ไม่ประนีประนอม แล้วคิดว่าทางไหนดีที่สุดครับ มีแนวทางนำเสนอไหม

ยึดในหลักการ สู้ในหลักการ

ไม่ใช่ยอมอ่อนตามเขา เพราะกลัวไม่ได้เป็นรัฐบาล

รอดูคดี 44 สส.นี้ก็ได้ ว่า"ยอมอ่อน"แล้วจะรอดไหม

ผมถึงบอกว่า ถ้าวันนึง ส้มเป็นรัฐบาลขึ้นมา

อาจจะมีอะไรที่ พวกเราอาจจะคิดไม่ถึงก็เป็นได้

ขวา ซ้ายของไทย กับโลก มันคนละเรื่องเลยครับ ตัวผมเองถ้าอยู่เมกานี่ค่อนข้างขวา แต่อยู่เมืองไทยกลายเป็นซ้าย ทั้งที่ชุดความคิดก็๋เหมือนเดิม ยกตัวอย่างพรรคส้ม ตามมาตรฐานสากลคือซ้ายกลาง แต่มาตรฐานไทยๆคือซ้ายจัด

อีกอย่างที่ช่วงนี้ฝ่ายขวามา เพราะที่ผ่านมาซ้ายมันสุดเกิน ทั้งเรื่องผู้อพยพและWoke

เด็กรุ่นใหม่ไปทางขวา แต่ขวาประเทศไทยมันวิปริตเกินจะนับเป็นขวาอ่ะ คหสต

ผมมองว่าเค้าเริ่มตั้งใจสร้างฐานเสียงจริงๆมากกว่า
เพราะที่ผ่านมามันไม่พอ ถ้าจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
ฐานเสียงกับอำนาจต้องมากกว่านี้ ...
การมาพูดในสภามันไม่พอ หลายๆคนไม่ได้ดู บางคนดูแค่คลิปตัดๆ
บางคนที่ดูก็อาจจะแค่พอใจให้เค้าเป็นฝ่ายค้าน แต่มันไม่สร้าง
แรงกระเพื่อมในโลกความจริงที่มากพอ ...
สุดท้ายต้องมาสร้างรากฐานใหม่ เข้ามาอยู่ในประกันสังคม
เพราะฐานเสียงเป็นคนวัยทำงานจ่ายภาษี
ไปลงสมัครระดับท้องถิ่นก็เพื่อทำผลงานให้ชาวบ้านเห็นโดยตรง
และเพื่อพยายามแก้เกมส์ การแบ่งเลือก เมื่อครั้งก่อน
..................................................

เห็นด้วยครับ ผมฟังคุณช่อบ่อย ชอบในหลักการ ล่าสุดคุยในรายการกับ ดิกเตอร์มัลลิกา คุณช่อทำให้มัลลิกาดูฉลาดน้อยลง

ถ้ายอมอ่อนไปเรื่อยๆ ผ่านไปซักพักคงได้พรรค ปชป2 พูดเก่งแต่ไม่มีหลักการ

ก็พรรคเลือกตั้งอันดับ 1 มาแล้ว แล้วก็มั่นใจในฐานเสียงระดับหนึ่ง เพราะยังไงก็ไม่มีพรรคอื่นมาแข่ง มาแย่งคะแนนในตลาดนี้ เขาก็คิดเรื่องการรักษาตัวให้รอดดีกว่า จะต้องเร่งอะไรทุกเรื่อง มันก็ต้องผ่อนบ้าง พรรคมันไม่ใช่ niche แล้วนะ ที่จะต้องมาทำให้ถูกใจสายสุดโต่ง

ผมมองว่าอาจจะไม่เชิงว่ายอมประนีประนอมเพื่อให้อยุ่รอด

แต่ผมมองในมุมการตลาดแทน จุดยืนเดิมได้คะแนนเท่านี้ (จากคนกลุ่มนึง) ถ้าลดจุดยืนให้อ่อนลงแต่ไม่ใช่เปลี่ยนจุดยืน

