทายอย่างนี้ ใครจะมีกะจิตกะใจมาช่วยงานคุณ
- พอถึงเวลา ฝนมาตามกำหนดเป๊ะ ทุกอย่างพังเพราะไม่ได้วางแผนเอาไว้
- เราช่วยหาทางแก้ปัญหาให้ ว่าให้วงไปเล่นใต้อัฒจันทร์ตรงกลางมั้ย อย่างน้อยเครื่องดนตรีก็ไม่ต้องตากฝนมากจนเกินไป โดนละอองฝน ก็ยังพอเล่นได้ และเด็กยังได้เล่นทุกคน ลูกเสือสวนสนามก็ยังได้ยินเสียงกลอง เดินสวนได้ แต่กลับได้คำตอบว่า นั่นเป็นที่ของนักข่าว อ้าว แล้วเด็กหละ เครื่องดนตรีหละ ไม่สำคัญเลยเหรอ เครื่องพังใครรับผิดชอบ ก็โรงเรียนอีก สรุปสุดท้าย woodwind ไม่ได้เดิน ไม่ได้เป่า กลองก็โดนน้ำฉ่ำๆ
- ‘พี่ช่วยผมหน่อย ไม่งั้นผมหัวขาดแน่’ ในสถานการณ์นั่น มันมีคำพูดอื่นที่ดีกว่านี้มั้ย โหหหหห คุณกล้าพูดคำนี้ออกมาได้ยังไงกัน ตอนนั้นในหัวเรามีคำเป็นล้านคำเลย แต่พูดไม่ออกมันจุก
พอกันที ครั้งสุดท้ายจริงๆ
ระบบการทำงานและประสาน 40 กว่าปี ไม่เคยเปลี่ยน