คะแนนจากกลุ่มนั้นๆจะหายไปแบบมีนัยสำคัญมั๊ย (ซึ่งผมว่าไม่ ผมก็ยังกาพรรคนี้อยุ่ดี เพราะไม่มีพรรคไหนนำเสนอจุดยืนที่แข็งกว่านี้)

กลับกันอาจจะไปเพิ่มคะแนนจากคนอีกกลุ่ม ที่เบื่อทางเลือกเดิมที่พวกนี้เคยเลือก และเห็นว่าจุดยืนใหม่ที่อ่อนลงน่าสนใจกว่าเดิม

เทียบง่ายๆอย่างสมัยตาเอกที่คาแรคเตอร์แข็งเป้กพร้อมชน พอเปลี่ยนมาเป็นพิธาที่ไม่ใช่แค่คาริสมาเด่น แต่มีความประนีประนอมขึ้นด้วย

คะแนนก็ได้มากขึ้นจากส่วนนี้ด้วยแหละ พรรคอาจจะมองว่าวิธีการเดิมจุดยืนแบบเดิม คะแนนก็ใกล้เคียงเดิม ตั้ง รบ.พรรคเดียวไม่ได้อยู่ดี

ถ้าเปลี่ยนวิธีการเพื่อเพิ่มฐานใหม่ โดยไม่ลดเสียงฐานเดิม ก็เป็นสิ่งที่น่าลอง

ไปแก้ 112 เลย ยังไงก็แตก
ต้องเริ่มจากแก้กฎหมายพวกองค์กรอิสระ
ลดขนาดกองทัพ พวกนี้ก่อน

ถูกต้องครับ พรรคประชาชนมีจุดยืนเปลี่ยนไปจาก ตอนเป็น อนาคตใหม่/ก้าวไกล เล็กน้อย แต่ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติและเข้าใจได้ เพราะ ตอนนี้พรรคมี สส 151 จาก 494 คิดเป็น 30% และตั้งเป้าว่าจะได้ 50% ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตัวพรรคมันจำเป็นต้องโอบอุ้มความคิดคนที่หลากหลายมากขึ้น ความเข้นข้นเลยต้องลดลง

ประมาณว่า ตอนเราเปิดร้านอาหารในตำบล เราอาจจะทำรสจัดจ้านได้ แต่ถ้าคิดจะขายทั่วประเทศก็ต้องลดรสชาติลงให้คนอื่นกินได้ด้วย ส่วนประเด็นที่จัดจ้านก็ให้เป็นเรื่องของรายบุคคล(ให้เค้าปรุงเอง) ซึ่งในรายสส. ก็ยังมีอยู่นะ แต่ในนามพรรคอาจไม่ก้าวหน้าเท่าเดิม

แน่นอนและรวมผมด้วย จะมีความเสียดาย/ผิดหวังกับพรรคมากขึ้นในหลายๆ move แต่ยังไงเราก็ไปหวังกับพรรคอื่นไม่ได้เลยจริงๆ อันนี้เราต้องทำใจครับ ลำพังฐานความคิดจุดเริ่มต้นมันเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ไม่ได้ พรรคต้องการคนมาสนับสนุนมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาร่วมของสังคมนี้ให้ได้ก่อนครับ

ขอครั้งเดียว แล้ว ประชาชนหวงแหนอำนาจตัวเองมากพอจะไม่ให้ใคร แย่งไปอีก

เหมือนว่าทหารจะยอมให้เปลี่ยนอะนะถึงหัวหายไปกลัวจะไปเป็นระบอบแบบพม่าอะดิ

ดีแล้ว เบาๆลงก่อนช่วงนี้
รอให้ได้บริหารก่อน จะแรงยังไงก็ได้ถึงตอนนั้น

เหมือนที่ทอนเคยพูดไว้ว่าส้มจริงๆไม่ได้ซ้ายสุดโต่งมันต้องถามสังคมกลับว่าตอนนี้สภาพการเมืองไทยแบบไหนคือซ้ายแบบไหนคือขวา

พวกการเมืองเน่าๆพรรคคนแก่เก่าๆต่างหากที่ขวาตกขอบมานานหลายสิบๆปี พอมีส้มโผล่มามันเลยดูสุดโต่ง